หญิงจบจากม.มหิดลป่วยซึมเศร้า คว้าปืนยิงขมับดับคาสนามยิงปืน

สลด! หญิงจบจากม.มหิดล ป่วยโรคซึมเศร้า คว้าปืนยิงขมับตัวเองดับอนาถคาสนามยิงปืน ซอยลาซาล ด้านตร.ตรวจกล้องวงจรปิดแล้วชัดฆ่าตัวตาย
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 12 เมษายน ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ พาณิชย์กุล รอง สว.(สอบสวน) สน.บางนา รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวใช่อาวุธปืนยิงตัวตายภายในสนามยิงปืนราชนาวีบางนา ซอยลาซาล แขวงและเขตบางนา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.สายชล หงษ์สุวรรณ์ รอง ผกก.(สอบสวน)สน.บางนา พ.ต.ท.ยุทธศิลป์ การินทร์ สว.(สอบสวน)สน.บางนา ร.ต.อ.สมใจ รอดยัง รอง สว.สส. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางนา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และแพทย์เวร รพ.จุฬาฯ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 1 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 100 ตร.วา มีรั้วรอบขอบชิด ภายในเปิดเป็นสนามยิงปืน มีช่องสำหรับยิงปืนทั้งหมด 8 ช่อง ที่ช่องยิงปืนฝั่งขวาสุดคือช่องที่8 (ช่องด้านในสุด) พบศพ น.ส.ลาวัณย์ พลังวิทย์วัฒนา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่198 ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม.นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนพื้น สวมเสื้อยืดคอกลมสีฟ้า นุ่งกางเกงขาสั้นสีชมพู พบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนกระสุนเข้าที่ขมับขวาทะลุซ้าย ใกล้กันพบอาวุธปืนขนาด.38 สีเทา ตกอยู่ตรงหว่างขาของผู้ตาย ถัดไปไม่ไกลที่บริเวณช่องยิงปืนพบแผ่นเป้าที่เพิ่งถูกยิงติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่งนิติเวชฯ รพ.จุฬาฯ
สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันนี้(12เม.ย.) ผู้ตายเดินทางมายังสนามยิงปืนดังกล่าวเพียงคนเดียวและครั้งแรก จากนั้นมาเช่าปืนสั้นขนาด .38 ที่สนามแห่งนี้ แล้วเข้าไปซ้อมยิงในช่องดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่เป็นชายคอยควบคุมดูแลอยู่ข้างตัวตลอด แต่ผู้ตายไม่ได้มีท่าทีจะฆ่าตัวตายแต่อย่างใด จากนั้นได้ซ้อมยิงปืนเปลี่ยนไปถึง 2 แผ่นเป้า กระทั่งเจ้าหน้าที่ควบคุมกำลังเปลี่ยนเป้าแผ่นที่ 3 ให้อยู่นั้น จู่ๆน.ส.ลาวัณย์ ใช้อาวุธปืนที่ถืออยู่จ่อยิงที่ขมับขวาจนล่วงลงไปกองกับพื้น ทำให้บรรดาลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการต่างแตกตื่นเข้าช่วยชีวิต แต่ก็ไม่ทันการณ์
นอกจากนี้ตำรวจได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ตายลงมือยิงตัวตายเอง ไม่มีผู้ใดมาทำร้ายแต่อย่างใด เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เนื่องจากได้สอบถามญาติเคยมีปะวัติการรักษาตัวก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ต้องเรียกญาติผู้ตายและพยาน
แวดล้อมมาสอบปากคำอีกครั้ง รวมทั้งรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ก่อนสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติ น.ส.ลาวัณย์ ทราบว่า เรียนจบจากม.มหิดล เอกวิทยาศาสตร์ จากนั้นก็ได้มาทำงานเกี่ยวกับบริษัททัวร์ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวนำต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สื่อสารภาษาอังกฤษเก่ง
และก่อนหน้านี้พบว่าน.ส.ลาวัณย์ ป่วยเป็นโรคไบโพลา เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และเคยใช้มีดแทงท้องตัวเอง ทางครอบครัวจึงได้พาตัวไปรักษาจนอาการดีขึ้นเมื่อ 5 ปีก่อน แต่มาช่วงหลังพบว่ามีอาการผิดปกติอีกหลายครั้งจนกระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว




