ทำความรู้จัก World of Frozen สวนสนุกธีมโฟรเซ่นแห่งแรกของโลกก่อนเปิด 20 พ.ย.
คงปล่อยให้ Let It Go ไม่ได้แล้ว เมื่อเจ้าหญิงอันนา เจ้าหญิงเอลซ่า ตุ๊กตาหิมะ ‘โอลาฟ’ ถูกเนรมิตรให้มีชีวิตราวกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์ Frozen ณ ‘ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์’ ที่เตรียมเปิดสวนสนุกธีม ‘โฟรเซ่น’ แห่งแรกของโลกในวันที่ 20 พ.ย. นี้ รับชมภาพ exclusive จากเราได้ที่นี่
มนต์ขลังของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ไม่เคยเสื่อมคลาย
เพราะที่นี่คือดินแดนมหัศจรรย์ที่เมื่อก้าวเท้าเข้าไปแล้วบรรยากาศของสถานที่ และความกระตือรือร้นคึกคักของผู้คนจะช่วยนำพาให้คุณสลัดทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ข้างนอก แล้วปล่อยใจปล่อยกายให้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เพื่อสนุกสนานกับเครื่องเล่นที่มีหลากหลายประเภทให้เลือก ขบวนพาเหรดตัวการ์ตูนสีสันสวยงาม และที่ขาดไม่ได้คือการช้อปปิ้งของที่ระลึกจากคาแรกเตอร์ดิสนีย์ต่าง ๆ ที่คุณหลงรักมาตั้งแต่เด็ก
สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นถือว่าโชคดีเพราะเรามี ‘ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท’ (Hong Kong Disneyland Resort) ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม สามารถเดินทางไปได้อย่างสะดวกสบาย มีเวลาเพียงแค่วันหยุดสุดสัปดาห์ก็สามารถไปเยือนดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ได้ แถมยังมีสายการบินราคาประหยัดอย่าง แอร์เอเชีย (AirAsia) ที่มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพ-ฮ่องกง วันละ 3 เที่ยวบิน และบินตรงจากเชียงใหม่-ฮ่องกง วันละ 1 เที่ยวบิน พร้อมให้บริการ
World of Frozen สวนสนุกธีมโฟรเซ่นแห่งแรกของโลก
การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกต้องหยุดชะงัก ตกอยู่ในภาวะแช่แข็งเป็นเวลานานร่วม 3 ปี เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง ในปี 2023 นี้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกพากันงัดกลเม็ดเด็ดพรายต่าง ๆ ออกมาดึงดูดนักเดินทางให้กลับไปเยือนพวกเขาอีกครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในบ้าน
แน่นอนว่ารวมถึง ‘ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท’ ที่เตรียมเปิดตัวดินแดนธีม ‘โฟรเซ่น’ ที่แรกที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งเรียกว่า World of Frozen ให้เข้าชมกันในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นช่วงปลายปี บรรยากาศที่ฮ่องกงกำลังเย็นสบาย เข้ากับบรรยากาศของดินแดนน้ำแข็งพอดี
บรรยากาศภายในสุด exclusive ที่กรุงเทพธุรกิจมีโอกาสได้เข้าไปเก็บภาพมาให้ชมกันก่อน World of Frozen เปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 20 พ.ย. นี้
แน่นอนว่าสำหรับแฟนหนังการ์ตูนดิสนีย์คงพอจะเดากันได้ว่าโซนใหม่ในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ฮ่องกงที่เรียกว่า World of Frozen นี้ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดฮิต ดีกรีรางวัลออสการ์สาขา Best Animation ของ Walt Disney Animation Studios เรื่อง ‘โฟรเซ่น’ (Frozen) ที่ปัจจุบันมีการสร้างออกมาทั้งหมด 2 ภาค คือ Frozen (2013), Frozen II (2019)
มีตัวละครเอกคือ เจ้าหญิงอันนา เจ้าหญิงเอลซ่า เจ้าชายฮานส์ คริสตอฟฟ์ ร่วมด้วยตัวละครที่สร้างสีสันและเป็นที่รักของเด็ก ๆ อย่าง ตุ๊กตาหิมะ โอลาฟ และเจ้ากวางตัวใหญ่ยักษ์ สเวน
ขอโคฟเป็นชาวเอเรนเดลล์ซักหนึ่งวัน
World of Frozen ถอดแบบมาจากภาพยนตร์ ‘โฟรเซ่น’ ชนิดที่เรียกได้ว่าไม่มีผิดเพี้ยน โดยพื้นที่ด้านในถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝั่งหมู่บ้านเอเรนเดลล์ และฝั่งป่าเอเรนเดลล์
