‘Arincare’ แพลตฟอร์มร้านขายยา เติบโต 20% เล็งขยายอีก 9,000 ร้าน

Keypoint:

• ‘Arincare’ อรินแคร์ แพลตฟอร์มธุรกิจร้านขายยา ช่วยดูแลสุขภาพของคนไทยนอกโรงพยาบาล  พัฒนาซอฟต์แวร์ให้เภสัชกรได้ใช้ เพิ่มโอกาสคนไทย ผู้ป่วยได้เข้าถึงยาที่มีคุณภาพมากขึ้น
• ปี 2567 Arincare ตั้งเป้าจะขยายร้านขายยาเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ราย และขยายผู้ใช้บริการ 50,000 รายในแอปพลิเคชั่น
• ข้อจำกัดของร้านขายยา คือ ความเคยชิน และเจ้าของร้านขายยาส่วนใหญ่เป็นเภสัชกร มีความเชี่ยวชาญดูแลคนไข้ แต่อาจจะตามเทรนด์ หรือมีองค์ความรู้ทางด้านธุรกิจ การตลาดไม่ดีพอ

ขณะที่กำลังซื้อมีแนวโน้มขยับดีขึ้นตามทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และผู้ป่วยทยอยกลับมารับการรักษาในสถานพยาบาล ส่วนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวก็ทำให้ความต้องการบริโภคยาเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว

ข้อมูลจาก กรุงศรีวิจัย ระบุว่าปี 2566-2568 คาดว่ามูลค่าจำหน่ายยาจะเติบโตต่อเนื่อง จากแนวโน้มการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง การเข้าถึงระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า จำนวนผู้ป่วยต่างชาติที่มีแนวโน้มกลับมาใช้บริการมากขึ้น และกระแสการใส่ใจสุขภาพและความต้องการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันซึ่งสอดคล้องกันทั่วโลก ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น จึงอาจเป็นข้อจำกัดในการทำกำไรของผู้ประกอบการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ARINCARE (อรินแคร์) เปิดตัวระบบใบสั่งยาอิเล็กทรอนิกส์

 Arincare ผนึก กลุ่มรพ.จุฬารัตน์ และ PTG ต่อยอดระบบนิเวศ Health Tech

 

โตเกือบ 20%เทคโนโลยีร้านยาสู่ผู้ป่วย

 'นายธีระ กนกกาญจนรัตน์' ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรินแคร์ จำกัด ธุรกิจแพลตฟอร์มร้านขายยา สตาร์ทอัพ Health Tech สัญชาติไทย กล่าวว่า Arincare เป็นธุรกิจแพลตฟอร์มร้านขายยาที่ให้บริการจัดการร้านขายยา โดยมีเป้าหมายหลักในการช่วยดูแลสุขภาพของคนไทยนอกโรงพยาบาล ซึ่งทางบริษัทได้พัฒนาซอฟต์แวร์ให้เภสัชกรได้ใช้ เพื่อไปสู่การเพิ่มโอกาสคนไทย ผู้ป่วยได้เข้าถึงยาที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

“ปัจจุบันมีร้านขายยาอยู่ในแพลตฟอร์มร้านขายยาของ Arincare 4,000 กว่าราย หรือ เกือบ 20% จากร้านขายยาประมาณ 18,000 ราย และในปี 3 ปีที่ผ่านมา ทาง Arincare ได้ขยายธุรกิจ พัฒนาร้านขายยาในชุมชน เพิ่มการบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของร้านขายยา และผู้ใช้บริการมากขึ้น โดยมีการทำ Telemedicine และได้ร่วมมือกับ Zoom ในการจัดทำบริการ MedCare Telehealth Powered by Zoom ที่พัฒนาขึ้นกับ Zoom Telemedicine solution โรงพยาบาลและคลินิก ด้วยเทคโนโลยี Video Conference Platform ของ Zoom เป็นรายแรก เพื่อเชื่อมการสื่อสารระหว่างแพทย์ เภสัชกร จากโรงพยาบาล คลินิก และร้านยาแก่ผู้ป่วยได้สะดวกมากขึ้น” นายธีระ กล่าว

 

