อะเมซซิ่ง(คน)อิหร่าน

อะเมซซิ่ง(คน)อิหร่าน

ทั้งๆ ที่ประเทศอิหร่านนั้นไม่เคยอยู่ในจินตนาการที่จะไปเลยสักครั้งหากจะยกเว้นก็เป็นความจำเป็นเช่นต้องไปทำข่าว หรืออื่นๆ

นั่นเป็นเพราะชื่อเสียงประเทศนี้สร้างอารมณ์ในเชิงลบในหัวสมองซึ่งถูกชักนำไปตามข่าวที่ได้ติดตามจากสื่อต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งจากสื่อตะวันตกเช่นหวาดกลัวเรื่องนิวเคลียร์ ที่กำลังเป็นข่าวไปทั่วโลกและสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในยูโรกำลังคว่ำบาตรอิหร่านเกี่ยวกับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์

เช่นหลังปฎิวัตินำโดยอายะตุลลอฮ์ โคมัยนี เปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณรัฐอิสลามปี พ.ศ. 2522 คาดว่าประเทศคงจะดำมืดไปด้วยเครื่องแต่งกายสีดำ มีตำรวจศาสนาที่คงจะเคร่งครัด และผู้หญิงทั้งประเทศคงจะแต่งตัวออกมาเป็นพิมพ์เดียวกันหมดด้วยสีดำๆคลุมผมปิดหน้าตาไม่รู้ว่าใครเป็นใคร

สำคัญคือในฐานะคนไทยที่จะเสรีในเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัวเป็นแบบหัวก็หัวของฉัน หรือทำได้ดังใจคือไทยแท้ย่อมหวาดเป็นธรรมดา เพราะอิหร่านเป็นประเทศเดียวที่ผู้หญิงต่างชาติที่เข้าประเทศต้องคลุมผมทุกแห่งในที่สาธารณะ การไม่คลุมหรือทำผ้าคลุมผมหลุดว่ากันว่าเท่ากับเปลือยกายในที่สาธารณะอาจถูกเตือนหรือไล่กลับโรงแรมที่พักได้

แต่เมื่อเห็นกำหนดการเยือนของคณะกรรมาธิการต่างประเทศ ที่รวมไปถึงการเชื่อมสัมพันธ์กับประธานวุฒิภาของจอร์แดนก่อนไปอิหร่านผู้เขียนก็รีบตกลงทันทีเพราะสารภาพตามตรงว่าเป็นแฟนตัวยงของราชวงศ์ทั่วโลกเฝ้าติดตามข่าวคราวตลอดเวลา

รวมทั้งราชวงศ์จอร์แดนตั้งแต่อดีตกษัตริย์อุสเซนผู้ล่วงลับ จนถึงกษัตริย์องค์ปัจจุบันคือสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 ที่ลุ้นพระองค์มาตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์ใหม่ๆ รวมทั้งพระราชินีรายยาผู้เลอโฉมของพระองค์ที่ทรงเป็นสตรีที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจมากที่สุดเป็นอันดับที่สองรองจาก นิโคล คิดแมน จากการสำรวจจากประชาชนในปี 2545

เรียกได้ว่าขอตามไปดูบ้านเมืองของคิงส์อับดุลลอฮ์ที่ 2 สักครั้งในชีวิต ซึ่งก็ได้เห็นรัฐสภาของจอร์แดน ได้ฟังการเยียมเยือนและแลกเปลี่ยนทัศนะของคณะกับประธานวุฒิสภาจอร์แดนและคณะ เห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลลอฮ์ที่ 2 และพระโอรสที่ทรงเป็นมกุฎราชกุมารติดอยู่ทั่วเมืองเหมือนบ้านเรา ขณะที่พระองค์กำลังเสด็จเยือนสหราชอาณาจักรเพื่อทรงแจ้งให้ทราบว่าประเทศของพระองค์แบกภาระผู้อพยพชาวซีเรียที่หนีตายจากสงครามกลางเมืองระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายต่อต้านหนักขนาดไหน

เจ้าของร้านขายของที่ระลึก ที่โรงแรม Movenpick Petra เมืองเพตร้าเล่าให้คุณพิไลพรรรณ สมบัติศิริ เลขานุการคณะกรรมาธิการที่ไปนั่งต่อรองราคาสินค้าฟังว่า เขาต้องหาเงินแบกภาระญาติที่อพยพจากซีเรียและครอบครัวตัวเองในจอร์แดนถึงห้าสิบชีวิตในแต่ละวันเลยทีเดียว

กลับมาที่อิหร่านนั้นเป็นของแถมชั้นเยี่ยมเพราะแม้จะจิตตกหวาดหวั่นอยู่บ้างเพราะข่าวที่ออกมาส่วนใหญ่หนักไปด้านลบแต่ประเทศนี้เป็นแหล่งอารยธรรมที่เก่าแก่สำคัญของโลกอีกทั้งยังเคยได้สัมผัสเรื่องอาหรับราตรี หรือ พันหนึ่งราตรี อันเป็นอมตะนิทานอาหรับ ที่รวบรวมเรื่องเล่าจากผู้แต่งคนต่างๆ มาเป็นเวลานับพันปีในยุคอาหรับโบราณและเปอร์เซียโบราณ ตัวอย่างเรื่องเล่าที่เป็นที่รู้จักกันดีเช่น อะลาดิน อาลีบาบา และกะลาสีซินแบด

รวมได้ยินกิตติศัพท์ของพรมเปอร์เซีย ทะเลสาบแคสเปี้ยน(ซึ่งไปไม่ถึง) ฯลฯ หากจะไปสักครั้งก็ไม่เสียหาย

คุณพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์เอง เล่าให้ฟังว่า เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำประเทศไทยต้องการและเชิญกรรมาธิการการต่างประเทศวุฒิสภาให้ไปเยี่ยมดูสถานการณ์บ้านเมืองบ้างแทนที่จะเห็นแต่ด้านลบของอิหร่านจากสื่อตะวันตกซึ่งเป็นคู่กรณีกันจนอิหร่านกลายเป็นยักษ์มารไปแล้ว

เมื่อไปเห็นมาแล้วผู้เขียนเองก็จะไม่ตัดสินใครหรือประเทศไหนในเวทีโลก เพราะอาบน้ำร้อนมานานพอจะเข้าใจว่าแต่ละประเทศล้วนมีตัวตน บุคลิก วัฒนธรรม วาระ และผลประโยชน์ของตัวเอง

แต่มีสิ่งที่น่าจะรู้สำหรับท่านที่อยากหรือต้องไปอิหร่านให้พิจารณาดังนี้

1.ประเทศอิหร่าน ชื่อเป็นทางการคือสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ขนาดใหญ่กว่าประเทศไทยสามเท่า ประชากรประมาณ 79 ล้านคน เกือบทั้งหมดนับถือศาสนาอิสลามเป็นประเทศในตะวันออกกลาง ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งช่วงก่อนปี พ.ศ. 2478 ชาวตะวันตกเรียกว่า เปอร์เซีย พรมแดนทางทิศตะวันออกติดต่อกับปากีสถาน และอัฟกานิสถาน ทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดต่อกับเติร์กเมนิสถาน ทิศเหนือจรดทะเลแคสเปียน ทิศตะวันตกเฉียงเหนือติดต่อกับอาเซอร์ไบจาน และอาร์เมเนีย ตุรกี และอิรัก ส่วนทิศใต้จรดอ่าวเปอร์เซีย (ทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้) และ อ่าวโอมาน (ทิศตะวันออกเฉียงใต้)

2. ภูมิประเทศมากกว่าร้อยละ 95 เป็นที่สูงในลักษณะของเทือกเขาสูง ส่วนที่ราบสูงจะอยู่ตอนกลางของประเทศเป็นที่ราบผืนใหญ่ครอบคลุมพื้นเกือบทั้งประเทศต่อเนื่องเข้าไปถึงอัฟกานิสถานและปากีสถาน ภูมิประเทศชายฝั่งจะปรากฏอยู่ 2 บริเวณคือ ตอนเหนือเป็นชายฝั่งทะเลแคสเปียน ส่วนด้านตะวันตกเฉียงใต้และด้านใต้เป็นชายฝั่งราบของทะเลบริเวณอ่าวเปอร์เซีย

อากาศเป็นแบบทะเลทราย หรือกึ่งทะเลทราย ฝนตกน้อย และแห้งจัดไม่ว่าจะฤดูไหน ฉะนั้นนักท่องเที่ยวควรเตรียมตัวให้พร้อมไม่ว่าจะเป็นครีมทาผิว หน้า หรือลิปมัน เพราะขนาดทาแล้วความที่ไม่คุ้นเพราะเราอยู่เมืองร้อนชื้นอาจจะคันคะเยอได้ ผู้เขียนเจอขนาดริมฝีปากฉีก เลือดซึมไม่รู้ตัว

