ระทึก! เพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น กลางเมืองนครปฐม

ระทึก! เพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น กลางเมืองนครปฐม

เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น กลางเมืองนครปฐม เสียหายหลายล้านบาทโชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

เมื่อเวลา 23.30 น.วานนี้ (5 ต.ค.60) เกิดเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ในตัวเมืองนครปฐม ต้องระดมรถน้ำและรถดับเพลิงกว่า 10 คัน ฉีดน้ำสกัดต้นเพลิง แต่เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากต้นเพลิงเกิดจากภายในตัวอาคาร และมีกลุ่มควันจำนวนมาก โดยใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 1 ชั่วโมงเพลิงจึงสงบ คาดความเสียหายหลายล้านบาท

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ตลาดตั้งเซียฮวดเก่า (ชุมชนตั้งศรี) อยู่กลางตัวเมืองนครปฐม โดยพบว่ามีกลุ่มควันจำนวนมากพุ่งออกจากตัวอาคาร และมีรถน้ำ รถดับเพลิงจากเทศบาลนครนครปฐม จากเทศบาลบ่อพลับ กว่า 10 คันรุดเข้ามายังที่เกิดเหตุ พร้อมระดมฉีดน้ำแต่ก็เป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากต้นเพลิงอยู่ภายในตัวอาคาร และด้านนอกก็มีกระจกปิดรอบไว้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ต้องทำการทุบกระจก และทำการฉีดน้ำเข้าไปสกัดต้นเพลิง ที่ภายในมีแต่ควันจำนวนมาก และยังมีเสียงระเบิดเป็นระยะอยู่ภายในอีกด้วย

ตรวจสอบต้นเพลิงเกิดจากห้องเลขที่ 172-173 ถนนขวาพระ ตำบลห้วยจรเข้ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จำนวน 2 ห้อง ซึ่งเป็นของนายพงษ์วุฒิ อภิธนางกูล อายุ 64 ปี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำทั้ง 2 ห้อง เบื้องต้นไม่ได้รับแจ้งว่ามีใครได้รับบาดเจ็บ

ต่อมา ร้อยตำรวจเอกวุฑสิษฐ์ แก้วไทรเพ็ชร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รุดมาตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมสอบถามนางสาวพิชญากร ลือนาม อายุ 39 ปี ซึ่งอยู่ห้องติดกัน เลขที่ 171 ที่เปิดเป็นบริษัทไฟแนนซ์ รับจำนำ ให้การว่าช่วงขณะเกิดเหตุประมาณ 23.30 น. ขณะที่ตนกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ ก็ได้ยินเสียงคล้ายสิ่งของบางอย่างระเบิดขึ้นที่บริเวณหน้าร้าน จึงรีบออกมาดูก็พบเห็นมีควันไฟจำนวนมากจากห้องที่ติดกัน จึงรีบเปิดประตูออกมาข้างนอก จึงเห็นว่าห้องที่ขายของชำภายในมีเปลวเพลิงลุกไหม้ และมีควันจำนวนมาก ก่อนที่จะมีรถดับเพลิงจะเข้ามาระงับเหตุดังกล่าว

สำหรับอาคารพาณิชย์แห่งนี้มีจำนวนหลายสิบห้องติดกัน และยังเป็นย่านชมชนอีกด้วย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังห้องใกล้เคียงได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบเบื้องต้นค่าเสียหายคาดว่าหลายล้านบาท แต่คงต้องมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร