Checklist ยาฉบับพกพา! เตรียมพร้อมเดินทางไกลช่วงหยุดยาวปีใหม่

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่! หลายๆ คนต้องเดินทางไกลกลับบ้านไปต่างจังหวัด หรือไปท่องเที่ยวต่างประเทศ นอกจากจะต้องเตรียมข้อมูลท่องเที่ยวและจัดกระเป๋า  พกไอเทมประจำตัวแล้ว  อีกสิ่งที่ไม่ควรลืม คือ “การพกยา” ติดตัวไป เพราะคงไม่มีใครรู้ว่าจะมีอาการเจ็บป่วยเมื่อใด เราจึงต้องเตรียมความพร้อม แต่การใช้ยาเหล่านี้ก็มีสิ่งที่ควรรู้ และควรระมัดระวังเหมือนกัน

สำหรับยาที่ควรพกเมื่อต้องเดินทางไกล อาทิ ยาแก้แพ้ แก้ปวด ลดไข้ยาสำหรับโรคประจำตัวยาแก้ท้องเสีย ยาอื่น ๆ เช่น ยาดม ยาหม่อง และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

บอกลาเวอร์ชั่นเก่า เปิดสเต็ปลงทุนสุขภาพกาย-ใจให้ปังรับปี 2569

‘สวยซ่อนเสี่ยง’ บทเรียนราคาแพงจากเทรนด์ความงามเร่งด่วน

10 ยาพกพาที่ควรติดตัวเมื่อต้องเดินทางไกล

เมื่อเราเตรียมยาสำหรับการเดินทางแล้ว ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการใช้ วิธีการเก็บรักษา และข้อควรระวังเกี่ยวกับยาก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะจะช่วยให้เราใช้ยาอย่างเหมาะสม ไม่เกิดผลข้างเคียงหรืออันตรายต่อตัวเรา

คุณหมอจิรภัทร สุริยะชัยสวัสดิ์ แพทย์เวชศาสตร์ป้องกันจากแอปฯ หมอดี แนะนำว่า อย่าลืมพกยา 10 ประเภทเหล่านี้ ติดตัวไปเที่ยวด้วย จะได้ปลอดภัยและ อุ่นใจไปตลอดทริป 

1) เจลล้างมือฆ่าเชื้อโรค

แม้โควิดจะไม่น่ากลัวมากแล้ว แต่ต้องการ์ดไม่ตก พกเจลฆ่าเชื้อไว้ ช่วยลดการสะสมของเชื้อโรคที่มือ ลดความเสี่ยงอาหารเป็นพิษ หากมือเลอะเชื้อโรคแล้วไปหยิบอาหารเข้าปาก พร้อมช่วยลดการติดเชื้อโรคอื่น ๆ ได้อีกด้วย

2) ยาแก้เมารถ/เมาเรือ/เมาเครื่องบิน

ถ้ารู้ตัวเองว่าเป็นคนเมารถ เมาเรือง่าย  แนะนำให้กินยาแก้เมา ก่อนเดินทางประมาณ 30 นาที  เพื่อให้ออกฤทธิ์ได้อย่างพอดีระหว่างเดินทาง

3) ยาแก้แพ้

สำหรับกินเพื่อป้องกันหรือบรรเทาอาการแพ้ต่างๆ เช่น แพ้อากาศ มีทั้งแบบกินแล้วง่วงและไม่ง่วง ควรเลือกให้เหมาะกับสถานการณ์ เช่น ถ้าต้องขับรถ ก็ควรเลือกยาแก้แพ้แบบไม่ง่วง

4) ยาทาแก้ผื่นคัน

เพื่อลดการอักเสบของผิวหนัง และลดอาการคัน หากเกิดการแพ้ขึ้นมา ยากลุ่มสเตียรอยด์มักได้ผลดี แต่ถ้าใครอยากเลี่ยง ใช้ คาลาไมน์โลชั่น แทนได้

5) ยาแก้ปวด/ลดไข้

แนะนำให้รับประทานยา พาราเซตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัม ครั้งละ 1 เม็ด ทุก 6 ชม. เมื่อมีอาการ

6) ยาทาแผลและพลาสเตอร์ปิดแผล

หากมีแผลเปิด หรือแผลจากรองเท้ากัด แนะนำให้ทายาแบบขี้ผึ้ง ส่วนพลาสเตอร์ปิดแผล แนะนำแบบกันน้ำ เพราะจะช่วยให้แผลหายเร็ว และป้องกันการติดเชื้อได้ดีกว่า

7) ยาประจำตัว

ถ้ามีโรคประจำตัว ต้องพกยาประจำตัวไปให้เพียงพอ และหากจุดหมายปลายทางที่ไปเที่ยวนั้นต้องผ่านด่านตรวจค้น ไม่แนะนำให้แกะยาเป็นเม็ดแล้วแบ่งใส่กล่องยาพกพา พกไปโดยยังมีฉลากยาอยู่ด้วยดีกว่า

