ปฏิบัติการตามหา "บัดดี"

ปฏิบัติการตามหา "บัดดี"

หวังดีประสงค์ร้าย! เมื่อเจ้าเพนกวิน "บัดดี" ถูกขโมยออกจากศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำเพื่อคืนสู่ธรรมชาติ แต่เรื่องมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น

ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีนักศึกษาสองคน ขับรถเข้าไปยังศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำ พอร์ต อลิซาเบท แล้วพวกเขาก็ลักลอบฉกตัวเพนกวินแอฟริกันเพศผู้ ที่รู้จักกันในชื่อของ "บัดดี"

ปฏิบัติการอันอุกอาจนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ได้สร้างความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ประเมินไม่ได้ เพราะลูกเพนกวินแอฟริกัน 2 ตัวของบัดดี ตายไปหลังจากพ่อหายไปได้ไม่กี่วัน

หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และประชาชนที่ได้รับทราบข่าว ต่างเริ่มตั้งทีมออกค้นหาบัดดีที่นักศึกษาทั้งสองคนนำไปปล่อยเนื่องจากเกิดความไม่พอใจที่มันถูกกักขังเอาไว้ในสถานอนุรักษ์พันธุ์สัตว์

ดีแลน ไบเล่ย์ ผู้จัดการศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์น้ำเบย์เวิล์ด กล่าวว่า บัดดีหายไปในเช้าวันพฤหัสบดี

"อาสาสมัครของศูนย์อนุรักษ์เริ่มสังเกตว่ามีเพนกวินหายไปตัวหนึ่งตอนที่พวกเขาเข้าทำหน้าที่ตรวจสุขภาพประจำวันให้กับสัตว์ในศูนย์ตามปกติ"

กล้องโทรทัศน์วงจรปิดเผยให้เห็นรถยนต์คันหนึ่งจอดอยู่ข้างกำแพง  และคนที่ออกมาจากรถก็ใช้วิธีปีนข้ามมาเพื่อลักลอบเข้าสู่กรงเพนกวิน ภาพ และข้อความติดตามหาถูกส่งต่ออย่างรวดเร็วในวันรุ่งขึ้น เพื่อตามหาบัดดีที่หายไป

เพนกวินแอฟริกัน ถูกจัดเข้าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ตั้งแต่ปี ค.ศ.2010 หลังจากจำนวนของพวกมันลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นทำให้เรื่องนี้ กลายเป็นเรื่องใหญ่มากกว่าการต้องโทษขโมยสัตว์จากศูนย์อนุรักษ์เพียงอย่างเดียว และนักศึกษาทั้งสองนั้นก็แต่งตั้งทนายพร้อมกับออกแถลงการณ์ว่า นักศึกษาทั้งคู่ต่างตกใจและไม่รู้ว่าจะจัดการกับเรื่องใหญ่แบบนี้ได้อย่างไร

พวกเขายอมรับว่าก่อนลงมือทำ พวกเขาออกไปดื่มสังสรรค์ และพูดคุยกันเรื่องการกักขังหน่วงเหนี่ยวนกเอาไว้ และคิดว่า สมควรปล่อยพวกมันคืนสู่ธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตามวันนี้พวกเขาตระหนักดีแล้วถึงความผิดพลาดมหาศาลที่เกิดขึ้น

“อันที่จริงแล้วการเลี้ยงเพนกวินในศูนย์อนุรักษ์ไม่ได้เกิดอันตรายอะไรต่อพวกมันเลย" ไบเล่ย์กล่าว และบอกว่า บัดดี เป็นเพนกวินที่เกิดและเติบโตในศูนย์แห่งนี้ และแน่นอนว่า มันจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในสภาพธรรมชาติ

"นกของที่นี่ทุกตัวยังไม่ชินกับการอยู่ลำพังในธรรมชาติ"

นกที่ถูกส่งมาที่ศูนย์อนุรักษ์ทุกตัวจะได้รับการดูแลรักษาหากบาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่ที่ศูนย์แห่งนี้จะไม่ส่งพวกมันกลับไปยังป่า หากพิจารณาแล้วว่ามันไม่อาจเอาชีวิตรอดได้ พวกมันจะถูกเลี้ยงไว้ที่นี่ และผสมพันธุ์ออกลูกหลานต่อไป

"เจ้าบัดดียังไม่ได้ลองแม้แต่จะเรียนรู้ว่า การเป็นเพนกวินป่านั้นจริงๆ เป็นอย่างไร" ไบเล่ย์กล่าว

และย้ำว่า สองปีแรกของชีวิจนกเพนกวินนั้นเป็นช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อน พวกมันจะอยู่ติดกับที่อยู่อาศัยและเรียนรู้ที่จะหาอาหารตามสภาพแวดล้อมที่มันคุ้นเคย

"เข้าใจว่าบัดดีคงจะวิ่งลงทะเลไปตามสัญชาติญาณแต่ก็ไม่รู้ว่าทะเลคืออะไร และมีอะไรอยู่ในทะเลบ้าง เพราะมันไม่เคยเห็นทะเลมาก่อน"

ไบเล่ย์ยืนยันว่า แม้บัดดีจะเป็นเพนกวินที่มีสุขภาพแข็งแรงมาก แต่ถ้าหากยังหาตัวมันไม่เจอภายในไม่เกิน 2 สัปดาห์โอกาสมีชีวิตรอดของมันจะน้อยมาก "บัดดีน้ำหนักเกินเกณฑ์เล็กน้อย ด้วยปริมาณไขมันในร่างกาย มันคงจะไม่กินอะไรเลยได้เต็มที่ก็คงแต่เกือบๆ 3 สัปดาห์เท่านั้น"

ที่ผ่านมา ทีมอาสาได้ออกเดินสำรวจไปตามชายหาดด้วยความหวัง แต่จนกระทั่งวันนี้ก็ยังไม่มีใครพบแม้แต่เงาของเจ้าเพนกวินแอฟริกันที่โชคร้ายตัวนี้ ในขณะที่ตัวเมียก็อยู่อย่างเหงาๆ และลูกน้อยของมันก็ตายจากไป