3. อิหร่านเป็นประเทศเดียวในโลกที่ผู้หญิงต่างชาติที่ไปเยือนต้องคลุมหัวหรือผมทุกคน เมื่อจะลงจากเครื่องบินที่สนามบินแล้ว ผู้หญิงต้องคลุมหัวหรือผมทันทีซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากจะคลุมแบบไหนก็ได้ก็ให้ได้รู้ว่าคลุม และต้องคลุมตลอดเวลาที่อยู่ในที่สาธารณะ เสื้อก็ควรเป็นแขนยาว คลุมสะโพก และควรหลวมๆ ไม่เน้นสรีระ กางเกงต้องขายาว ถ้าเป็นกระโปรงก็กรอมเท้า คนที่ไม่คุ้นเคยกับการคลุมผมจะรู้สึกอึดอัด บ่นกันอู้ และมักจะลืม เช่นวันหนึ่งคุณพิกุลแก้วเดินออกจากห้องพักสบายใจเฉิบ พอถูกชาวคณะทักถึงกับสะดุ้ง

ขณะอยู่บนเครื่องของเที่ยวบินในประเทศของอิหร่านแอร์จากเมืองซีราสกลับเตหะราน เด็กผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณไม่เกินสิบขวบขึ้นเครื่องมากับคาดว่าจะเป็นคุณพ่อหยุดที่ทางเดินหน้าเก้าอี้คุณพิกุลแก้วแล้วพูดว่า โน….โน…โน… คุณพิกุลแก้ว นึกว่าเด็กจะมาแย่งเก้าอี้จึงเสียงหวานพูดด้วยอย่างดีในที่สุดก็รู้ว่าเด็กทักเพราะลืมคลุมผม

คำแนะนำสำหรับผู้หญิงที่จะไปอิหร่านคือเตรียมกิ๊บดำตัวใหญ่ๆ ไปด้วย หรือจะเป็นกิ๊บที่เก๋ๆ แต่ต้องขนาดใหญ่มั่นคงเพื่อใช้ตรึงผ้าคลุมผมทั้งด้านซ้ายและขวาของหัว ส่วนชายผ้าจะผูกใต้คางหรือพันแบบไหนก็ได้เมื่อตรึงแน่นแล้วให้เผลออย่างไรก็ไม่มีหลุดหรือลืม

แต่ผู้เขียนเจอปัญหาผูกผ้าที่ใต้คางเกิดอาการคันคะเยอเพราะอากาศแห้ง หากจะเข้าสถานที่สำคัญทางศาสนา เช่นที่เมืองกุม (Gom) บ้านเกิดของพ่อค้าชาวเปอร์เซีย (อิหร่าน) มีนามว่า เฉกอะหฺมัด ที่เข้ามารับราชการในกรุงพระนครศรีอยุธยา ท่านเป็นต้นตระกูลบุนนาคก็ต้องผ่านการตรวจเครื่องแต่งกายในซุ้มโดยผู้หญิงที่จัดไว้ ไม่ว่าจะเป็นคนอิหร่านเองหรือชาวต่างชาติ บางคนถูกขอให้ลบลิปสติกสีเข้มออก

แล้วทุกคนต้องคลุมตัวด้วยผ้าผืนใหญ่ที่เตรียมไว้ในตระกร้าในซุ้มที่คงจะผ่านการใช้มาแล้วพอสมควรโผล่ออกมาเห็นแต่หน้าจนบางคนกลับมาดูรูปภายหลังแล้วจำตัวเองไม่ได้ก็มี เท่าที่สังเกตดูหญิงสูงอายุชาวอิหร่านจะผู้เงื่อนใต้คาง ส่วนวัยรุ่นก็ทันสมัยแต่งตัวเต็มที่โดยคาดว่าจะเกล้ามวยด้านหลังผ้าคลุมผมจะอยู่แค่กลางหัว ผู้ชายห้ามกางเกงขาสั้น ถึงขายาวก็ต้องสุภาพ ประเภทขอบกางเกงจะหลุดจากเอวนั้นไม่เห็นเลยที่อิหร่าน ห้ามใส่เสื้อกล้าม เสื้อแขนสั้นใส่ได้ในโอกาสลำลองที่ไม่ใช่เข้าสังคมหรือทางการ

4..หลังจากถึงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่านแล้ว โชคดีที่คณะของเรานั่งรถยนต์ยาวตามทางหลวงแผ่นดินจากเตหะราน ไปเมืองกุม-คาซาน-อิศฟาฮาน-ชีราส รวมระยะทางประมาณ 800 กิโลเมตร ได้เห็นภูมิประเทศที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาแทบจะไม่มีที่ราบ ชาวอิหร่านได้น้ำจากหิมะละลายเก็บกักไว้ต่อท่อส่งให้พื้นที่การเกษตรที่เห็นเป็นหย่อมๆ โดยปลูกไม้ใหญ่ส่วนใหญ่เป็นสนกั้นอาณาเขต สีของต้นไม้เขียวสดกว่าเมืองไทย ที่โคนต้นไม้จะเห็นท่อน้ำพาดเป็นสายยาวอยู่บนดิน

