"โหรฟองสนาน" ชี้เมืองออกจาก จันทร์ล่าราหู+ราหูค้นทรัพย์

"โหรฟองสนาน" ชี้เมืองออกจาก จันทร์ล่าราหู+ราหูค้นทรัพย์

"โหรฟองสนาน" เผยคำทำนาย ดวงเมืองรัตนโกสินทร์ออกจาก จันทร์ล่าราหู+ราหูค้นทรัพย์ สู่การโงหัวขึ้นทางเศรษฐกิจ

"โหรฟองสนาน" เปิดเผยคำทำนายในบทความ แม่หมอสมัครเล่นตอนที่419 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ เมืองออกจาก จันทร์ล่าราหู+ราหูค้นทรัพย์ สู่การโงหัวขึ้นทางเศรษฐกิจ

ตามที่ผู้เขียนได้ทำนายแนวโน้มที่จะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์ไว้ตั้งแต่ 5 ธันวาคม 2564ในบทความ แม่หมอสมัครเล่นภาคพิเศษดวงเมือง 2565 ว่าทั้งเกณฑ์ดี-ร้ายที่จะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์ได้ตลอดเวลา เพราะมีอิทธิพลของดาวหลายดวงที่จะทำมุมกับดวงเมืองนั้น

ครั้นตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป ถึงวาระที่พระราหูจร(8) ที่เบียนบ่อนด้านเศรษฐกิจการทำมาหาได้ของเมืองอย่างสาหัสสากรรจ์ที่เป็นมาสิบแปดเดือนจะจบลง

แล้วจะเริ่มปรากฎการณ์ใหม่คือเศรษฐกิจของประเทศจะเริ่มโงหัวไปอีกยาวนาน 18 เดือน

มาบัดนี้ขอลงในรายละเอียดเพื่อย้ำในสิ่งที่ได้ทำนายไปแล้วและตัวอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตดังนี้

1.สิบแปดเดือนมาแล้วเริ่มตั้งแต่ 10 กันยายน 2563 เป็นต้นมา ที่เมือง-คนในเมืองสาหัสหนักหนาเรื่องเศรษฐกิจ-การทำมาหาได้ด้วยการมาของโรคระบาดขนาดใหญ่โควิด19 เป็นระลอกๆ

ครั้นสถานการณ์โรคระบาดทำท่าจะลดความรุนแรงลงบ้าง ก็เกิดปรากฎการณ์ศัตรูใหญ่รบกัน -ไทยพลอยเดือดร้อนเรื่องราคาพลังงานไปด้วยซ้อนเข้ามาคือเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 รัสเซีย กรีฑาทัพบุกยูเครน

\"โหรฟองสนาน\" ชี้เมืองออกจาก จันทร์ล่าราหู+ราหูค้นทรัพย์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ผลที่เกิดถึงวันนี้ คือหนี้สาธารณะของชาติเพิ่มต่อเนื่องจากการดูแลช่วยเหลือประชาชนทั้งเรื่องโรคภัยและการทำมาหากิน ด้วยประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าทำมาหากินไม่ได้ เจ็บไข้ได้ป่วยมีหนี้นุงนังวุ่นวายจนหนี้ครัวเรือนพุ่งพรวดพราด

อธิบายเกณฑ์ร้ายทางโหรคือ ตั้งแต่ 10 กันยายน 2563 -29 มีนาคม 2565 เป็นเวลา 18 เดือนที่ ชะตาเมืองแตก-ช้ำทุกข์ๆยากๆ ด้วยเรื่องเศรษฐกิจ การทำมาหาได้ หรือพินทุบาทว์ เพราะราหูจร(8) ซ้อนกันถึงสองเกณฑ์ ทำให้ความเดือดร้อนเพิ่มจากปกติสองเท่าคือ

1.1 เกณฑ์แรกราหูจรค้นทรัพย์เมืองกระเป๋าปลิ้น (พระราหูจรเดินอยู่ในราศีพฤษภ-ภพที่สอง-กฎุมภะดินแดนเศรษฐกิจการทำมาหาได้ของเมืองทำให้ดวงเมืองแตกชั้นที่หนึ่ง) และ

1.2 ซ้อนเข้ามาในช่วงเดียวกันเกิดปรากฎการณ์จันทร์ (๒) คือประชาชนล่าราหู (8) เป็นคู่หนี้ (พระจันทร์ดวงเดิม๒ที่สถิตราศีกรกฎโยคหน้าพระราหูจร 8 ที่เข้าไปเดือนในราศีพฤษภ) เป็นดวงแตกชั้นที่สองซ้อนเข้ามา

นี่คือคำตอบที่ผู้เขียนเคยบอกคุณวีระ ธีรภัทร์ในรายการณ์หนึ่งของช่อง9อสมท.เผยแพร่เมื่อต้นปี 2563 ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะไม่ดีขึ้นจนกว่าจะหยุดปรากฎการณ์นี้

