'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

เปิดเรื่องราวเบื้องหลังการจัดทำหนังสือ 'ราชินิกุลบุนนาค' บทบันทึกของสายสกุลผู้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์สยาม

KEY

POINTS

  • ชมรมสายสกุลบุนนาคจัดพิมพ์หนังสือ "ราชินิกุลบุนนาค" ในวาระครบรอบสำคัญของปฐมราชินิกุล เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์และบทบาทของตระกูลที่มีต่อสยาม
  • เนื้อหาปรับปรุงใหม่โดยอ้างอิงหลักฐานและเอกสารชั้นต้นที่ค้นพบเพิ่มเติม ครอบคลุมประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยาจนถึงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475
  • รวบรวมภาพถ่ายและศิลปวัตถุหายากกว่า 400 ภาพ ซึ่งหลายชิ้นไม่เคยเผยแพร่สู่สาธารณะมาก่อน เช่น พระราชหัตถเลขาส่วนพระองค์ของรัชกาลที่ 5

ชมรมสายสกุลบุนนาค และสำนักพิมพ์ สยาม เรเนซองส์ จัดพิมพ์หนังสือ ราชินิกุลบุนนาค จัดทำขึ้นเนื่องในวาระสำคัญของ "ปฐมราชินิกุลบุนนาค" ทั้ง 2 ท่าน คือ ครบรอบชาติกาล 275 ปี เจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล พ.ศ.2567 และครบรอบถึงแก่อสัญกรรม 220 ปี เจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค) ใน พ.ศ.2568

สกุลบุนนาค สืบเชื้อสายจากเจ้าพระยาอรรคมหาเสนา (บุนนาค) และเจ้าคุณพระราชพันธุ์นวล พระขนิษฐาในสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี ในรัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และได้เข้ารับราชการสนองพระมหากรุณาธิคุณด้วยความจงรักภักดี ทั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์มานับแต่ปลายกรุงศรีอยุธยาจวบจนรัตนโกสินทร์

บทบาทของสายสกุลบุนนาค มีมากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ศิลปวัฒนธรรม การศาสนา การเมืองการปกครอง และการต่างประเทศ ปรากฏเกียรติยศทั้งที่ได้รับพระราชทานตามตำแหน่ง และทรงยกย่องเป็นพิเศษอีกมากมาย อันสะท้อนถึงบทบาทของสายสกุลในการมีส่วนช่วยพัฒนาบ้านเมือง

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

ที่ระลึกในวาระสำคัญ ‘ปฐมราชินิกุลบุนนาค’

รัฐฎา บุนนาค ประธานโครงการจัดทำหนังสือราชินิกุลบุนนาค กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดทำหนังสือเล่มนี้ว่า

"นอกจากเป็นที่ระลึกในวาระสำคัญของปฐมราชินิกุลบุนนาคทั้ง 2 ท่าน พร้อมทั้งเทิดทูนเกียรติคุณของบรรพชนบุนนาคแล้ว ยังเป็นการเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการจากเอกสารขั้นต้นที่ถูกต้องสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งได้รับเกียรติจากนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน เข้ามามีส่วนร่วมจัดทำเนื้อหา ทำให้เห็นมุมมองที่น่าสนใจ อีกทั้งสามารถต่อยอดข้อมูลการศึกษาประวัติศาสตร์ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น"

ก่อนหน้านี้ ชมรมสายสกุลบุนนาค ได้จัดทำหนังสือรวบรวมประวัติศาสตร์และสาแหรกตระกูล “บุนนาค” จัดพิมพ์เป็นหนังสือชุด 2 เล่มขึ้น เมื่อ พ.ศ.2542