สรุปได้คือคนอิหร่านดิ้นรนนำน้ำที่มีอยู่จำกัดมาปลูกต้นไม้และป่า ขณะที่คนไทยที่บ้านเราน้ำมีเหลือเฟือบางคนเห็นต้นไม่ได้เป็นตัดเสียเหี้ยน

5.ถนนในประเทศอิหร่านดี มีปั๊มแก็สหรือปั๊มน้ำมันไม่มาก และไม่หรูเริดเท่าเมืองไทย ส่วนห้องน้ำนั้นต้องทำใจเพราะเหมือนกับบ้านเราสักประมาณสามสิบปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นแบบนั่งยอง ชักน้ำล้างแบบดึงจากถังด้านบน และจะไม่มีการทำความสะอาดเป็นระยะหรือถ้าห้องถ้าสกปรกให้สั่นประดิ่งเหมือนบ้านเรา บางแห่งไม่มีกลอนประตูต้องผลัดกันเข้าและเฝ้า ดีที่สุดควรเตรียมผ้าคาดจมูก และกระดาษแบบเปียกที่มีขายเป็นแพ็คไปจากเมืองไทย

เมื่อใช้ห้องน้ำอย่ามองและคิดอะไรมาก ขนาดคุณพิไลพรรณ สมบัติสิริ ไฮโซจากเมืองไทย เจ้าของโรมแรมปาร์คนายเลิศยังเข้าได้หน้าตาเฉยเราก็ต้องเข้าได้ ส่วนห้องน้ำที่โรงแรมระดับมีดาว หรือภัตราคารริมทางที่มีไว้บริการนักท่องเที่ยวก็ถือว่าดีและผ่าน สำหรับทางรถไฟนั้นเท่าที่ทราบกำลังสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน

6. ค่าเงินอิหร่านเรียลค่อนข้างแกว่งจัด วันแรกที่ไปถึงไกด์เตรียมไว้ให้แลกสองหมื่นห้าพันเรียลต่อหนึ่งดอลลาร์สหรัฐ ไปแลกที่ซุ้มได้สามหมื่นสี่พันเรียล แต่พอค่าเงินแกว่งมากๆ ฝ่ายให้แลกอาจหยุดให้บริการเพื่อรอดูสถานการณ์ได้ ร้านค้าส่วนมากรับแต่เงินเรียล บางร้านรับดอลลาร์ แต่บัตรเครดิตใช้ไม่ได้ที่อิหร่าน

7.ห้ามถ่ายรูปสถานที่ราชการ สนามบิน หรือจุดที่ห้ามถ่ายทั้งหลายก็อย่าไปฝ่าฝืน คุณอโนทัย นันทิทัศน์ หัวหน้าทัวร์เล่าให้ฟังว่าเคยมีนักท่องเที่ยวผ่าฝืนถูกเรียกให้ลบภาพ จนตามคณะไม่ทันมาแล้ว

8.เผื่อเวลาไว้พอสมควรที่สนามบิน เพราะเจ้าหน้าที่ประทับวีซ่าตรวจละเอียดและเคาเตอร์น้อยจนเคยมีคนตกเครื่องมาแล้ว

10.ประเทศนี้ไม่มีเหล้าหรือเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เบียร์มีแต่เป็นประเภทไม่มีแอลกอฮอล์ แต่พลเอกธีรเดช มีเพียร กับคุณสมชาย แสวงการ ดื่มอย่างครึ้มอกครึ้มใจ โค้กและเป๊บซี่มีขายพร้อมน้ำอัดลมชนิดอื่น ส่วนคนที่กินอาหารยากควรเตรียมบะหมี่สำเร็จรูปไปแทรกระหว่างมื้อ แต่อาหารอิหร่านก็กินได้แม้จะไม่คุ้นปาก

11.ตลาดหรือศูนย์การค้าจะคล้ายๆ พาหุรัดบ้านเรา ยกเว้นสินค้าพิเศษเช่นพรม

12.สุดท้ายที่อยากบอกคือ เท่าที่ได้สัมผัสมา ประเทศอิหร่านไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนหรือน่ากลัวอย่างที่คิดเพราะสงบร่มเย็นดี คนอิหร่านก็มีวัฒนธรรมสูงในร้านอาหารก็กินอย่างสุภาพเรียบร้อย เงียบๆ ที่สำคัญ เป็นมิตรและน่ารักจริงๆ

