มาตรการ'ธปท.-กลต.'ได้ผล ยอดขาย‘กองทุนบอนด์’ลดฮวบ

นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด และในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) เปิดเผยว่า หลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)  ปรับเกณฑ์ช่วยเหลือกองทุนรวมให้ครอบคลุมตราสารจากทุกกองทุน ถือว่าเป็นมาตรการที่ดี ช่วยให้มีความยืดหยุ่นและครอบคลุมกองทุนมากขึ้น เช่น นำสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดีของกองทุนมาทำรีโป (repo) ได้

  นอกจากนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต. ) ยังเอื้อให้กองทุนหาสภาพคล่อง ทำรีโปได้มากขึ้นจาก10%เป็น30%ของ NAVกองทุน ยิ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้มากขึ้น สะท้อนจากภาวะการลงทุนกองทุนตราสารหนี้วานนี้(24มี.ค.) ทั้งมูลค่าสินทรัพย์ (NAV) ค่อยๆฟื้น ขณะที่มียอดไถ่ถอนหน่วยยังมีอยู่บ้างแต่ลดลงมาก  เช่นเดียวกับกองทุนตราสารหนี้ของบริษัท ที่มีสัญญาณการฟื้นตัวดี  โดยกองทุนตราสารหนี้ของบริษัทลงทุนในสินทรัพย์คุณภาพและมีการบริหารจัดการสภาพคล่องที่ดีอยู่แล้ว

“กองทุนยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องว่าจะมีปัจจัยอื่นมากระทบอีกหรือไม่ โดยเชื่อมั่นว่า มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของธปท. ครอบคลุมและเพียงพอ  ขณะที่ผู้จัดการกองทุนยืนยันว่า สามารถบริการจัดการสภาพคล่องได้ดีขึ้น ซึ่งจะใช้เครื่องมือตามมาตรการเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น”

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า มาตรการของธปท. และก.ล.ต.ที่ประกาศออกมา ทำให้มีเครื่องมือบริหารสภาพคล่องอย่างเต็มรูปแบบครอบคลุมทั้งในภาวะปกติและผิดปกติ ช่วยทำให้ความมั่นใจในระบบกลับมา  

โดยปัจจุบันสถานการณ์การตื่นตระหนกแห่ไถ่ถอนกองทุนตราสารหนี้ ค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้น เม็ดเงินไหลเข้าไหลออกทุนเริ่มนิ่งมากขึ้น เมื่อเทียบกับเมื่อสิ้นสัปดาห์ก่อน ในส่วนของกองทุนตราสารหนี้ของบลจ. ไทยพาณิชย์ วานนี้ (24 มี.ค.) NAV ปรับตัวดีขึ้นและยอดไถ่ถอนทรงตัวต่อเนื่องจากวานนี้

“แนะนำว่าผู้ลงทุนไม่ต้องตกใจ หรือกังวล ระบบตอนนี้มีความแข็งแรงมากขึ้น กองทุนส่วนใหญ่มีสภาพคล่องค่อนข้างมากและยังมีมาตรการเสริมสภาพคล่องเข้ามาช่วยเหลือ มั่นใจว่าแม้จะมีการไถ่ถอนหน่วยเพิ่มเติมก็ยังมีสถาพคล่องเพียงพอ และคุณภาพสินทรัพย์ของกองทุน ส่วนใหญ่เป็นสินทรัพย์คุณภาพ ระดับAขึ้นไปและเป็นพันธบัตรรัฐบาล ถือไว้ยังได้เงินต้นคืน จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องไถ่ถอนหน่วยลงทุนแต่อย่างใด”

นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า มาตรการช่วยเหลือสภาพคล่องในระบบตราสารหนี้ของธปท. และก.ล.ต. ในขณะนี้ถือว่าเป็นมาตรการถูกที่ถูกเวลา ซึ่งหากยังมีคนขายอยู่ก็มีคนรับซื้อ ไม่ต้องมีการขายหุ้นกู้กดราคา จะทำให้ระบบเสียหาย

ขณะที่มาตรการดังกล่าวถือว่าได้ผลการตื่นตระหนกลดลงอย่างมาก โดยวานนี้ (24มี.ค) ภาพรวมยอดขายสุทธิกองทุนตราสารหนี้ ( ณ เวลา 13.00น.)อยู่ที่ 100 ล้านบาท ลดลงค่อนข้างมาก จากเมื่อวันจันทร์ที่ 23 มี.ค. มียอดขายสุทธิกองทุนตราสารหนี้ 5,000 ล้านบาท และเมื่อสิ้นสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 35,000ล้านบาท ขณะนี้ถือว่ามีสัญญาณที่ดี ความตื่นตกใจของผู้ลงทุนคลี่คลายลง

ในส่วนของกองทุนตราสารหนี้ของบลจ. พรินซิเพิล เมื่อวันจันทร์ที่ 23มี.ค. NAV ปรับตัวขึ้นทุกกองมาอยู่ที่จุดเดิม และตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงปัจจุบันยังมีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนเป็นบวกทุกกอง สะท้อนว่าเมื่อมีน้ำมันหล่อลื่นในระบบที่เพียงพอ ตลาดกลับมาเป็นปกติ เงินก็ยังไหลกลับเข้ามา