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

รัฐฎา บุนนาค ประธานโครงการจัดทำหนังสือราชินิกุลบุนนาค

"ปี 2542 ตอนนั้นไปเจอในสำมะโนครัว ว่าผู้ใช้นามสกุลบุนนาคมีราวหมื่นกว่าราย ก็พยายามจัดทำลำดับชั้นในสกุล ออกมาเป็นเล่ม 'สาแหรกสกุลบุนนาค' ถือว่ารวบรวมได้ประมาณ 70% อาจมีตกหล่นเพราะบางคนไปมีครอบครัวในต่างจังหวัด การติดต่อสื่อสารสืบหาสาแหรกในยุคนั้นยังไม่ได้มีเทคโนโลยีอย่างวันนี้ อีกเล่มคือ 'สกุลบุนนาค' ที่พยายามรวบรวมประวัติศาสตร์ของสกุลและประวัติบุคคลสำคัญ ตอนนี้กลายเป็นหนังสือหายากไปแล้วทั้งสองเล่ม

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

ผ่านมา 26 ปี ก็มีความคิดที่อยากจะปรับปรุงเรียบเรียงประวัติศาสตร์เหล่านี้ขึ้นใหม่ จากหลักฐานอ้างอิงและเอกสารชั้นต้นที่ค้นพบเพิ่มเติม เนื้อหาของเล่มนี้ จะครอบคลุมประวัติความเป็นมาของราชินิกุลบุนนาคในสมัยกรุงศรีอยุธยา บทบาทของราชินิกุลบุนนาคกับประวัติศาสตร์สยาม โดยเฉพาะกรุงรัตนโกสินทร์ในด้านต่าง ๆ มีบทความและภาพประกอบในเล่มเหมือนสมุดภาพประวัติศาสตร์ที่สอดคล้องไปกับเรื่องราวที่นำเสนอ" ประธานโครงการจัดทำหนังสือฯ กล่าว

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

เนื้อหาในเล่มแบ่งเป็นสองส่วนสำคัญ ดังนี้

- ส่วนที่ 1 : ราชินิกุลบุนนาคกับประวัติศาสตร์สยาม

กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของสายราชินิกุลบุนนาคกับประวัติศาสตร์สยาม นับตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เรื่องราวของต้นสกุล นิยามความเป็น "ราชินิกุล" เรื่องราวของราชินิกุลบุนนาคกับพัฒนาการกรุงรัตนโกสินทร์ในด้านต่าง ๆ แบ่งพิจารณาเป็นหัวเรื่อง ประกอบไปกับภาพถ่ายโบราณหายาก พร้อมศิลปวัตถุทรงคุณค่าที่เก็บรักษาไว้ในสายสกุล พิพิธภัณฑ์ และของนักสะสมชั้นนำ ที่สอดคล้องไปกับเรื่องราวที่นำเสนอ กำหนดเนื้อหาตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยาจนถึงก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครองใน พ.ศ. 2475

- ส่วนที่ 2 : สืบสายราชินิกุลบุนนาค ผู้ร่วมวิวัฒน์กรุงรัตนโกสินทร์

นำเสนอบุคคลและผลงานเด่น โดยกำหนดรูปแบบการนำเสนออ้างอิงกับช่วงเวลาการเปลี่ยนแปลงสำคัญในกรุงรัตนโกสินทร์ จำแนกเป็นฝ่ายหน้า ฝ่ายใน ในลักษณะการเล่าเกร็ดประวัติที่น่าสนใจ เข้าใจง่าย มีหลักฐานอ้างอิงที่มาของข้อมูลครบถ้วน

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

เนื้อหา-รูปภาพ เอกซ์คลูซีฟ นำออกเผยแพร่ครั้งแรก

อรรถดา คอมันตร์ กรรมการบริหารสำนักพิมพ์สยาม เรเนซองส์ ร่วมเปิดเผยถึงเบื้องหลังการทำงานว่า

"กว่าจะมาเป็นหนังสือเล่มนี้ คณะทำงานได้รวบรวมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ทั้งเอกสารชั้นต้น ภาพถ่าย ศิลปวัตถุ ของสะสม ฯลฯ หลายรายการไม่เคยนำออกเผยแพร่สู่สาธารณชนมาก่อน ตัวอย่างเช่น พระราชหัตถเลขาส่วนพระองค์ของรัชกาลที่ 5 ที่พระราชทานให้กับบรรพบุรุษของสายสกุล ของสะสมต่าง ๆ และรูปถ่ายหายาก เช่น ภาพวาดคณะราชทูตสมัยรัชกาลที่ 4 ของเฌโรม จิตรกรหลวงของราชสำนักฝรั่งเศส จากนักสะสมชาวไทยที่เขาอนุญาตให้เรานำมาลง ภาพถ่ายของช่างภาพในราชสำนักฝรั่งเศสที่บันทึกภาพราชทูตไทยในครั้งนั้น บางอย่างเป็นของที่คนไทยเราไม่เคยเห็นในรอบ 160 ปี"

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

อรรถดา คอมันตร์ กรรมการบริหารสำนักพิมพ์สยาม เรเนซองส์

"ความพิเศษอีกอย่างคือ งานผลิตและการจัดพิมพ์ ใช้เทคนิคการพิมพ์พิเศษต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพูนความสวยงามของภาพประกอบที่มีมากกว่า 400 ภาพ และศิลปกรรมเนื้อหามากกว่า 640 หน้า เป็นหนังสืออ้างอิงสำหรับผู้สนใจค้นคว้าประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์จนถึงช่วงเวลา พ.ศ.2475 ผ่านเรื่องราวของสกุลบุนนาค"

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

ตัวอย่างในหนังสือ 'ราชินิกุลบุนนาค'

เล่าประวัติศาสตร์ให้สนุก อ่านเพลิน

ปิติรัชต์ จูช่วย หนึ่งในทีมนักเขียน เล่าถึงเทคนิคการเขียน จากข้อมูลที่มากมายออกมาเป็นตัวหนังสือที่อ่านสนุก เข้าใจประวัติศาสตร์ และสามารถจินตนาการย้อนเวลาสู่ยุคเมื่อหลายร้อยปีก่อน

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

"หนังสือเล่มนี้ใช้เวลาทำ 2 ปี การเขียนใช้เทคนิคการเล่าเรื่องตามขนบงานเขียนของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ทรงเล่าเรื่องต่าง ๆ ไปพร้อมเกร็ดความทรงจำ ความรู้อื่น ๆ ประกอบกัน เพราะรู้สึกว่าเป็นจังหวะการเล่าที่สนุก อ่านเพลิน คนอ่านจะเข้าใจง่าย เราเอาลูกเล่นภาษาเก่าของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงฯ มาใช้ เป็นคำอย่างเก่าเลย เพราะอยากให้คนอ่านสนุกไปกับการอ่านเอกสารชั้นต้นอื่น ๆ ต่อไปในอนาคตที่เชื่อมโยงกัน

แม้โดยโครงเส้นเรื่องตลอดทั้งเล่มใช้ทีมเขียนสองคนก็จริง แต่สุดท้ายเรามานั่งประชุมกันตรวจเนื้อหาตลอดทั้งเล่ม เหมือนเวลา Read Through บทซีรีส์บทภาพยนตร์ เพราะเวลาเขียน เขียนกันไปคนละส่วน ก็ต้องมีส่วนที่ปรับให้เป็นเนื้อเดียวกัน มีความสม่ำเสมอและรูปแบบการเขียนเหมือนกัน

แล้วเราก็จะระบุวิธีการอ่านหนังสือเล่มนี้ เพื่อเสริมความเข้าใจของผู้อ่าน ดังที่ประธานกองบรรณาธิการจะกล่าวชี้แจงไว้ในส่วนต้นของเล่ม เช่น การออกจากราชการมี 3 แบบ ก็กำหนดคำขึ้นมาเป็นเกณฑ์ในการเขียนและสื่อความ หรือเหตุที่ใช้คำว่า 'สมภพ' กับตำแหน่งสมเด็จเจ้าพระยา ที่ยึดตามพระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ 5

และส่วนสำคัญที่ทำให้การอ่านสนุกขึ้นคือการเล่าเรื่อง วิธีการเล่าเรื่องทั้งหมดจะต้องเล่าสิ่งที่เป็นสาระและอรรถรส สาระคือเนื้อหาข้มข้น มีหลักฐานอ้างอิงตามหลักวิชาการ แต่อรรถรส คือ เรื่องเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ไม่เป็นแก่นสารแต่สนุกก็เล่า เช่น เหตุการณ์สนุก ๆ ที่เป็นที่มาของศัพท์บัญญัติในยุคนั้น อย่างคำว่า 'ขันอี๋' จากเจ้าพระยาภาสกรวงศ์ (พร บุนนาค) จะเขียนให้คนอ่านรู้สึกว่าการอ่านหนังสือเก่าสนุก"

