เซจง (Sejong) 1 : เมืองหลวงบริหารแห่งใหม่ พาชม 'หอจดหมายเหตุประธานาธิบดี'

รู้จัก เซจง (Sejong) เมืองหลวงบริหารแห่งใหม่ของเกาหลีใต้ย้ายจากโซล ชมที่นี่แห่งแรกแห่งเดียวของเกาหลีใต้ 'หอจดหมายเหตุประธานาธิบดี' รวมเอกสารประวัติศาสตร์กว่าจะเป็นเกาหลีใต้ จำลองห้องภายใน 'ทำเนียบสีน้ำเงิน' ให้สัมผัสใกล้ชิด ของขวัญทางการทูตล้ำความหมาย
เกาหลีใต้ ยังมีการผจญภัยฉากใหม่ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางที่อยากเห็น อยากค้นหา และอยากสัมผัสมากกว่าเมืองหลวงอย่าง ‘กรุงโซล’ เคยมอบให้
คุณเคยเดินทางไปยัง 4 เมืองนี้หรือยัง Sejong (เซจง), Chungnam (ชุงนัม), Daejeon (แดจอน) และ Chungbuk (ชุงบุก) 4 เมืองนี้ในเกาหลีใต้ต่างก็มีเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวที่น่าประทับใจและตื่นเต้นต่างกันไป
เริ่มกันที่เมือง เซจง (Sejong)
เซจง (Sejong)
ใครเป็นแฟนซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เกาหลีคงคุ้นชื่อ เซจง เนื่องจากเป็นพระนามกษัตริย์แห่งราชวงศ์โชซอนของเกาหลี ปรากฏในซีรีส์เรื่อง Tree with Deep Roots หรือในชื่อไทย ‘จอมกษัตริย์ตำนานอักษร’ โดยมี ซง จุง-กิ รับบทเป็นกษัตริย์เซจง
เมือง ‘เซจง’ ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่กษัตริย์เซจงมหาราช กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โชซอน พระองค์ทรงเป็นผู้ประดิษฐ์ Hangul หรืออักษรเกาหลี มีอนุสาวรีย์ของกษัตริย์เซจงประดิษฐานอยู่ในกรุงโซล
เมืองเซจงอยู่ห่างจากกรุงโซลลงมาทางใต้ประมาณ 121 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถราว 1 ชั่วโมง 25 นาที
เมืองปกครองตนเองพิเศษเซจง
เซจง เป็นเมืองใหม่ ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2550 ในฐานะเมืองหลวงบริหารแห่งใหม่ของเกาหลีใต้ โดยใช้พื้นที่จากหลายส่วนของจังหวัดชุงชองใต้ (South Chungcheong) และบางส่วนของจังหวัดชุงชองเหนือ (North Chungcheong) เพื่อลดความแออัดใน ‘กรุงโซล’ เมืองหลวงปัจจุบัน และเพื่อส่งเสริมการลงทุนในภาคกลางของประเทศ
ด้วยความเป็นที่ตั้งของกระทรวงและหน่วยงานราชการ ทำให้เมืองใหม่เซจงเต็มไปด้วยภาพของอาคารทรงสี่เหลี่ยม ที่อยู่อาศัยที่กลายเป็นหมู่ตึกสูงกระจายตัวอยู่ทั่วไปเป็นวงกว้าง
แต่เนื่องจากได้รับการวางผังเมืองอย่างดี ทำให้เมืองใหม่เซจงแม้มีความเป็นเมือง แต่ในเรื่องของธรรมชาติก็ได้รับการคำนึงถึงและให้ความสำคัญอย่างมาก โดยรัฐบาลกำหนดให้มีการขุดทะเลสาบเทียมที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี มีพื้นที่ใหญ่กว่าสนามฟุตบอล 62 เท่า เปิดเป็นสวนสาธารณะ
ระหว่างหมู่ตึกสูงในเมือง ออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวกระจายตัวเป็นช่วงๆ ให้คนเมืองได้ใช้ประโยชน์พักผ่อนหย่อนใจ มีการปลูกต้นไม้บังส่วนล่างของผนังอาคารคอนกรีตและปลูกไว้ตามข้างทางเดินเท้า ดูร่มรื่น สบายตา มีทางจักรยานเป็นสัดส่วน หนทางสะอาดสะอ้าน
รัฐบาลเกาหลีใต้ย้ายกระทรวงและหน่วยงานราชการจำนวนมากมาอยู่ที่เซจงตั้งแต่ปีพ.ศ.2555 เซจงจึงมีฐานะเป็นเมืองศูนย์กลางราชการ และมีชื่อเป็นทางการว่า ‘เมืองปกครองตนเองพิเศษเซจง’
