‘ฮ่องกง’ จ่อผ่อนคลายมาตรการชายแดน หลังคุมโควิดได้ผล

‘ฮ่องกง’ จ่อผ่อนคลายมาตรการชายแดน หลังคุมโควิดได้ผล

“ฮ่องกง” จ่อผ่อนคลายมาตรการชายแดน และยกเลิกกักตัว 14 วัน หลังสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ติดเชื้อน้อยลง และทรงตัวต่อเนื่อง

นางแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงคาดการณ์ว่า ฮ่องกงจะผ่อนคลายกฎระเบียบที่เข้มงวดในการเว้นระยะห่างทางสังคม และมีแนวโน้มที่จะยกเลิกมาตรการควบคุมพื้นที่ชายแดน รวมทั้งยกเลิกมาตรการกักตัว 14 วันในอนาคตอันใกล้นี้ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พบผู้ติดเชื้อน้อยลง และยังคงทรงตัวต่อเนื่อง

นางหล่ำ ได้แสดงความเห็นดังกล่าวผ่านทางช่องทางเฟซบุ๊คในเย็นวานนี้ (9 มิ.ย.) หลังรัฐบาลฮ่องกงตัดสินใจที่จะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อปกป้องการจ้างงาน และสร้างงานเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

นางหล่ำ ระบุว่า ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) คิดเป็นกว่า 90% ของธุรกิจในฮ่องกงและเป็นส่วนสำคัญของสังคม ดังนั้นรัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับเอสเอ็มอี อย่างมากในมาตรการเยียวยา เพื่อปกป้องการจ้างงานและสนับสนุนเศรษฐกิจ เนื่องจากการช่วยธุรกิจเหล่านั้นให้รอดหมายถึงการสร้างความแข็งแกร่งให้กับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของฮ่องกง

“แม้สถานการณ์ปัจจุบันจะปรับตัวดีขึ้น แต่ก็ยังคงต้องใช้เวลามากกว่านี้ก่อนที่ฮ่องกงจะหลุดพ้นจากภาวะที่ยากลำบาก และกลับคืนสู่ภาวะปกติ” นางหล่ำ ระบุ

ทั้งนี้ ผลสำรวจของรัฐบาลเกี่ยวกับกิจกรรมทางธุรกิจล่าสุดของเอสเอ็มอี ในฮ่องกงนั้นแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจต่างๆ ค่อยๆ กลับมาดำเนินการอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลฮ่องกงเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดด้านการเว้นระยะห่างทางสังคมทีละขั้น ขณะที่การแพร่ระบาดได้เริ่มทรงตัวอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า ดัชนีความเชื่อมั่น diffusion index ในปัจจุบันของเอสเอ็มอี เพิ่มขึ้นเป็น 41.9 ในเดือน พ.ค. จากระดับ 31 ในเดือน เม.ย. และบริการด้านการจัดเลี้ยงเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้นเท่าตัวจากระดับ 25.5 ในเดือน เม.ย. สู่ระดับ 52 ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา