ชาวนาโกค้นหาเพิ่ม เชื่อเป็นรอยเท้าสัตว์ดึกดำบรรพ์

ชาวนาโกค้นหาเพิ่ม เชื่อเป็นรอยเท้าสัตว์ดึกดำบรรพ์

ชาวกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ เชื่อรอยประหลาดที่พบบริเวณลานหินภูดานม้าในป่าชุมชนภูโหล่ย เป็นรอยเท้าสัตว์ดึกดำบรรพ์ ขณะผู้นำชุมชนร่วมกับกองกำลังทหารฯฯ ร่วมค้นหาเพิ่มเติมและสำรวจเส้นทางหวังพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยว

จากกรณีที่ชาวบ้านใน ต.นาโก อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้พบเห็นรอยประหลาดคล้ายรอยเท้าสัตว์ขนาดใหญ่บนลานหินภูดานม้าภายในป่าชุมชนภูโหล่ย ที่มีความเชื่อกันว่าน่าจะเป็นรอยสัตว์ดึกดำบรรพ์ที่อยู่ในยุคเดียวกับไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว ซึ่งได้สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านที่ทราบข่าว จนทำให้มีคนเดินทางไปชมจำนวนมากตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 4 มิ.ย. 60 นายสุภาพ ไชยสุข นายก อบต.นาโกอ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายจำรัส ไชยสุข กำนัน ต.นาโก ร.อ.เกียรติศักดิ์ ไชยคำมิ่ง ผบ.หมวดรักษาความสงบเรียบร้อย อ.กุฉินารายณ์ กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร และชาวบ้านร่วมสำรวจเส้นทางและค้นหารอยประหลาดเพิ่มเติมหลังชาวบ้านเชื่อว่าน่าจะเป็นรอยเท้าสัตว์ดึกดำบรรพ์ ในยุคไดโนเสาร์เพราะมีพื้นที่ใกล้เคียงกับวนอุทยานภูแฝก อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ จุดค้นพบรอยเท้าไดโนเสาร์ อายุ 140 ล้านปี เป็นไดโนเสาร์พันธุ์เทอร์โรพอด และกลุ่มคาร์โนซอว์ ประเภทกินเนื้อ ซึ่งมีระยะทางห่างกันเพียง 40-50กม. เท่านั้น

นายก อบต.นาโก กล่าวว่า ภายหลังจากการค้นพบรอยประหลาดและมีความเชื่อว่าเป็นรอยเท้าของสัตว์ยุคดึกดำบรรพ์ แต่ด้วยยังไม่มีการตรวจสอบและการยืนยันจากนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ จึงไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นรอยสัตว์ประเภทใดแต่ที่ชาวบ้านดูแล้วก็บอกว่าน่าจะเป็นช้างและหมีป่า เพราะขนาดรอยที่พบมีลักษณะเป็นฝูงกระจัดกระจายทั่วบริเวณลานหินความเป็นไปได้ที่จะเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ก็มีสูงแต่ตอนนี้ได้ประสานให้ผู้นำชุมชนเร่งทำการประชาสัมพันธ์ในส่วนของการค้นพบรอยประหลาดแต่ให้รอการพิสูจน์ตรวจสอบจากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญ

ทั้งนี้ ชาวบ้านที่เดินขึ้นภูเขานี้บ่อยๆ ระบุว่าบริเวณใกล้เคียงกันยังมีรอยลักษณะคล้ายเท้าสัตว์อีกจำนวนมาก ส่วนนี้ทางท้องถิ่นได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านและทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย อ.กุฉินารายณ์ ร่วมสำรวจเส้นทางและค้นหาเพิ่มเติม

“โดยการสำรวจเพิ่มเติม จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่รู้ข่าวแล้วอยากมาชมหรือพิสูจน์รอยประหลาดที่มีจำนวนมากถึง 30 รอยขนาดเล็กใหญ่สลับกันไปแต่ทั้งนี้ทาง อบต.นาโกและคณะกรรมการป่าชุมชนฯ ได้ขอความร่วมมือในการเข้าดูรอยประหลาดที่พบให้งดการจุดไฟ หรือพฤติกรรมเสี่ยงที่จะเกิดไฟป่า เพราะเกรงว่าจะเกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ และทัศนียภาพที่สวยงามของภูโหล่ยป่าชุมชนทั้งยังเป็นแหล่งอาหารป่าของชาวบ้านด้วย”

ส่วนความคืบหน้าในการของการพิสูจน์รอยประหลาดทาง อบต.นาโก ได้ส่งหนังสือและเอกสารต่าง ๆ ให้กับทางอำเภอเพื่อประสานงานติดต่อขอผู้เชี่ยวชาญเข้ามาสำรวจตรวจสอบรอยประหลาดทั้ง 30 รอยแล้ว โดยคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีความเคลื่อนไหวจากส่วนงานที่เกี่ยวข้องขณะที่ในพื้นที่ได้จัดทำป้ายบอกเส้นทาง รวมถึงการจัดเวรยามดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีข่าวการพบรอยประหลาดแพร่กระจาย ทำให้มีชาวบ้านเดินทางมาชมจำนวนมากขณะที่กรมทรัพยากรธรณีได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจในพื้นที่แล้ว โดยมี น.ส.กมลลักษณ์ วงษ์โก นักธรณีวิทยาชำนาญการ และนางธิดา ลิอาร์ด นักธรณีวิทยา ผู้เชี่ยวชาญเรื่องรอยเท้าไดโนเสาร์ที่จะเข้าดำเนินการเก็บข้อมูลเบื้องต้น ส่วนผลตรวจสอบว่าจะใช่รอยเท้าสัตว์ดำบรรพ์หรือไม่ต้องรอผลการวิจัยจากนักวิชาการ