แต่ก็ยังมีอีกหลายหน่วยงานที่กระจายอยู่ในเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะกรุงโซลยังคงเป็นที่ตั้งของรัฐสภาและหน่วยงานรัฐบาลสำคัญหลายแห่ง
หอจดหมายเหตุประธานาธิบดี
สถานที่ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในเกาหลีใต้และตั้งอยู่ที่นครเซจง คือ Presidential Archives (Presidential Archives of Sejong) หรือ หอจดหมายเหตุประธานาธิบดี โดดเด่นสวยงามตั้งแต่รูปลักษณ์อาคารภายนอกที่ได้รับการออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเซจง
วัตถุประสงค์ของ หอจดหมายเหตุประธานาธิบดี คือการรวบรวมบันทึกของประธานาธิบดีที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นถึง 'เมื่อวาน วันนี้ และอนาคตของชาติ' และเพื่อเปิดมุมมองใหม่ของการวิจัยนโยบายและประวัติศาสตร์ของเกาหลี
อาคารภายนอกออกแบบให้ดูเหมือนเป็นกล่องโปร่งใสภายในกล่องโปร่งใสอีกชั้น เมื่อมองจากระยะไกลตัวอาคารจึงดูเหมือนลูกบาศก์โปร่งใสขนาดมหึมา
กล่องโปร่งใสแบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ ‘พลังงาน’ โดยชั้นภายนอกที่โปร่งใสของลูกบาศก์ทำงานเป็นระบบท่อเย็นแนวตั้ง ทำให้อาคารเย็นลงในช่วงฤดูร้อน ในขณะเดียวกันก็ช่วยระบายอากาศตามธรรมชาติในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง
รูปลักษณ์อาคารที่ดูเหมือนกล่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก กล่องเก็บตราประทับแห่งชาติ ซึ่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ใช้ลงนามในเอกสารการบริหารและการทูตอย่างเป็นทางการ
วัสดุหลักของ ‘กล่องเก็บตราประทับแห่งชาติ’ ทำด้วย ทองเหลือง และ ไม้ ได้รับการตีความใหม่เป็น หิน และ กระจก (ตามลำดับ) หมายถึง ประวัติศาสตร์และปัจจุบัน
รูปทรงลูกบาศก์ยังมีความหมายถึง พื้นดิน บูรณภาพ ความสำเร็จ และเป็นการแสดงออกถึงความสำคัญและความคงทนของบันทึกของประธานาธิบดี
ภายใน ‘หอจดหมายเหตุของประธานาธิบดี’ ประกอบด้วยส่วนจัดแสดงวัตถุ-เอกสาร ห้องเสมือนจริง พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรม ห้องนิทรรศการพิเศษ และร้านกาแฟ
รถยนต์พิธีทางการ – ใบหน้าจากตัวอักษร
หอจดหมายเหตุประธานาธิบดี (Presidential Archives of Sejong) มีพิธีเปิดเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2559 ประกอบด้วยชั้นเหนือพื้นดิน 4 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น ก่อนเข้าไปในอาคาร เราต้องวางกระเป๋าที่นำติดตัวไปผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์
Presidential Archives of Sejong (หอจดหมายเหตุประธานาธิบดี) ต้อนรับผู้มาเยือนด้วยด้วยโถงขนาดใหญ่ เพดานสูงราวเข้ามาในมหาวิหาร
ผนังอาคารราบเรียบเหนือเคาน์เตอร์อินฟอร์เมชั่นดึงดูดสายตาทันทีจากการใช้ประโยชน์เป็นจอภาพ mapping มีลูกเล่นให้ติดตามตรงการฉายภาพโมเสกตัวอักษรเกาหลีเล็กๆ ขึ้นไปบนผนัง แล้วโมเสกนั้นค่อยๆ รวมตัวกันเป็นภาพใบหน้าประธานาธิบดีแห่งเกาหลีใต้ตามวาระที่ผ่านมา
ด้านในสุดของห้องโถงนี้ จัดแสดง ยานพาหนะใช้งานในพิธีทางการ เช่นการทูตและพิธีทางการโดยประธานาธิบดีหรือบุคคลระดับสูงที่เป็นตัวแทนของประเทศ
บนพื้นห้องมีเครื่องหมายให้ยืนถ่ายรูป แล้วจะได้รูปคู่รถยนต์คันนี้ในมุมที่เห็นตัวรถและป้ายทะเบียนตรานกฟินิกซ์ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นรถประธานาธิบดีเกาหลีใต้
ด้านซ้ายมือของพื้นที่จัดแสดงรถยนต์ในงานพิธีการ เป็นประตูทางเข้าสู่ ห้อง The Presidential Emblem มองไกลๆ ก็คือภาพใบหน้าของอดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แต่หากเดินเข้าไปใกล้หรือมองจากด้านข้างจะพบว่าแท้จริงแล้ว ภาพใบหน้านี้เกิดจากการนำตัวอักษรภาษาเกาหลีมาเรียงซ้อนกัน และตัวอักษรเกาหลีเหล่านี้ก็คือชื่อโครงการต่างๆ หรือผลงานของประธานาธิบดีแต่ละท่าน
เมื่อเดินชมชั้น 1 (ground floor) เสร็จแล้ว มัคคุเทศก์แนะนำให้กดลิฟต์ขึ้นไปชมชั้น 4 แล้วค่อยๆ เดินลงมาชมแต่ละชั้น
ระบบประธานาธิบดีเกาหลีไต้
ชั้น 4 จัดแสดงเนื้อหาที่ขึ้นป้ายไว้ว่า The Role of the President (บทบาทของประธานาธิบดี) ประกอบด้วยภาพถ่ายในอดีต เอกสารลายมือ วัตถุโบราณตั้งแต่ยุคเกาหลีถูกรุกรานยึดครอง การเรียกร้องอิสรภาพ
รวมทั้งประวัติโดยละเอียดของการเลือกตั้งระบบประธานาธิบดีเกาหลีได้ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2491 จากระบบการเลือกตั้งทางอ้อม สู่ระบบการเลือกตั้งโดยตรงต่อหน้ารัฐบาลรัฐสภา และในที่สุดก็กลับไปสู่ระบบการเลือกตั้งโดยตรงซึ่งดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน
มัคคุเทศก์กล่าวว่า บอร์ดนิทรรศการพูดถึงความรับผิดชอบและหน้าที่ต่างๆ ของประธานาธิบดีเกาหลี เช่น
- ประธานาธิบดีมีสิทธิและความรับผิดชอบในการสร้างองค์กรของรัฐ
- ประธานาธิบดีเป็นตัวแทนของรัฐที่ติดต่อกับรัฐต่างประเทศ มีความรับผิดชอบและหน้าที่ในการปกป้องเอกราช บูรณภาพแห่งดินแดน ความต่อเนื่องของรัฐและรัฐธรรมนูญ
น่าเสียดายที่บอร์ดส่วนใหญ่เป็นภาษาเกาหลี เราไม่สามารถทำความเข้าใจได้ด้วยตนเอง
สัมผัสชีวิตประจำวันประธานาธิบดีเกาหลีใน Blue House
เมื่อก่อน ชอง วา แด (Cheong Wa Dae) หรือ ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ในกรุงโซลซึ่งมีหลังคาสีน้ำเงินจึงเรียกกันอีกชื่อว่า Blue House นักท่องเที่ยวยืนดูได้จากนอกรั้วไกลๆ
แต่ห้องนิทรรศการบนชั้น 3 ของ ‘หอจดหมายเหตุประธานาธิบดี’ ที่มีชื่อว่า The President’s Space (พื้นที่ของประธานาธิบดี) ทำให้เรามีโอกาสเหมือนเข้าไปเดินอยู่ใน Blue House หรือ ‘ทำเนียบสีน้ำเงิน’
นิทรรศการชั้นนี้จัดแสดงการจำลองห้องต่างๆ ตามแบบใน ‘ทำเนียบสีน้ำเงิน’ ทั้งดีไซน์และเฟอร์นิเจอร์ อาทิ ห้องทำงานประธานาธิบดี (The President’s Private Office) ห้องรับรองแขกระดับรัฐพิธีและรัฐต่อรัฐ (Reception Room)
ไม่เว้นแม้แต่ ห้อง Chunchugwan (ชุนซุกวาน) ห้องที่เป็นศูนย์ข่าวและใช้บันทึกเทปถ่ายทอดการปราศรัยของประธานาธิบดีในทำเนียบสีน้ำเงิน ก็จำลองมาให้ผู้เข้าชมได้ลองไปยืนเข้ากล้องในตำแหน่งที่ประธานาธิบดีทำหน้าที่
ของขวัญล้ำค่า
