



มวลน้ำจาก จ.สกลนคร ทะลักสู่ลำน้ำก่ำ อ.นาแก นครพนม ไหลท่วมร้านในเขตเทศบาลตำบลนาแก บ้านติดลำน้ำก่ำหนีไม่ทันน้ำท่วมไก่ตายยกเล้า ขณะที่ทางจังหวัดประกาศภัยพิบัติแล้ว 5 อำเภอ
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม ว่ามีมวลน้ำหนองหาร จ.สกลนคร ไหลบ่าผ่าน อ.โคกศรีสุพรรณ ทะลักมายังเขต อ.วังยาง จ.นครพนม แล้วไหลลงสู่ลำน้ำก่ำที่ อ.นาแก ส่งผลให้มวลน้ำจำนวนมหาศาลไหลเข้าเอ่อท่วมตลาดสดเขตเทศบาลตำบลนาแกแล้ว แผงร้านกว่า 50 แห่ง และบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ตลาดสด 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำเข้าถล่มกลายเป็นเมืองบาดาลระดับน้ำท่วมสูง 50-80 ซ.ม. ข้าวของเสียหายย่อยยับ รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ต่างเร่งขนข้าวของหนีน้ำกันจ้าละหวั่นตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าในอาคารพาณิชย์ที่อยู่รอบตลาดสด ต่างนำรถกระบะยกสูงและรถอีแต๋น เข้ามาขนย้ายข้าวของอย่างต่อเนื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารจากหน่วย นพค.22 นทพ. นำรถเกรดและรถบรรทุกขนาดใหญ่ บรรจุกระสอบทรายแจกพ่อค้าแม่ค้า ร้านค้าบางแห่งต้องนำถังพลาสติกผสมปูนโปกกันน้ำทะลักเข้าบ้าน แล้วเร่งลำเลียงสิ่งของออกจากร้านกันอย่างโกลาหล โดยมี ผศ.(พิเศษ)เมธา ชูจันทร์ นายอำเภอนาแก ติดตามระดับน้ำก่ำที่เอ่อท่วมตลาดสดเทศบาลตำบลนาแก และอำนวยการขนย้ายสิ่งของเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน
ทางด้านบริเวณสะพานข้ามน้ำก่ำที่มีความยาว 100 เมตร ทางหลักเข้าตัวเมืองนาแก กระแสน้ำได้ซัดคอสะพานชำรุดเสียหายเป็นโพรงลึก เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงฯ จึงลำเลียงกระสอบทราย250 กระสอบ มาปิดกั้นเป็นการชั่วคราว เพื่อปิดทางน้ำหวั่นคอสะพานชำรุดไปมากกว่านี้
ที่โรงเรียนนาแกสามัคคี นายบรรจง ศรีประเสริฐ ผอ. ประกาศปิดเรียน 3 วันตั้งแต่วันจันทร์ที่ 31 ก.ค. ถึงวันที่ 2 ส.ค.นี้ มีกำหนดเปิดเรียนวันที่ 3 ส.ค. เนื่องจากมวลน้ำทะลักจาก จ.สกลนคร และมีเส้นทางถูกตัดขาดหวั่นเกรงว่านักเรียนจะได้รับอันตราย
ด้านนายประทีป ฤทธิกุล รองผู้ว่าฯนครพนม กล่าวว่า วันนี้ทางจังหวัด โดยนายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าฯ ได้ประกาศให้ 5 อำเภอ เป็นอำเภอภัยพิบัติประสบน้ำท่วมแล้ว ได้แก่ อ.นาแก อ.วังยาง อ.เรณูนคร อ.ศรีสงคราม และ อ.นาหว้า มีพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายแล้ว 780,000 ไร่
ส่วนบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นสถานที่เปิดศูนย์รับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดสกลนคร และนครพนม เต็มไปด้วยประชาชนผู้มีจิตอันเป็นกุศลต่างทยอยนำสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคบริโภค ไม่ว่าจะเป็น น้ำดื่ม อาหารแห้ง ไฟฉาย เทียน ไฟแช็ค ยารักษาโรค มาบริจาคอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.ฯ กล่าวว่า ปัญหาอุทกภัยในครั้งนี้นอกจากจังหวัดสกลนครแล้ว จังหวัดนครพนมเองก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ถึง 11 อำเภอ โดยเฉพาะอำเภอวังยาง บ้านนาขามถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง มีเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือราษฎรอย่างเร่งด่วนแล้ว อำเภอนาแก บ้านปากบัง ต.