“MarTech” ไม่ใช่ไม้กายสิทธิ์ เปิดสูตร 5Ps ดึงเทคโนโลยีหนุนธุรกิจสำเร็จ
สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย(MAT) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 พร้อมสัมมนา “MarTech & Insight Trends 2024 นักการตลาดยุคใหม่ รู้ไว้ไม่ตกเทรนด์” เป็นการเจาะอนาคตเทคโนโลยีการตลาดหรือ MarTech ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ต้องเกาะติดกระแสอะไรบ้างที่กำลังมา เพื่อไม่ให้นักการตลาดตกเทรนด์ คนทำธุรกิจเตรียมตัว เตรียมพร้อมรับมือ และนำไปประยุกต์ใช้ต่อไป
สิทธินันท์ พลวิสุทธิ์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเจ้าของเว็บไซต์ Content Shifu และ บังอร สุวรรณมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท ฮัมมิ่งเบิร์ด คอนซัลติ้ง จำกัด ผู้ให้บริการงานวิจัยด้านการตลาด หยิบรายงาน Thailand’ s MarTech 2024 หลากหลายแง่มุมนำเสนอ หลังจากทำการสำรวจมุมมองผู้ใช้งานมาร์เทคจากแวดวงธุรกิจต่างๆขนาดต่ำกว่า 10 ล้านบาทไปจนถึงหลักร้อยล้านบาท ผ่านรูปแบบเชิงปริมาณ ในกลุ่มตัวอย่าง 400 ราย และสัมภาษณ์เชิงลึก
สำหรับ แนวโน้มเครื่องมือ Martech ที่มาแรง พบว่า 3 อันดับแรก ได้แก่ ด้านข้อมูล มีความสำคัญเป็นอันดับ 1 ไม่ว่าจะเป็น Alalytics, Social Listening, Marketing และBusiness Dashboard ตามด้วยการพาณิชย์และการขาย เช่น eCommerce&Shopping Cart Platform, Multichannel Management และโซเชียลและความสัมพันธ์ เช่น Social Media management CRM อีเวนต์ ฯ ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือที่รวมการโพสต์เนื้อหาของแบรนด์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆได้พร้อมกัน 10-20 บัญชีในคราวเดียว โดยไม่ต้องทำทีละโพสต์
“MarTech ด้านข้อมูลอย่าง Social Listening เมื่อมีผู้บริโภคพูดถึงแบรนด์ติ ด่า จะได้แก้ไขได้ทันที ส่วน Analytics และ Dashboard ต้องมีสำหรับผู้บริหาร ขณะที่อีคอมเมิร์ซ หากมีลูกค้าสนใจซื้อสินค้า ระบบแชทบอทหลังบ้านจะช่วยให้การขายของได้ดีขึ้น”
ด้านการลงทุน MarTech พบว่าองค์กรส่วนใหญ่ 33% ยังปันงบประมาณเพื่อ MarTech น้อยกว่า 1% ตามด้วย 30% ปันงบ 1-2% ส่วนที่เปย์เกิน 10% มีองค์กรราว 6% เท่านั้น ขณะที่สัดส่วนงบ MarTech ต่องบการตลาด 35% ยังใช้ 10% หรือน้อยกว่า และมีเพียง 17% ที่จัดสรรงบให้มากกว่า 50%
“จักรวาล MarTech กว้างมากขึ้น มีเครื่องมือหรือ Tool ให้ใช้มากมาย อย่างปี 2565 มี MarTech ไม่กี่ร้อยตัวให้เลือกใช้ ปัจจุบันมากกว่า 1.3 หมื่นตัว ปัจจุบัน MarTech เป็นเนื้อเดียวกับการตลาด หากองค์กรธุรกิจไม่นำมาใช้ เหมือนถือหอกออกไปรบซึ่งจะต่อกรยากขณะที่คนอื่นใช้บาซูก้า”
สำหรับการเลือกใช้ MarTech ยังพบว่า การใช้งานง่ายมีผลอย่างมาก และผู้คนให้น้ำหนักมากกว่าฟีเจอร์ ฟังก์ชั่นที่ซับซ้อนด้วย จึงเห็นแพลตฟอร์มมาแรงอย่างแคนวา(Canva) ที่ช่วยออกแบบกราฟฟิกออนไลน์ งานนำเสนอต่างๆได้อย่างดี
MarTech มีอิทธิพลต่อการทำตลาดมากขึ้น เมื่อดู “เป้าหมาย” ของการใช้งาน องค์กรเห็นพ้องเรื่องการช่วยปั๊ม “ยอดขาย” ให้เติบโต ทว่า MarTech ไม่ใช่ “ไม้กายสิทธิ์” เสกทุกสิ่งได้อย่างฝัน และการเลือกใช้ MarTech ต้องสอดคล้องวัตถุประสงค์ของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความเร็วหรือ Speed ย่อโลกการทำตลาด ชอปปิงให้เร็ว ช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด เพื่อให้ “คน” ไปทำงานดูแลลูกค้าหรือมีความเป็น Humanization
อีกปัจจัยสำคัญการเลือกใช้ MarTech คือใช้งานง่าย เพราะหากมีความซับซ้อน แล้วไม่มีผู้ใช้ย่อมจบ
“MarTech ที่ใช้งานง่ายก็มีเสน่ห์ สิ่งที่น่าสนใจ เมื่อนักการตลาด คนในองค์กรธุรกิจที่ได้ใช้งาน MarTech ยิ่งใช้งานนานขึ้นยิ่งมีความแฮปปี้ ใหม่ๆใช้งานอาจหงุดหงิด เพราะต้องมีการเรียนรู้”
2 กูรูด้านเทคโนโลยีการตลาดยังทิ้งกุญแจความสำเร็จการใช้ MarTech ผ่านสูตร 5Ps ประกอบด้วย 1.Planning & Strategy กลยุทธ์คือรากฐานสำคัญ ต้องรู้จักแบรนด์ตนเอง วิเคราะห์คู่แข่ง ตลาด ลูกค้าให้เป็น และอ่านเทรนด์ให้ขาดก่อนสู้รบ 2.People บุคลากรต้องพร้อมลุย เพราะหากซื้อเครื่องไม้เครื่องมือการตลาดมาเต็มสูบ แต่ไม่ใช้ก็จบ 3.Process กระบวนการที่เป็นระบบ ถือเป็นเครื่องยนต์ให้การตลาดเดินได้ แต่ต้องวางทัพทีมงาน การรับผิดชอบให้ชัด 4.Platform เครื่องมือที่ตอบโจทย์ เพราะ แต่ละแบรนด์ องค์กร สินค้ามีแพลตฟอร์มที่เหมาะสมแตกต่างกันไป และ 5.Pioneer ทีมนักสำรวจผู้เชี่ยวชาญ องค์กรต้องมีตัวตึง ผู้นำธง สร้างแรงบันดาลใจ กล้าที่จะใช้ MarTech
“องค์กร นักการตลาดจะนำ MarTech มาใช้ กลยุทธ์ต้องชัดเจน ต้องแน่นก่อนออกรบ อย่าพึ่งแค่เครื่องมือ”