เมื่อเดินลงมาถึงชั้น 2 จะพบกับพื้นที่ Presidential Gifts เราจะได้ชมการจัดแสดงของขวัญล้ำค่าจากราชวงศ์ ผู้นำประเทศและบุคคลผู้มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศของเกาหลีใต้ ได้รับการรวบรวมเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ที่นี่
ของขวัญจาก บารัก โอบามา มอบให้ อี มย็อง-บัก ในโอกาสเยือนทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกา ค.ศ.2009
ของขวัญแต่ละชิ้นมีความงดงาม สะท้อนความสัมพันธ์ ความเชื่อ งานฝีมือ ศิลปวัฒนธรรมของแต่ละชนชาติที่ต่างก็มีเอกลักษณ์เรื่องราวแตกต่างกันไป
อาทิ เครื่องปั้นดินเผา เครื่องกระเบื้อง เรือใบจำลอง ตุ๊กตา แจกัน หนังสือ และเครื่องประดับ ทุกชิ้นเขียนข้อความกำกับเป็นภาษาเกาหลี
เดินเข้ามาในพื้นที่นี้เหมือนเดินอยู่ในพิพิธภัณฑ์ระดับนานาชาติ เต็มไปด้วยของล้ำค่าทั้งความหมายและงานฝีมือเชิงช่าง
ห้องนิทรรศการพิเศษ
เมื่อเดินกลับลงมาถึงชั้น 1 ด้านขวามือของรถยนต์ประธานาธิบดีมีทางเชื่อมไปยังอีกอาคาร เป็น ห้องนิทรรศการพิเศษชุด Return of The Korean Provisional Government (การกลับมาของรัฐบาลเฉพาะกาลของเกาหลี)
นิทรรศการพูดถึงหลังจากขบวนการเรียกร้องเอกราช 3-1 ในปี พ.ศ.2462 (ค.ศ.1919) ซึ่งมีชาวเกาหลีมากกว่าสองล้านคนเข้าร่วม จึงมีการก่อตั้ง ‘รัฐบาลเฉพาะกาลของเกาหลี’ ขึ้นในเซี่ยงไฮ้
เป็นการก่อตั้งโดยชาวเกาหลีผู้มีจิตวิญญาณแห่งอิสรภาพ ซึ่งลี้ภัยสงครามไปอยู่ที่เมืองจีนในเวลานั้น อุทิศตนในการจัดตั้งรัฐบาลระบอบสาธารณรัฐประชาธิปไตยที่มีพื้นฐานอยู่บนรัฐธรรมนูญและนำประเทศกลับคืนมาด้วยความพยายามทางการทูตและการทหารต่างๆ
เมื่อญี่ปุ่นยอมจำนน ‘รัฐบาลเฉพาะกาลของเกาหลี’จึงเดินทางกลับประเทศ แม้ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการและเป็นสมาชิกของมหาอำนาจพันธมิตรเนื่องจากข้อจำกัดระหว่างประเทศ แต่ชาวเกาหลีต่างยินดีต่อการที่รัฐบาลเฉพาะกาลเกาหลีกลับมายังเกาหลี
โดย มร.อี ซึง-มัน (Rhee Seung-man) ได้รับคะแนนเสียงให้เป็นประธานาธิบดีคนแรกแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างเดือนสิงหาคม พ.ศ.2491 จนถึงเมษายน พ.ศ. 2503 ซึ่งอยู่ในช่วงที่มีความตึงเครียดของสงครามเย็นในคาบสมุทรเกาหลี
รายละเอียดปลีกย่อยขั้นตอนการเรียกร้องอิสรภาพเข้มข้นอย่างไรกว่าจะเป็นเกาหลีใต้ปัจจุบัน นักเดินทางและผู้สนใจสามารถชมได้ในนิทรรศการชุดนี้
วิธีเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปเซจง (Sejong)
เซจงอยู่ห่างจากเมือง ชองจู (Cheongju) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ สนามบินนานาชาติชองจู (Cheongju International Airport) ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
ข้อมูลเดือนสิงหาคม 2566 สายการบิน t’way (ทีเวย์) เปิดเที่ยวบินตรงจากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองไปยังสนามบินนานาชาติชองจู ด้วยเครื่อง Boeing 737-800 วันละ 1 เที่ยวบิน ออกเดินทางเวลา 00.05 น. ใช้เวลาบิน 5 ชั่วโมง 40 นาที
นมกล้วยยอดฮิต มีจำหน่ายที่ร้านเบเกอรี่ภายในสนามบินนานาชาติชองจู