พาณิชย์ เผย ตลาด”บิวตี้พรีเมียม”จีนปี 68 โตแกร่ง โอกาสแบรนด์ไทยเจาะตลาดจีน

สคต. คุนหมิง เผย ตลาดสุขภาพและความงามในจีนยังโตแกร่ง คาดมูลค่าตลาดรวมพุ่งแตะ 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ในปี 68 พบผู้บริโภคยุคใหม่วัย 20-40 ปี เน้นสินค้า "ปลอดภัย-นวัตกรรม-รักษ์โลก"ตอบโจทย์เฉพาะบุคคล ชูโมเดลอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน และงานแสดงสินค้าคุณกุญแจสำคัญให้แบรนด์ไทยแจ้งเกิด
KEY
POINTS
- ตลาดเครื่องสำอางและสินค้าดูแลสุขภาพพรีเมียมในจีนคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 78,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 ถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทย
- ผู้บริโภคชาวจีนกลุ่มเป้าหมายคือช่วงอายุ 20-40 ปี และกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง โดยให้ความสำคัญกับสินค้าคุณภาพ ปลอดภัย มีนวัตกรรม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- แบรนด์ไทยสามารถเจาะตลาดจีนได้ผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และการสร้างความร่วมมือกับผู้ประกอบการจีน
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalized) และสะท้อนวิถีชีวิต จะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดจีน
เว็ปไซต์กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานส่งเสริมการค้าในประเทศ (สคต.) คุณหมิง ประเทศจีน เผยว่า ตลาดสินค้าคุณภาพสูงด้านสุขภาพและความงามในประเทศจีนยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเมืองระดับบน (Tier1 – 2) ซึ่งผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสินค้าคุณภาพสูง การออกแบบทันสมัยและสะท้อนวิถีชีวิตส่วนบุคคล
ข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่าการบริโภคสินค้าคุณภาพสูงในจีน ยังคงเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับผู้ปะกอบการไทยและธุรกิจระหว่างประเทศ
รายงานจาก China-Briefing ประเมินว่า ขนาดตลาดเครื่องสำอางและสินค้าดูแลสุขภาพในจีนคาดว่าจะมีมูลค่า ประมาณ 78,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2568 ในขณะที่ตลาดสินค้าคุณภาพสูง (Premium Cosmetics) ในปี 2567 มีมูลค่า 15,180 ล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะเติบโตเป็น 27,770 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2596
ขณะเดียวกัน ยอดขายปลีกสินค้าทั้งหมดของจีนในปี 2567 อยู่ที่ 48.7895 ล้านล้านหยวน (CNY) เติบโต 3.5 % เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า แม้เศรษฐกิจจีนโดยรวมมีความท้าทาย แต่ผู้บริโภคระดับกลางและระดับบน ยังคงมีความต้องการสินค้าและบริการคุณภาพสูง
แนวโน้มผู้บริโภคจีนในสินค้าคุณภาพสูง โดยข้อมูลระบุว่า ผู้บริโภคจีนช่วงอายุ 20 – 40 ปี และผู้บริโภคกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ให้ความสำคัญกับสินค้าที่มีความปลอดภัย มีนวัตกรรม และสามารถสะท้อนความต้องการด้านวิถีชีวิตของตนเองได้ นอกจากนี้ ยังนิยมสินค้าที่สามารถสร้างประสบการณ์การใช้สินค้าที่ปรับตามความต้องการเฉพาะบุคคล (personalized) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้การเติบโตของตลาดสินค้าคุณภาพสูงด้านสุขภาพและความงามจีนถือเป็น โอกาสสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนเชื่อมโยงจีน - อาเซียน เช่น นครคุนหมิงและมณฑลยูนนาน
-ช่องทางอีคอมเมิร์ชข้ามพรมแดน เป็นช่องทางที่เหมาะสมสำหรับแบรนด์ไทยในการนำเข้าสินค้าสุขภาพและเครื่องสำอางเข้าสู่ตลาดจีน
- งานแสดงสินค้าเกี่ยวกับฃีวิตประจำวันและคุณภาพสูง ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ไทยสามารถจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการจีน รวมถึงเปิดโอกาสในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดระยะยาว
- การร่วมทุนหรือสร้างพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างผลิตภัณฑ์ไทยและจีนช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดน และสร้างเครือข่ายทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
ตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าของไทยที่นำเข้าจีนผ่านช่องทางออนไลน์และงานแสดงสินค้า พบว่า ยอดขายสินค้าคุณภาพสูงเพิ่มสูงขึ้น ร้อยละ 15 ถึง 20 ต่อปี สะท้อนความสนใจและความต้องการของผู้บริโภคจีนในสินค้าไทยคุณภาพสูง
สคต.คุนหมิง ให้ข้อพิจารณาถึงแนวโน้มตลาดว่า แม้เศรษฐกิจจีนโดยรวมมีแนวโน้มชะลอตัว การบริโภคสินค้าคุณภาพสูงยังคงแข็งแรง เนื่องจากผู้บริโภคระดับบนยังคงมีกำลังซื้อสูง และให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าและประสบการณ์การใช้สินค้า
การลงทุนขยายตลาดในสินค้าคุณภาพสูงด้านสุขภาพและความงามถือเป็น กลยุทธ์สำคัญ สำหรับผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค การใช้ข้อมูลสถิติและแนวโน้มตลาดช่วยให้ผู้ประกอบการวางแผนการตลาดและกลยุทธ์การส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงด้านการลงทุน
ตลาดสินค้าระดับสูงด้านสุขภาพและความงามในจีนยังคงมีศักยภาพสูงสำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคอายุน้อยและกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง การเข้าถึงตลาดดังกล่าวควรดำเนินควบคู่ทั้ง ช่องทางออนไลน์และงานแสดงสินค้าร่วมกันเพื่อสร้างเครือข่ายและความน่าเชื่อถืออย่างยั่งยืน
ผู้ประกอบการไทยควรพิจารณาการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนอง ความต้องการเฉพาะบุคคลของผู้บริโภคจีน และคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน การสร้างความร่วมมือระหว่างสินค้าไทยและผู้ประกอบการจีน ถือเป็นแนวทางสำคัญในการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนและส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย - จีนในระยะยาว
ผู้ประกอบการไทยควรติดตามข้อมูลสถิติและแนวโน้มตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับกลยุทธ์การตลาดและการส่งออกให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ