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

ปิติรัชต์ จูช่วย หนึ่งในทีมนักเขียน

สำหรับความยากของการเรียงร้อยจากบันทึกของคนโบราณให้เป็นหนังสือน่าอ่าน นักเขียนบอกว่า

"การเขียนและอ่านเอกสารเก่าเมืองไทยคือประมาทไม่ได้ หัวเรื่องเป็นเรื่องหนึ่งแต่ข้างในสอดไส้หมดเลย คนไทยเป็นคนเขียนประเภทท้าวความ โน่นนี่ บางทีเรื่องของพระอารามหนึ่งไปอยู่กับอีกพระอารามเพราะต้องการเขียนอธิบายที่มาที่ไป พงศาวดารหัวเรื่องหนึ่ง แต่เขียนไปเขียนมา ท้ายเล่มขอใส่ข้อสรุปเหตุการณ์ในสามสี่ตอนก่อนหน้าไว้ในเรื่องนี้เสียหน่อย ดังนั้นเราทำอะไรไม่ได้นอกจากอ่านทั้งหมดก่อน"

"อย่างที่เขาพูดกันว่า อ่านหนังสือโบราณ 10 เล่ม ได้สรุปเนื้อหามาให้คนอ่านเห็นภาพแค่ 5 บรรทัด กว่าจะได้เป็นบทความหนึ่ง เชิงอรรถมีไปแล้ว 50 เชิงอรรถ เฉพาะหนังสือเรียงบรรณานุกรมไป 18 หน้ากระดาษ"

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

หนังสือเล่มนี้เป็นความภาคภูมิใจของคนรุ่นหลัง เพราะเรียบเรียงแล้วทำให้เห็นภาพอดีตที่น่าอัศจรรย์ใจ เมื่อเราคิดว่าบรรพบุรุษคิดอ่านประคับประคองบ้านเมือง สังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรมกันมาอย่างไร ตั้งแต่ยุคสร้างบ้านสร้างเมืองให้งานเหมือนอยุธยา ยุคที่เจอสงครามรอบบ้าน ยุคที่เจอศึกใน อั้งยี่ ยุคที่รับมือจักรวรรดินิยมตะวันตก กว่าจะรอดมาได้ ถ้าเราไม่รวบรวมเรียบเรียงเอกสารหลักฐานไว้เสียแต่วันนี้ องค์ความรู้ที่สั่งสมกันมาจะขาดตอน เรื่องหลาย ๆ เรื่องจะหายไปจากประวัติศาสตร์หรือไม่ก็เข้าใจกันผิดไปจากความไม่รู้ นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ทำให้ประวัติศาสตร์กระจ่างขึ้น” รัฐฎา ในฐานะประธานโครงการจัดทำหนังสือฯ กล่าวทิ้งท้าย

'ราชินิกุลบุนนาค' บันทึกแห่งประวัติศาสตร์สยาม

งานแนะนำหนังสือราชินิกุลบุนนาค จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน 2568 เวลา 9.00 – 12.00 น. ณ ห้องแกรนด์ บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ

ชมการแสดงดนตรี “เพลงพระอาทิตย์ชิงดวง” การขับเสภาเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน ตอนขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้าง” การเสวนาแนะนำหนังสือ และชมนิทรรศการพิเศษแสดงศิลปวัตถุเกี่ยวกับสกุลบุนนาค

เกี่ยวกับหนังสือราชินิกุลบุนนาค

ผู้เขียน : ภัทรพล เบี้ยวนิ่ม และปิติรัชต์ จูช่วย
ที่ปรึกษาคณะผู้เขียน : หม่อมหลวงภัคภรจันท์ เกษมศรี
จำนวน 640 หน้า ปกแข็งหุ้มแจ็คเก็ตพิเศษพิมพ์สีสี่บนฟอยล์เงิน
ราคา 3,800 บาท