พิมาน ก็ไม่ต่างจากบ้านนาขามเท่าไหร่นัก และเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทางจังหวัดจึงได้เปิดศูนย์รับบริจาคเพื่อรวบรวมสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ตลอดจนเครื่องมือ เครื่องใช้ต่างๆ ที่จำเป็นขึ้นมา โดยแบ่งออกเป็น 2 ศูนย์ เพื่อให้เกิดความชัดเจนสำหรับผู้ที่นำสิ่งของมาบริจาค คือศูนย์บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดสกลนคร 1 ศูนย์ และจังหวัดนครพนม 1 ศูนย์ โดยในช่วงเย็นของทุกๆ วันจะรวบรวมสิ่งของทุกอย่างที่ได้รับบริจาคนำส่งมอบให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในทันที สำหรับผู้ที่มีจิตอันเป็นกุศลที่อยากนำสิ่งของมาบริจาคสามารถนำมาบริจาคได้ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนมหลังใหม่ หรือจะติดต่อมาที่หมายเลข 0-4251-4065,0-4251-1025, 08-1174-3919
ในช่วงบ่ายนายประทีป ฤทธิกุล รอง ผวจ.ฯ นำหัวหน้าส่วนราชการ พร้อมด้วยกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 210 ตลอดจนพ่อค้าประชาชนในพื้นที่ร่วมกันกำจัดเศษวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำห้วยฮ่องฮอ เขตเทศบาลตำบลหนองญาติ ต่อกับเขตเทศบาลเมืองนครพนม บริเวณสะพานตรงข้ามห้างสรรพสินค้าแมคโคร สาขานครพนม โดยเปิดเผยว่าห้วยฮ่องฮอ เป็นแหล่งน้ำที่รับน้ำมาจากอำเภอศรีสงคราม ก่อนที่จะไหลผ่านอำเภอเมืองลงสู่แม่น้ำโขง ขณะในนี้เริ่มมีมวลน้ำจำนวนมากไหลมาตามลำห้วย แต่ด้วยสภาพการจราจรของน้ำเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีเศษวัชพืช กิ่งไม้ มากีดขวางการไหลของน้ำจำนวนมาก ทำให้ปริมาณน้ำผ่านไปด้วยความยากลำบาก ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการล้นเอ่อของน้ำที่จะเข้ามาตามลำห้วยไปท่วมบ้านเรือน ร้านค้าที่อยู่ริมฝั่ง ทุกคนจึงได้ร่วมมือร่วมใจกันเร่งกำจัดเศษวัชพืช ตลอดจนสิ่งที่ขว้างทางน้ำเหล่าออกไป ก่อนที่มวลน้ำชุดใหญ่จะมาถึง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มวลน้ำจำนวนมหาศาลที่เอ่อล้นจากด้าน อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร ได้ทะลักไหล่บ่าเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ อ.วังยาง และ อ.นาแก จมน้ำแล้วหลายหมู่บ้าน หลังมีคำเตือนจากทางจังหวัดว่าลำน้ำก่ำจะล้นตลิ่งมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง อ.นาแก ในขณะนี้ได้รับผลกระทบจากน้ำก่ำล้นตลิ่งเต็มๆ
โดยเฉพาะชุมชนที่อยู่ใกล้ริมตลิ่งน้ำก่ำ ริมทางหลวงสายนครพนม-นาแก ก่อนถึงสะพานน้ำก่ำ มีบ้านหนองห้าง หมู่ 4 บ้านดอนสักทอง หมู่ 12 ต.หนองสังข์ ล่าสุดน้ำก่ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรไปแล้วกว่า 20 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องเร่งนำกระสอบทรายมาปิดกั้นทางน้ำกันจ้าละหวั่น ใกล้กันยังมีพื้นที่ บ้านซ่ง หมู่ 5 บ้านต้นแหน หมู่ 1 บ้านต้นผึ้ง หมู่ 10 และ บ้านกลางน้อย หมู่ 11 พื้นที่ของ ต.นาแก เฉพาะบ้านต้นแหนเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากมวลน้ำมหาศาลไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร แต่เจ้าหน้าที่เปิดประตูระบายน้ำไม่เต็มที่ หลังมีการชี้แจ้งให้เข้าใจต่างแยกย้ายกันไปขนของต่อ
ใกล้ตัวเมืองนาแก ริมถนนบายพาสทางไปอำเภอธาตุพนม มีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้วกว่า 50 หลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมสูง 1.5-2 เมตร ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ต้องนำเรือท้องแบนและรถกระบะยกสูงมาขนข้าวของไปฝากไว้ที่บ้านญาติเป็นการชั่วคราว บางส่วนจมน้ำเสียหายไปแล้ว
