ททท.ชู 'เซฟตี้ ทัวริสซึ่ม' ดันมาตรฐานใหม่กู้เชื่อมั่นทัวริสต์

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลกในปัจจุบัน ทำให้ ททท.ต้องเตรียมความพร้อมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเพื่อรองรับพฤติกรรมและรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป มุ่งยกระดับการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย (Safety Tourism) จากการติดเชื้อ และกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ในภาคท่องเที่ยว

“ททท.จึงร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขจัดทำมาตรฐาน SHA (Safety & Health Administration) ออกแนวทางปฏิบัติแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ครอบคลุมทั้งกิน เที่ยว พัก และประชุม เพื่อสร้างความมั่นใจในการท่องเที่ยวประเทศไทยแก่ผู้รับบริการ ถือเป็นหนึ่งในมาตรการภายใต้นโยบายซ่อมสร้างของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อรักษาความเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม โดยเตรียมเปิดตัวมาตรฐาน SHA ในเดือน เม.ย.นี้ หลังจากก่อนหน้านี้ประเทศสิงคโปร์ได้ออกมาตรฐาน SG Clean เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวไปแล้ว”

นายยุทธศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ทั้ง 5 สำนักงาน ททท.ในประเทศจีนไปศึกษาว่าแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจีนเตรียมการเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่าในโลกนี้ไม่มีใครทิ้งตลาดนักท่องเที่ยวจีนได้ เนื่องจากแต่ละปีมีจำนวนชาวจีนเดินทางไปต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 120 ล้านคน ถ้าภาคท่องเที่ยวไทยให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและอนามัยมาเป็นอันดับแรก และปฏิบัติในสิ่งที่นักท่องเที่ยวจีนคุ้นเคย ก็จะมีส่วนเสริมความเชื่อมั่นในการเดินทางมาไทย

หลังได้รับแจ้งจากนายวิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ว่า ประเทศจีนได้ประกาศให้ชาวจีนเริ่มเดินทางในประเทศได้แล้ว เริ่มที่การเดินทางภายในมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียง และคาดว่าเดือน เม.ย.นี้จะเปิดให้เดินทางข้ามมณฑลได้ และน่าจะเปิดให้เดินทางไปต่างประเทศได้เร็วๆ นี้

สำหรับตลาดไทยเที่ยวไทย ททท.ยังไม่ได้ปรับลดเป้าหมายจากเดิมปีนี้ตั้งไว้ที่จำนวน 172 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับจำนวน 167 ล้านคน-ครั้งของปีที่แล้ว โดยในช่วงนี้มองว่าคนไทยอาจเลือกท่องเที่ยวแบบดาวกระจายหรือเป็นกลุ่มเล็กๆ เดินทางด้วยรถยนต์ไปเป็นคู่ ครอบครัว และกลุ่มเล็กๆ ที่ไม่มีความเสี่ยงจากเชื้อโควิด-19

“มองว่านิยามของสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยตอนนี้คือ “2 กลัว 2 กรรม” กลัวที่ 1 คือกลัวว่าจะมีการระบาดจากต่างประเทศเข้ามาในไทย กลัวที่ 2 คือกลัวว่าการแพร่ระบาดจะกระจายวงกว้างออกไปอีก หลังมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อว่ามีแล้วกว่า 18 จังหวัด ส่วนกรรมที่ 1 คือต้องหยุดกิจกรรมที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการแพร่เชื้อ และกรรมที่ 2 คือเรื่องของการเดินทางที่ทำให้เกิดการระบาด สิ่งสำคัญตอนนี้คือทำให้ประเทศไทยปลอดไวรัสโควิด-19 ตามภารกิจหลักของรัฐบาล” ผู้ว่าการ ททท.กล่าว