ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช เล่าวิถี บางจากฯ ผ่านกระจก ดอกไม้ เด็กชายผู้มุ่งมั่น
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช เผยความหมายที่แฝงอยู่ใน 'จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง #กระจกกับดอกไม้' หนังสั้นโฆษณาเรื่องใหม่ของ 'บางจากฯ' ซึ่งกำลังเป็นที่ฮือฮาอยู่ในขณะนี้ สะท้อนตัวตนความเป็น 'บางจากฯ' อย่างไร
ไม่จำเป็นต้องอาย และไม่ใช่เรื่องน่าละอาย ที่จะร้องไห้ให้กับการชมหนังสั้นโฆษณา บางครั้งหัวใจที่แข็งแกร่งที่ก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงการรื้นขึ้นมาของน้ำตาแห่งความตื้นตันใจในพลังแห่งความมุ่งมั่น การทำตามความฝัน และพลังใจเชิงบวก
‘จุดประกาย’ กำลังพูดถึง จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง #กระจกกับดอกไม้ หนังสั้นโฆษณาประเภท Thematic Film เรื่องใหม่ของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ บางจากฯ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 พอดีกับวันที่เริ่มนับ 1 ของปีที่ 40 ของบางจากฯ ก็กลายเป็นที่กล่าวขวัญในโลกโซเชียลมีเดียถึงความประทับใจในเรื่องราวที่มีเนื้อหาซาบซึ้งกินใจ เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และความมุ่งมั่นสุดหัวใจของ ‘เด็กชายตัวน้อย’ ตัวละครผู้เดินเรื่องในหนังสั้นโฆษณาเรื่องนี้
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบุคคลสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์หนังสั้นโฆษณาเรื่อง “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง #กระจกกับดอกไม้” กล่าวว่า นอกเหนือจากความประทับใจและภาพอันสวยงามจากการถ่ายทำอย่างพิถีพิถัน เนื้อหาของหนังสั้นโฆษณาเรื่องนี้ยังสื่อสารความเป็น ตัวตนของแบรนด์บางจากฯ รังสรรค์โลกยั่งยืนด้วยนวัตกรรมสีเขียวโดยจิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง หรือ Regenerative Soul มีแนวคิดที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง ถือเป็นหนึ่งในพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ และตอกย้ำแบรนด์ไอเดียด้วยแนวคิด Greenovate to Regenerate (สมดุลธรรมชาติ สรรค์พลังไม่สิ้นสุด) ที่แฝงอยู่ในหนังสั้นเรื่องนี้อย่างกลมกลืน
Regenerative Soul หรือ ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ ของบางจากฯ มีความหมายอย่างไร
“เราพยายามหาคำในภาษาไทยของคำว่า regenerate ที่จะแปลความหมายได้ชัดเจนที่สุด แต่ยังนึกคำเหมาะที่สุดไม่ออก ผมขออธิบายอย่างนี้นะครับ บางจากฯ จะนำคำว่า regenerate มาใช้แทนคำว่า ‘ยั่งยืน’ ซึ่งคำนี้มักหมายถึงสถานะที่คงอยู่อย่างนั้นไปตลอด เช่น ภูเขา ก้อนหิน
แต่บางจากฯ เชื่อว่าสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ถ้าจะยั่งยืน จะต้องเกิดจากกระบวนการธรรมชาติที่มีการหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไป ซึ่งก็คือกระบวนการ regenerate”
ชัยวัฒน์ยกตัวอย่าง ‘ใบไม้’ ที่มีการหมุนเวียนเปลี่ยนผ่านไปตามฤดูกาล เริ่มจากผลิใบ ออกดอก ร่วงโรย เกิดขึ้นเป็นวงรอบหมุนเวียนอย่างนี้ทุกปี และเป็นมานับพันๆ ปี
หรือแม้แต่ ‘มนุษยชาติ’ ตั้งแต่ยุคหินเก่าเมื่อห้าหมื่นปีที่แล้วสามารถมีอยู่ชีวิตอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมอย่างนั้น แต่ก็สามารถสืบทอดเผ่าพันธุ์มาได้จนถึงทุกวันนี้ เพราะมีเด็กเกิดใหม่ มีคนรุ่นใหม่มาทดแทนคนรุ่นเก่า นี่คือกระบวนการ regenerate และใช้วงจรธรรมชาติในการพัฒนาต่อไป