ผู้เขียนเคยพบคนแคนาเดี้ยนที่สุดแสนจะเป็นมิตรมาแล้วจากการที่ติดตามไปทำข่าวคุณชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีไปเยือนแคนาดา กลุ่มนักข่าวจากประเทศไทยหาโรงแรมที่นายกรัฐมนตรีจะพบนักธุรกิจไม่ได้ จึงถามสุภาพบุรุษคนหนึ่งซึ่งเขาไม่อธิบายแต่บอกให้ตามไป เมื่อไปถึงแล้วชี้ให้พวกเราดูโรมแรมจากนั้นก็หายแวบไปโดยไม่รอคำขอบคุณเลยสักคำ

สำหรับอิหร่านนี้ผู้เขียนเคยดูสารคดีจากยูบีซีที่คณะชาวเกาหลีและดาราจากประเทศฟินแลนด์คนหนึ่งเรียกตัวเองว่าวิลล์ทำสารคดีเส้นทางสายไหม ที่ส่วนหนึ่งพาดผ่านอิหร่านตอนเหนือแถบทะเลสาบแคสเปียนด้วยต่างชมเป็นเสียงเดียวกันว่าคนอิหร่านเป็นมิตรมาก พอไปเจอด้วยตัวเองก็รู้ว่าอะเมซซิ่งเป็นอย่างนี้เอง

เมื่อลงเครื่องอยู่ในสนามบินเตหระราน สตรีชาวอิหร่านคนหนึ่งดูรองเท้าของผู้เขียนแล้วชี้ให้ดูเชือกผูกที่หลุด ขณะเดินทางลงแวะพักที่ปั๊มขาวอิหร่านที่ขับรถยนต์ผ่านมาต่างบีบแตรเรียกและโบกไม้โบกมือทุกทายอย่างตื่นเต้น ขณะข้ามถนนในเมืองก็จอดรถให้พร้อมทักทายถามว่าพวกคุณมาจากไหน ส่วนใหญ่ก็รู้จักแบงคอกและไทยแลนด์บางคนเคยมาเที่ยว

คุณนวนันทน์ เนติธนากล เลขานุการคณะเดินทาง เงอะงะนับเงินเรียลซื้อของที่คนขายไม่พูดภาษาอังกฤษ แม่บ้านชาวอิหร่านที่มาพร้อมกับลูกหลานหยุดดูช่วยพูดและนับเงินส่งและทอนให้ คุณนวนันทน์หอบหิ้วของพะรุงพะรุง แม่บ้านชาวอิหร่านช่วยจัดผ้าคลุมผมที่ทำท่าจะหลุดให้ด้วยท่าทีมีเมตตา ขณะเดินในสวนสาธารณะผ่านครอบครัวชาวอิหร่านกำลังตั้งวงกินอาหาร พันโทกมล ประจวบเหมาะ ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมมาธิการถึงกับอึ้งเพราะถูกชวนให้กินด้วย

ขณะเยี่ยมชมแหล่งมรดกโลกเปอร์ซีโปลิส คณะนักเรียนอิหร่านที่มาทัศนะศึกษายื่นน้ำดื่มให้ชาวคณะ ขณะคณะเยี่ยมชมจุดพักคาราวานในอดีต ปัจจุบันเป็นตลาดขายของที่ระลึกชาวตลาดมาทักทายด้วยความตื่นเต้น หาน้ำท่าให้ดื่ม รองศาสตราจารย์พรพันธุ์ บุณยรัตพันธุ์ รองประธานกรรมาธิการเจอเด็กผู้หญิงที่มากับแม่ทักทายพร้อมชวนให้ไปถึงบ้านแบบยินดีต้อนรับอย่างยิ่ง เลยแลกที่อยู่กันกับยายหนูที่อยากมาเรียนกรุงเทพฯ ฯลฯ

สรุปว่าคนอิหร่านนั้นทำตัวเป็นทูตทั้งประเทศ ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวชนิดที่บางครั้งฝ่ายแขกต้องขอปลีกตัวเอง

ถ้านักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากๆ แล้วชาวอิหร่านยังรักษาเอกลักษณ์นี้อยู่ได้ รับรองติดกลุ่มชาติที่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลกอย่างแน่นอน

.....................
(บทความชิ้นนี้ผู้เขียนติดตามคณะของกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ที่คุณพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธานไปดูงานประเทศอิหร่านระหว่างวันที่ 20-26 มิถุนายน 2556)