นางเทวี บุญพามา วัย 50 ปี ที่มีบ้านอยู่ติดลำน้ำก่ำ เล่าว่าเมื่อวานนี้ระดับน้ำท่วมหลังบ้าน พอตื่นเช้ามาช่วงตี 5 มวลน้ำไหลทะลักเข้าบ้านสูงถึง 2 เมตรอย่างรวดเร็ว จึงเรียกญาติและเพื่อนบ้านมาขนข้าวของขึ้นที่สูง แต่พบว่าไก่พื้นบ้านที่เลี้ยงไว้ในเล้าหลังบ้านจมน้ำตายเกลี้ยง 25 ตัว จึงชำแหละเพื่อนำมาประกอบอาหารทำต้ม-ลาบ แจกผู้มาช่วยขนข้าวของ ขณะที่นายพัทพรชัย บุญพามา วัย 49 ปี ญาติที่บ้านอยู่ใกล้กันมีน้ำท่วมสูง 1.5 เมตร ต้องอาศัยนอนในเต็นท์ชั่วคราว
ด้าน นางธนิดา พรหมดี รองนายก อบต.นาแก กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนใกล้ลำน้ำก่ำ อพยพข้าวของและสัตว์เลี้ยงขึ้นสู่ที่สูง แต่มีบ้านบางหลังเชื่อบ้างและไม่เชื่อบ้าง กระทั่งน้ำเอ่อล้นตลิ่งทะลักมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในพื้นที่ 5 หมู่บ้านดังกล่าว ระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร และมีทีท่าว่าจะสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นอกจากนี้ลำน้ำสาขาโดยเฉพาะลำน้ำบัง ยังเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วม บ้านปากบัง หมู่ 2 ต.พิมาน อ.นาแก ล่าสุดถนนหลายสายถูกตัดขาด ถนนถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านติดอยู่กลางเกาะ เจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.210 และ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.) นำเรือท้องแบนไปอพยพสัตว์เลี้ยงและข้าวของแล้ว
ด้านโซนเหนือของจังหวัดนครพนม ว่าที่ ร.ต.ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอฯ เปิดเผยว่าบ้านห้วยพระ ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน น้ำเข้าท่วมทะลักพื้นที่การเกษตรแล้วประมาณ 2,000 ไร่ หากยังมีฝนตกกระหน่ำอยู่เช่นนี้ มวลน้ำจะไหลมาสมทบแล้วจะไหลเข้าท่วมพื้นที่ปลูกสัปปะรดของเกษตรกร ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าสัปปะรดที่นี่มีรสชาติหวาน เป็นที่ต้องการของตลาดจำนวนมาก หากเป็นเช่นนั้นจริงความเสียหาย จะเกิดผลระยะยาวต่อกลุ่มผู้ปลูกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
รายงานข่าวล่าสุดว่า พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดสกลนคร และนครพนม เพื่อให้กำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่พร้อมเยี่ยมเยียนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เฉพาะที่จ.นครพนม การช่วยเหลือขณะนี้เร่งด่วนอยู่ที่พื้นที่วิกฤตใน อ.นาแก และ อ.นาหว้า เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำจาก จ.สกลนคร โดยขณะนี้ได้เร่งอพยพประชาชน ขนย้ายสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
“สถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคอีสานในขณะนี้ อาจมีน้ำล้นตลิ่งหรือน้ำเอ่อล้นในหลายพื้นที่ เนื่องจากทิศทางของน้ำจะไหลสู่แม่น้ำโขงและอาจมีการระบายนำจากเขื่อนลำปาง ซึ่งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ได้มอบหมายให้หน่วยทหารประจำพื้นที่ในจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังและอาจได้รับผลกระทบ อาทิ จ.นครพนม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และ ยโสธร ได้เพิ่มเติมกำลังเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำ และดูแลประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวให้ปลอดภัยแล้ว” รองโฆษกกองทัพบกกล่าว