"เช่นเดียวกับหนังสั้นโฆษณา จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง #กระจกกับดอกไม้ ทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมชาติ เราต้องการแค่กระจกส่องแสงแดดเข้ามา และสุดท้ายน้องสาวที่ป่วยอยู่ก็ได้รับแสงแดด น้องสาวที่เคยเห็นดอกไม้แต่ในหนังสือ ก็ได้เห็นดอกไม้จริงๆ ที่เกิดขึ้นในกระถาง และนี่บ่งบอกว่ามันเป็นกระบวนการธรรมชาติ
ขณะที่เด็กผู้ชายก็แสดงให้เห็นถึง ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง’ สื่อถึงความคิดและจิตวิญญาณต่างๆ ที่หมุนไปไม่หยุดนิ่ง ช่วยสร้างสรรค์ให้มีสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา นั่นคือสิ่งที่ธรรมชาติให้เรามา สุดท้ายคนเราต้องคิด และปรับตัวเองอยู่เสมอ
ผมคิดว่าน้องโช (นักแสดงเด็กชายในเรื่อง) นำเสนอแนวคิดนี้ออกมาได้ชัดเจน
หนึ่ง) คือกล้าคิดออกนอกกรอบ ด้วยธรรมชาติของเด็กที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ เด็กจึงมีความคิดที่ไม่ถูกล้อมกรอบ มีความคิดใหม่ๆ คิดในสิ่งที่ไม่เหมือนผู้ใหญ่ที่เคยคิดมา จะเห็นว่านวัตกรรม หรือแม้กระทั่งกลุ่มสตาร์ตอัป ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีอายุน้อย เพราะไม่ถูกครอบด้วยประสบการณ์ 30 ปีหรือ 50 ปี
สอง) ไม่ต้องกลัวว่าตัวเองจะผิดพลาด คนรุ่นใหม่จึงลงมือทำอย่างต่อเนื่อง
สาม) สำคัญที่สุดคือ คนรุ่นนี้ต้องการพิสูจน์ตัวเอง ว่าสิ่งที่คิดมีความถูกต้อง มีความตั้งใจที่จะทำให้สิ่งที่คิดเกิดขึ้นจริง และจูงคนทั้งหมดไปกับเขาได้ เป็นการสื่อสารที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเกิดการ regenerate คือการผลัดใบ สุดท้ายคือมีคนรุ่นใหม่เข้ามาผลัดใบเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นความยั่งยืนเกิดจากการผลัดใบ เกิดจากการ Regenerate ความคิดต่างๆ
ด้วยความเป็นหนังสั้น ผมว่ายังมีสิ่งให้ผู้ชมจินตนาการค่อนข้างเยอะ แต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งหมดในหนังสั้นโฆษณาเรื่องนี้มี ‘ความเป็นบางจากฯ’ มีความเป็น ‘คนบางจากฯ' ที่ตลอดระยะเส้นทางการดำเนินธุรกิจ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อเอาชนะความท้าทายและบริบทแวดล้อม
ขณะเดียวกันก็ไม่เคยหยุดนิ่งในการรังสรรค์สิ่งใหม่ๆ ผ่านนวัตกรรมสีเขียว และการสร้างสมดุลธรรมชาติด้วยจิตวิญญาณอันมุ่งมั่น เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ”
หนังสั้นโฆษณาเรื่องใหม่นี้สะท้อนแบรนด์ไอเดีย Greenovate to Regenerate ของ ‘บางจากฯ’ ในลักษณะใด
“แนวคิด Greenovate to Regenerate เริ่มต้นมาจากคำว่า Greenovate คือนวัตกรรมสีเขียวที่ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลให้โลกผ่านภารกิจและพันธกิจต่างๆ ของบางจากฯ และคำว่า Regenerate ความหมายตามรากศัพท์คือการทำให้เกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ เกิดใหม่ ไม่รู้จบ
ประกอบกันเป็น ‘Greenovate to Regenerate’ สื่อถึงการนำสมดุลธรรมชาติ มาสร้างสิ่งใหม่ๆ ไม่รู้จบของบางจากฯ
บางจากฯ มีนวัตกรรมสีเขียวหลายโครงการ แต่เราไม่อยากทำในลักษณะทำโครงการนี้สำเร็จแล้วก็จบไป เราอยากมองเป็นวงกลม คือการไม่หยุดพัฒนาในแต่ละโครงการ”
ชัยวัฒน์ เปรียบ ‘ความไม่ย่อท้อ’ ของเด็กชายในหนังสั้นโฆษณา ‘จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง #กระจกกับดอกไม้’ ในเรื่องของความพยายามนำกระจกขึ้นไปยังยอดเขา และทำให้หมู่บ้านได้รับแสงสว่าง ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยใช้สิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติมาสร้างสมดุลธรรมชาติ คือ การสะท้อนให้เห็น พลังและจิตวิญญาณของบางจากฯ ในการไม่หยุดพัฒนา อีกทั้งความร่วมมือของคนในหมู่บ้านก็สะท้อนถึง ความร่วมมือในแต่ละกลุ่มธุรกิจของบางจากฯ เพื่อรังสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อทุกชีวิต
