กรมเชื้อเพลิงฯ คาดรายได้ปิโตรเลียมปี63หด เหตุโควิด-19 กดราคาน้ำมันดิบ

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า กรมฯ อยู่ระหว่างประเมินผลกระทบอุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศปีนี้ หลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ยอดการใช้พลังงานทั้งน้ำมันและก๊าซฯทั่วโลกหายไป จนกระทบต่อราคาน้ำมันดิบลดต่ำลงในรอบหลายปี

โดยเบื้องต้น ยอมรับว่า ในส่วนของค่าภาคหลวงจะได้รับผลกระทบจากระดับราคาน้ำมันและราคาก๊าซฯที่ลดลง แม้ว่าในแง่ของปริมาณการผลิตจะไม่ได้ลดลง ฉะนั้น จะมีผลต่อรายได้เข้ารัฐในปี2563

ทั้งนี้ สำหรับปี 2562 อุตสาหกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศ สร้างรายได้เข้ารัฐ 1.6 แสนล้านบาท ถือเป็นกรมฯ ที่มีการจัดหารายได้มากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศ จาก 3 อันดับแรกเป็นหน่วยงานใต้สังกัดของกระทรวงการคลัง คือ กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร และกรมศุลกากร

โดยภาพรวมการจัดหาปิโตรเลียมจากแหล่งในประเทศในช่วงปี 2562 มีสัมปทานปิโตรเลียม ในประเทศที่ดำเนินการอยู่ 38 สัมปทาน 48 แปลงสำรวจ แบ่งเป็นแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย 29 แปลง และแปลงสำรวจบนบก 19 แปลง

นายสราวุธ กล่าวอีกว่า ส่วนการประกาศเลื่อนแผนการเปิดยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ (รอบที่ 23) ที่เลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนดนั้น ยังต้องรอจนกว่าโควิด-19 จะคลี่คลาย จากเดิมที่กรมฯวางแผนจะเปิดให้ยื่นขอสิทธิฯในช่วงปลายเดือน มี.ค.63 แต่ก็ยังคาดหวังว่า จะสามารถประกาศเปิดประมูลฯรอบใหม่ได้ภายในปีนี้

แหล่งข่าววงการปิโตรเลียม เปิดเผยว่า ผู้ผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ตกต่ำลง โดยเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลให้การใช้น้ำมันทั่วโลกหายไป 20-30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทำให้ราคาน้ำมันดิบต่ำสุดในรอบกว่า 20 ปี และทำให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในประเทศไทยที่มีประมาณ 16 ราย ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ซึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ที่ 6 ราย ที่ไม่สามารถประกอบกิจการต่อไปได้ และอาจต้องหยุดการผลิตลง ซึ่งขณะนี้กระทรวงพลังงาน อยู่ระหว่างหามาตรการเข้าไปดูแลผู้ประกอบการดังกล่าว เพราะผู้ผลิตน้ำมัน ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ และอาจกระทบต่อรายได้ที่ส่งเข้ารัฐในอนาคต รวมถึงการจ้างงานในประเทศด้วย