8) เกลือแร่ ยาแก้ท้องเสีย

หากเผลอกินอาหารที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไป จะได้ช่วยให้มีแรงเที่ยวต่อ ช่วยบรรเทาอาการ ไม่เสี่ยงช็อกจากภาวะขาดน้ำ

9) ยาแก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ 

เหมาะสำหรับสายกิน ที่อาจเผลอกินนู่น กินนี่ เยอะเกินไปจนแน่นท้อง ยากลุ่มนี้จะช่วยคุณได้แน่นอน

10) สเปรย์ไล่ยุง มด แมลง ยาทาป้องกันแมลงสัตว์กัดต่อย

เหมาะสำหรับสาย Out Door ที่ชอบตั้งแคมป์ หรือจัดปาร์ตี้กลางแจ้ง ทาหรือฉีดสเปรย์ป้องกันไว้ อุ่นใจกว่า

พอจะรู้เกี่ยวกับยาที่ควรพกไปเที่ยวแล้ว แต่ยังมีข้อสงสัย ไม่มั่นใจในการเลือกประเภทยา หรือมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย อยากหายป่วยก่อนไปเที่ยว แต่ไม่สะดวกไปรพ. ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรออนไลน์ได้แบบสะดวกกว่า ผ่านแอปฯ หมอดี ไม่ต้องรอคิวนาน หรือเดินทาง พร้อมจัดส่งยาถึงบ้าน

 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการปรึกษาแพทย์ ผ่านแอปฯ หมอดี

1. ดาวน์โหลดแอปฯ หมอดี ผ่าน Apps Store/Play Store หรือคลิก >> https://mordee.app.link/mordee  จากนั้นเลือกเมนูโปรไฟล์ เพื่อลงทะเบียนเข้าใช้งาน

2. ไปที่หน้าแรกของแอปฯ กดแถบค้นหา เลือกแผนกหรืออาการที่ต้องการปรึกษา โดยถ้าข้อสงสัยเรื่องยาต่าง ๆ  แนะนำให้เลือกแผนกอายุรกรรม หรือแผนกเภสัชกรรม  แต่ถ้ามีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย แนะนำให้เลือกแผนกทั่วไป

3. เลือกแพทย์หรือเภสัชกรที่ต้องการปรึกษา และทำนัดหมาย โดยเลือกวันและเวลาที่ต้องการ แล้วเลือกรูปแบบการปรึกษาเป็น วิดีโอคอล โทร หรือ แชต จากนั้นทำการชำระเงิน หรือกรอกโค้ดส่วนลด (ถ้ามี)

4. เข้าห้องสนทนาในแอปฯ เพื่อทำการปรึกษาแพทย์ เมื่อถึงเวลานัดหมาย

5. รอสรุปผลการปรึกษาจากแพทย์ พร้อมใบสั่งยา(หากมี) โดยสามารถสั่งซื้อยา แล้วรอรับยาที่บ้านได้

สิ่งที่ควรรู้และควรระวังเกี่ยวกับยาเมื่อต้องเดินทาง

• การอ่านฉลาก

การอ่านฉลากยาจะช่วยให้เรารู้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ยา และใช้ผลิตภัณฑ์ยาได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย ผู้ใช้จำเป็นที่จะต้องรู้ชื่อสามัญทางยา เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับยาที่ตัวเองแพ้ และลดการกินยาซ้ำซ้อน การดูวันที่ผลิตและวันหมดอายุ ช่วยให้หลีกเลี่ยงอันตรายจากการใช้ยาหมดอายุหรือยาที่เสื่อมคุณภาพแล้ว ยาแต่ละชนิดมีวิธีการเก็บรักษาที่แตกต่างกัน ซึ่งเราสามารถดูวิธีการเก็บรักษาได้จากการอ่านฉลาก

• การดูเลขทะเบียนยา

ดูเลขทะเบียนเพื่อเช็กว่ายาตัวนั้นผ่านการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้วหรือยัง

• การกินยาเมื่อต้องขับรถ

ในกรณีที่เป็นผู้ขับขี่ เราควรดูข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยาก่อน เพราะยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึม หรืออาการอื่น ๆ ที่อาจจะทำให้เสี่ยงอันตรายได้

• การนำยาติดตัวไปต่างประเทศ

ในกรณีที่ต้องพกยาไปต่างประเทศ ต้องตรวจสอบก่อนว่าประเทศปลายทางนั้นมีกฎเกณฑ์เรื่องยาอย่างไร เพราะว่าแต่ละประเทศนั้นมีกฎเกณฑ์เรื่องยาแตกต่างกัน ยาบางชนิดต้องแสดงใบสั่งแพทย์ชัดเจน หากต้องการตรวจสอบ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สถานทูตประจำประเทศไทย สถานกงสุล สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือเว็บไซต์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศ

อ้างอิง:สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ,เพจ MorDee - หมอดี