ดังประโยคซึ่งปรากฏขึ้นในตอนท้ายของหนังสั้นโฆษณาที่ว่า 'Greenovate to Regenerate สมดุลธรรมชาติ สรรค์พลังไม่สิ้นสุด’
ชัยวัฒน์กล่าวเสริมว่า การสร้างสมดุลธรรมชาติในการ Regenerate เราพยายามใช้กระบวนการธรรมชาติ แทนที่จะไปสังเคราะห์ทุกอย่าง บางจากฯ นำสมดุลธรรมชาติ มาต่อยอดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างไม่รู้จบ ผ่าน 3 เสาหลัก (pillars) ได้แก่ Regenerative Power การสรรค์พลังใหม่ๆ เพื่อการเดินทางอย่างยั่งยืนและพลังงานสะอาด ไปจนถึงพลัง ไปจนถึงพลังที่เติมให้กับชีวิตผ่านเครื่องดื่มต่างๆ และพลังแห่งความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อร่วมบรรเทาวิกฤตสภาวะภูมิอากาศ
Regenerative Innovation สรรค์พลังแห่งนวัตกรรมเพื่อสร้างอนาคตที่สดใส ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยั่งยืน
Regenerative Life สรรค์พลังแห่งความสุขที่ยั่งยืนด้วยการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคม ให้ความสำคัญของการรักษาสมดุลระหว่างมูลค่าและคุณค่าบนรากฐานของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ชัยวัฒน์คาดหวังว่าผู้ชมหนังสั้นโฆษณา “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง”#กระจกกับดอกไม้ จะได้รับอะไรบ้าง
“ไม่ต้องคิดถึงบางจากฯ ก็ได้ครับ ผมหวังว่าหนังสั้นโฆษณาเรื่องนี้อย่างน้อยจะเป็นแรงบันดาลใจให้คนกลับมากล้าคิดกล้าทำ ทำอะไรที่ดีๆ ง่ายๆ สามารถทำได้ บางจากฯ มี Shared Value คล้ายๆ อย่างนี้เหมือนกัน
จะเห็นว่าตลอดความยาวของหนัง 5 นาที 26 วินาที ไม่มีการ tie-in อะไรที่เกี่ยวกับบางจากฯ เลย เพราะทั้งหมดของหนังสั้นเรื่องนี้ คือ บางจากฯ คือความเป็นคนบางจากฯ เท่านั้น"
พล็อตหนังสั้นโฆษณาเรื่อง “จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง” #กระจกกับดอกไม้
จิตวิญญาณที่ไม่หยุดนิ่ง หรือ Regenerative Soul เล่าเรื่องผ่านเด็กชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีแสงอาทิตย์ส่องถึง ทุกคนในหมู่บ้านต้องใช้ชีวิตอยู่ในความมืด เขามีน้องสาวที่นอนป่วยอยู่แต่ในบ้าน
วันหนึ่ง เขาเห็นโอกาสที่จะทำให้น้องสาวได้เห็นแสงอาทิตย์ จึงได้แบกกระจกเดินขึ้นไปบนยอดเขา หวังให้กระจกสะท้อนแสงอาทิตย์ลงมายังหมู่บ้าน เพื่อส่องไปให้ถึงน้องสาวเขาที่นอนป่วยอยู่บนเตียงข้างหน้าต่าง
ชาวบ้านที่เดิมไม่คิดว่าเด็กชายจะทำได้ เมื่อเห็นแสงแดดที่ส่องมา ต่างก็ตกใจและประหลาดใจกับสิ่งที่เห็น แต่แสงส่องมาได้เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้นก็ดับลง ทั้งหมู่บ้านตกอยู่ในความมืดดั่งเดิม
คราวนี้เด็กชายได้ชักชวนและพาคนในหมู่บ้านเดินไปยังยอดเขา เมื่อไปถึงยอดเขา ก็เห็นกระจกบานแรกที่เขานำขึ้นมาล้มลงแตก
เด็กชายและชาวบ้านได้ร่วมมือและช่วยกันสร้างกระจกบานใหม่จำนวนหลายบานจนสำเร็จ นำมาเรียงต่อกันเป็นกระจกบานใหญ่กว่าเดิม สามารถตั้งสะท้อนแสงไปยังหมู่บ้าน ทำให้ผู้คนในหมู่บ้านสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข
ส่วนน้องสาวของเด็กชายจะเป็นอย่างไร ติดตามชมได้ผ่านช่องทางออนไลน์ YouTube: Bangchak Official, Facebook: Bangchak และ www.bangchak.co.th
ไม่มีใครว่าหากคุณมีน้ำตาตั้งแต่หนังยังไม่จบเรื่อง