เพียงแต่ผู้เขียนเองก็คาดไม่ถึงว่าฤทธิ์ราหูค้นทรัพย์ และจันทร์ล่าราหูรอบนี้จะหนักหนาสาหัสมาก เรียกได้ว่าประเมินสถานการณ์ต่ำไป

และแล้ววันที่ 29 มีนาคม 2565 เกณฑ์สองเกณฑ์ร้ายนี้จะจบลง

2. เริ่ม 29 มีนาคม 2565 เป็นต้นไปเศรษฐกิจจะเริ่มโงหัวไปยาวนาน 18 เดือนจนถึง 18 ตุลาคม 2566

กล่าวคือไม่ว่าเรื่องดี-ร้าย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะเป็นอย่างไร(พระราหูจรทับพระอาทิตย์ดวงเดิมดวงเมือง๑)

2.1 ทางเศรษฐกิจจะเกิดโชคลาภและความสำเร็จในเมืองจากรายได้เริ่มเติมเข้ามา (พระราหูจร8ที่ทับลัคนาเมือง-โดยพื้นฐานมาจากภพลาภะคือโชคลาภและความสำเร็จของเมืองหรือเพื่อนฝูง) เช่น

นักท่องเที่ยวกลับมา - แขกบ้านแขกเมืองมากันว่อน ตลาดหุ้นที่มีโอกาสทำสถิติใหม่ด้านใดด้านหนึ่ง หรือนวัตกรรมใหม่ๆทางด้านเศรษฐกิจจะโผล่ เช่นกัญชา พืชกระท่อม หรือค่าเงิน หรือเงินดิจิตอล หรือทองคำ หรือสลากแนวใหม่ที่เริ่มขายกันแล้ว หรือของปลอม หรือธุรกิจบันเทิงมอมเมาเช่นดาราหรือทีมถ่ายหนังจากต่างประเทศมาเยือน หรือธุรกิจยาและเวชภัณฑ์หรือ การบินและกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือธุรกิจเกี่ยวข้องกับไฟฟ้าเช่นโซล่าห์เซลล์ หรือพวก รถไฟฟ้า สถานีชาร์จไฟฟ้า ฯลฯ

2.2.สิ่งที่พึงระวังคือจิตใจคนในเมืองจะกล้ากับการเก็งกำไรโดยขาดเหตุผลสนับสนุน-เสี่ยงจะเกิดความเสียหาย (พระราหูจรตัวแทนความลุ่มหลงมัวเมา-อวิชา-เสี่ยง ทับพระอาทิตย์ดวงเดิม๑ตัวแทนจิตใจคนของเมือง) เพราะในเมืองคงมีการเก็งกำไร หรือเสี่ยงกันสนั่นหวั่นไหวและหวือหวาหากไม่ควบคุมความอยากได้ก็จะกลายเป็นโลภ-ความเสี่ยงกลับกลายเป็นลาภหาย หรือหดหู่ได้ง่ายมาก

2.3 การหลอกหลวงในเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางออนไลน์ -ล้ำสมัยหรือระเบิดอารมณ์แบบนักเลงโตกันสนั่นหวั่นไหว แบบลุ่มหลงมัวเมาหรืออวิชชาจนทำให้เดือดร้อนกันได้

3.ปรากฎการณ์นี้หากจะเปรียบเทียบในอดีต ที่เมืองพบช่วงหนักหน่วงที่สุดมาเหมือนคราวรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ โดยคุณสมหมายฮุนตระกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ลดค่าเงินบาทเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2527 คราวนั้นเมืองก็ถูกราหูค้นทรัพย์และจันทร์ล่าราหู จนเกิดเหตุการณ์ คืนวันลอยกระทง

ครั้นพอพระราหูจรย้ายราศีจากพฤษภเข้าเมษ สัญญาณบวกทางเศรษฐกิจที่พลเอกเปรม+ปู่สมหมายพยายามในสิ่งที่ต้องทำก็ค่อยๆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ นำ เข้าสู่ยุคโชติช่วงชัชวาล จนไทยหวังจะได้เป็นเสือตัวใหม่หรือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย เพราะอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงติดต่อกันหลายปี แต่ในที่สุดก็สะดุดขาตัวเองด้วยปรากฎการณ์ตุ้มยำกุ้งกลางปี 2540

คราวนี้ที่ปลายเดือนมีนาคม 2565 เป็นต้นไป ก็มีแนวโน้มจะได้เห็นสัญญาณที่ดีทางเศรษฐกิจ โดยเกณฑ์นี้ยาวนานสิบแปดเดือน

อย่างน้อยก็ยังเริ่มต้นสัญญาณที่ดี เพื่อเมืองจะได้เริ่มตีฝ่าเจ็ดปีสงครามเศรษฐกิจโลกโลก-ปฏิวัติใหญ่เศรษฐกิจของชาติต่อไป

ฟองสนาน จามรจันทร์

18 มีนาคม 2565