หมู่บ้านเอเรนเดลล์เป็นส่วนที่คุณจะได้พบแลนด์มาร์กสำคัญจากในหนัง เช่น ปราสาทเอเรนเดลล์ น้ำพุแห่งมิตรภาพ ที่เอลซ่าใช้พลังเปลี่ยนน้ำพุเป็นเกล็ดหิมะแสนสวย หอนาฬิกา ซึ่งเป็นฉากหลังการเต้นรำระหว่างอันนากับเจ้าชายฮานส์
อ่าวแห่งเอเรนเดลล์ ที่คุณจะได้เห็นเรือตกปลาลำเล็กที่อันนาตกลงไปตอนที่เธอพบกับเจ้าชายฮานส์ และภูเขาทางเหนือซึ่งเป็นที่ตั้งปราสาทน้ำแข็ง (Ice Palace) สถานที่ที่เจ้าหญิงเอลซ่าปลดปล่อยพลังน้ำแข็งออกมาได้อย่างอิสระเป็นครั้งแรก
ภาพ exclusive จากด้านในก่อนเปิดให้บริการ
โดยมี ‘สะพานคิงอักนาร์’ (King Agnarr Bridge) ที่ตั้งชื่อตามกษัตริย์ผู้เป็นพระบิดาของเจ้าหญิงอันนาและเจ้าหญิงเอลซ่า เป็นตัวเชื่อมฝั่งของหมู่บ้านเข้ากับฝั่งป่าแอเรนเดลล์ซึ่งเป็นที่ตั้งของเครื่องเล่นประจำโซนนี้ อันประกอบด้วย รถไฟเหาะรถเลื่อนแบบฉบับ แวนเดอริ่ง โอคเค่นส์ สไลดิ้ง สเลส์ (Wandering Oaken’s Sliding Sleighs) รถไฟเหาะที่ตัวรถออกแบบเหมือนเลื่อนของคริฟตอฟฟ์, Playhouse in the Woods สถานที่คล้ายโรงละครที่คุณจะได้พบกับอันนา เอลซ่า และโอลาฟตัวเป็น ๆ มาร้องเพลงและพูดคุยให้ฟัง
แต่ถ้าใครเป็นสายซึมซับบรรยากาศ แนะนำทริปล่องเรือโฟรเซ่น เอเวอร์ อาฟเตอร์ (Frozen Ever After) ที่จะพาคุณเดินทางผ่านหมู่บ้านโทรลล์ ภูเขาทางเหนือไปพบกับเอลซ่าที่ปราสาทน้ำแข็ง โดยสิ่งที่น่าทึ่งคือมีการใช้เทคโนโลยี Audio-Animatronics figures ซึ่งเป็นหุ่นยนต์เคลื่อนไหวแบบฉบับเฉพาะที่ล้ำสมัยที่สุดของ Walt Disney Imagineering มาสร้างตัวละคร อันนา เอลซ่า และคริสตอฟฟ์ให้มีชีวิตขึ้นมา
สัมผัสวัฒนธรรมอาหารแบบนอร์ดิก
ถ้าอยากลองใช้ชีวิตแบบชาวเอเรนเดลล์ให้ลึกซึ้งเข้าไปอีกต้องลิ้มลองอาหารแบบนอร์ดิก ณ จุดแวะพักโกลเด้น ครอคัส อินน์ (Golden Crocus Inn) และเบย์ไซด์ วอร์ฟ (Bayside Wharf)
แต่ถ้าอยากกินอะไรง่าย ๆ เน้นความสะดวกรวดเร็วก็มี ฟอเรสต์ แฟร์ (Forest Fare) ที่ขายสแน็กอย่างชูโรส คุกกี้ น้ำแข็งไส และร้านขนมหวาน นอร์ทเทิร์น ดีไลท์ (Northern Delights) ให้เลือกสรร
สิ่งที่ถือเป็นเอกลักษณ์ และขาดไม่ได้สำหรับการมาเยือนดิสนีย์แลนด์อีกอย่างนั่นก็คือ ของที่ระลึก ซึ่งในแต่ละโซนจะมีสินค้าพิเศษที่จะหาซื้อจากที่อื่นไม่ได้ สำหรับที่นี่มีร้านที่ชื่อ Tick Tock Toys & Collectibles ให้เลือกซื้อสินค้าคาแรกเตอร์จากภาพยนตร์ Frozen
นอกเหนือจาก World of Frozen แล้ว ‘ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์’ ยังมีเครื่องเล่นที่เป็นไฮไลท์อีกมากมาย โดยถ้าใครแฟนมาร์เวลก็น่าจะชอบ Iron Man Experience เครื่องเล่น 3-D motion simulator ที่จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์การต่อสู้เหล่าร้ายร่วมกับไอรอนแมนที่เหมือนจริงชนิดที่อาจมีเผลอสะดุ้งออกมาได้ และ Ant-Man and The Wasp: Nano Battle! ที่คุณต้องช่วยแอนท์แมนยิงสมุนของไฮดราที่พยายามแทรกซึมเข้ามาในหน่วยชีลด์ให้จงได้
แต่ถ้าใครเป็นสายรถไฟเหาะที่นี่มีหลายแบบให้เลือกเล่น ทั้ง Hyperspace Mountain รถไฟเหาะที่จะพาคุณล่องผ่านกาแล็กซี่ และดวงดาวต่าง ๆ เหมือนในหนัง Star Wars, รถไฟเหาะกลางแจ้งที่สร้างเลียนแบบรถคนงานทำเหมือง Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars, รถไฟเหาะพายุหมุน (RC Racer coaster) ในโซน Toy Story Land
เครื่องเล่นอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือ Mystic Manor เพราะมีเฉพาะที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ส่วนลักษณะของมันจะเป็นการนั่งเครื่องเล่นที่ล่องไปในพิพิธภัณฑ์ที่ ‘ลอร์ด เฮนรี่ มิสติก’ เก็บสะสมของโบราณอันล้ำค่าและมีเวทมนตร์น่าตื่นตาตื่นใจ
ไฮไลท์ปิดท้ายการมาเยือนฮ่องกงดิสนีย์แลนด์คือการแสดงแสงสีเสียงและพลุไฟที่ปราสาทดิสนีย์ในชื่อ “Momentous” Nighttime Spectacular ซึ่งเป็นการนำนิทานคลาสสิกของดิสนีย์พร้อมตัวละครต่าง ๆ มาถ่ายทอดผ่านบทเพลง 6 เพลง ที่กินเวลาประมาณ 20 นาที
เก็บตก World of Frozen : ปราสาทเอเรนเดลล์
เก็บตก World of Frozen : หอนาฬิกาประจำเมือง
