'อนุทิน'เผยทำเต็มที่ให้ได้'วัคซีนโควิด-19'ล็อตแรกจากนำเข้า

        เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เรื่องการจัดหาวัคซีนโควิด-19ว่า ตามแผนประเทศไทยมีการสั่งจองวัคซีนล่วงหน้านานแล้วจากของแอสตราเซนเนก้าที่ผลิตโดยบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ รวม 61 ล้านโดสครอบคลุม 50 %ของประชากรไทย  และคนไทยจะได้วัคซีนฟรี  ซึ่งเมื่อพิจารณาสถานการณ์โรคในประเทศไทย  คณะแพทย์ได้มีการวางแผนให้มีการฉีดแพร่หลายตามแผนในเดือนมิ.ย.เป็นต้นไปเป็นแผนเดิม  แต่เมื่อประเทศไทยมีการแพร่ระบาดในระลอก 2 ช่วงต้นปีโดยเฉพาะในจ.สมุทรสาคร และจังหวัดในภาคตะวันออก จึงมีการเจรจากับผู้ผลิตอีกหลายแห่งเพื่อให้นำเข้ามารองรับในสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว โดยได้เจรจาของแอสตราฯที่จะหาจากแหล่งผลิตในยุโรปมาให้ก่อน 1.5 แสนโดส แต่ติดปัญหาเรื่องการขนส่งวัคซีนออกจากยุโรป

       นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคในประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นมีการคุมการระบาดแพร่หลายได้  จึงไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องได้วัคซีนมาก่อนแผนเดิมในเดือนมิ.ย. ก็ได้ แต่ทุกฝ่ายก็พยายามเต็มที่ที่จะดำเนินการให้ได้วัคซีนล็อตนำเข้ามาก่อนจำนวนหนึ่งที่ไม่ใช่ล็อตใหญ่  โดยหวังว่าจะได้มาก่อนก็ถือว่าดีที่จะทำให้ได้มีการใช้เป็นต้นแบบการฉีดวัคซีนในจำนวนไม่มากก่อน เพื่อเตรียมความพร้อมแผนการฉีด การจัดเก็บการกระจาย และแผนสังเกตการณ์ผลข้างเคียง ถ้าจะมีการฉีดแพร่หลายในเดือนมิ.ย.นี้    

      “ยืนยันไทยไม่ได้ล่าช้าเรื่องวัคซีน และมีการเตรียมแผนให้วัคซีนกับประชาชนเต็มรูปแบบอยู่แล้วตามแผนในเดือนมิ.ย.นี้ แต่เพราะเราฟังเสียงประชาชนที่อยากได้วัคซีนเร็ว ก็ทำเรื่องเสนอครม.และหารือคณะแพทย์ที่ดูเรื่องวิชาการ ขอให้พิจารณาในทุกมิติหากทำได้ทั้งความมั่นคงสุขภาพและความรู้สึกประชาชน ถ้าอยู่ในเกณฑ์ที่ทำได้ก็ทำทันที ก็พยายามเต็มที่หาล็อตนำเข้ามาก่อนจำนวนหนึ่ง แต่เมื่อติดขัดปัญหาที่นอเหนือการควบคุมของเรา  ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคในไทยแย่ลง เพราะล็อตแรกที่จะนำเข้ามาก่อนรวมจากทุกแหล่งแล้วราว 2 ล้านโดส ก็เป็นจำนวนที่ไม่มาก และไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์”นายอนุทินกล่าว

          ผู้สื่อข่าวถามว่าแหล่งผลิตอื่นที่แอสตราฯจะจัดหาวัคซีนมาให้ไทยก่อนแผนหลักนั้น จะเป็นแหล่งผลิตในเอเชียหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆตรงนี้เป็นการที่เราไปเจรจาขอให้แอสตราฯจัดส่งล็อตผลิตในต่างประเทศมาให้ก่อน 1.5 แสนโดส  แต่เมื่อติดขัดเรื่องการส่งออกจากยุโรปซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุม   บริษัทก็จะพยายามหาจากแหล่งผลิตอื่นแต่เป็นวัคซีนสูตรของแอสตราฯมาให้ แต่ยังไม่อยากบอกแหล่งที่มา เมื่อไหร่มีการส่งออกมาจากประเทศผลิตแล้วจะแจ้งให้ทราบ ตอนนี้ทุกฝ่ายเต็มที่  อะไรที่ได้มาเพิ่มนอกเหนือจากแผนเดิมในเดือนมิ.ย. ก็ดี
     ต่อข้อถามวัคซีนสำเร็จจากแอสตราฯที่จะนำเข้ามาก่อนหากไม่ใช่ล็อตผลิตในอิตาลีจะกระทบต่อการขึ้นทะเบียนวัคซีนในไทยที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)อนุมัติแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย.รับนโยบายพร้อมรองรับทุกสถานการณ์เรื่องการขึ้นทะเบียนอยู่แล้วบนพื้นฐานของกฎหมาย และความปลอดภัย โดยแพลตฟอร์มวัคซีนของแอสตราฯนั้นอย.รับรองไปแล้ว หากเปลี่ยนแหล่งผลิตและจะนำเข้าจากแหล่งผลิตใด ก็จะดำเนินการเพียงการตรวจและรับรองโรงงานผลิตเพิ่มเติมเท่านั้น

     “วันนี้ทุกคนก็ทำเต็มที่ให้ได้ล็อตแรกที่ไม่มากมาก่อน แต่ไม่ใช่ว่าไม่ได้ล็อตนี้คือไม่มีประสิทธิภาพ  เพราะถึงได้มาก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์โรคเปลี่ยนแปลง  ส่วนแผนวัคซีนหลักที่เป็นล็อตใหญี่จำนวนมากนั้น เรามีแผนรองรับอยู่แล้วตามแผนเดิมในเดือนมิ.ย.นี้ ยิ่งพอการเมืองเข้ามายุ่งยิ่งปั่นป่วน ผมต้องตอบคำถามไปยังแอสตร้าฯ ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง” นายอนุทิน กล่าว