ตั้งเป้าเพิ่มร้านขายยา 9,000 ราย

นายธีระ กล่าวต่อว่าภาพรวมของตลาดร้านขายยาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการเติบโตประมาณ 11% ซึ่งหลังจากในปีนี้อัตราการเติบโตอาจจะคงที่ ไม่มีจำนวนร้านขายยาเพิ่มขึ้น แต่จะมีมาตรฐานมากขึ้น เนื่องจาก 3-4 ปีที่ผ่านมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) หรือสภาเภสัชกรรม ให้ความสำคัญและมีความเข้มงวดเรื่องของการตรวจสอบมาตรฐานและคุณภาพมากขึ้น ส่งผลให้มีร้านยาจำนวนหนึ่งต้องปิดตัวลง

“ร้านขายยาต้องปรับตัวมากขึ้น โดยเฉพาะร้านขายยาชุมชน เพราะขณะนี้มีกลุ่มร้านขายยาขนาดใหญ่ โรงพยาบาล นักธุรกิจหันมาเปิดร้านขายยา หรือเกิดการควบรวมมากขึ้น การแข่งขันจะสูงขึ้น ร้านขายยาชุมชนต้องยกระดับการบริการ ดูแลผู้มาใช้บริการ โดยเจ้าของร้านขายยา ส่วนใหญ่เป็นเภสัชกรที่ต้องพัฒนาหลักการตลาดออนไลน์ และศึกษาเทรนด์ กระแสต่างๆ รวมถึงต้องมีเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการร้านขายยาให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ดีขึ้น” นายธีระ กล่าว

ปี 2567 Arincare ตั้งเป้าจะขยายร้านขายยาเพิ่มขึ้นเป็น 9,000 ราย และขยายผู้ใช้บริการ 50,000 รายในแอปพลิเคชั่น ดังนั้น จะมีการพัฒนาเทคโนโลยี ทั้งในส่วนของระบบคลาวด์ ที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว และเพิ่ม Telemedicine / Telepharmacy พัฒนากลุ่มสิทธิบัตรต่างๆ เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายแก่ผู้ใช้บริการ และลดต้นทุนให้แก่ร้านขายยา รวมถึงจะมีการอบรมเพิ่มทักษะด้านการตลาด เทรนด์ยาใหม่ๆ ให้แก่ร้านขายยามากขึ้น

ยากลุ่มโรคNCDs - Self Care นิยมสูง

'Arincare' เป็นแพลตฟอร์มร้านขายยาที่ให้บริการยาทุกกลุ่ม ทุกโรค รวมถึงเวชภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมากลุ่มยาที่ได้รับความสนใจจำนวนมากจากร้านขายยา เนื่องจากมีผู้บริโภค ผู้ป่วยมากขึ้น ได้แก่ กลุ่มยาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อย่าง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมัน และกลุ่มยาหรือเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ Self Care การดูแลสุขภาพกายใจ เช่น การลดน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ เป็นต้น

นายธีระ กล่าวต่อไปว่าร้านขายยาที่จะมาใช้บริการแพลตฟอร์ม Arincare ได้นั้น ต้องผ่านการรับรองจากอย. มีใบอนุญาต รวมถึงบริษัทยาต่างๆ เพราะร้านขายยาต้องมีคุณภาพ มาตรฐาน ขณะเดียวกันในส่วนของแพลตฟอร์ม Arincare ก็ต้องได้มาตรฐาน ISO เนื่องจาก Arincare มีการทำงานกับบริษัทยาข้ามชาติร่วมด้วย

อีกทั้งมีการทำงานร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และพาสเนอร์ เครือข่าย องค์กรทั้งในและต่างประเทศ ฉะนั้น การพัฒนาซอฟต์แวร์ในการทำให้แพลตฟอร์มตอบโจทย์ทั้งร้านขายยา และผู้บริโภค ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและการรักษาโรคต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

ร้านขายยาปรับตัว ดึงเทคโนโลยีใหม่ช่วย

ปัจจุบัน ข้อจำกัดของร้านขายยา มาจาก 2 ประเด็นหลักๆ คือ 1. ความเคยชิน หลายร้านเปิดมา 10-20 ปี เวลามีเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามาช่วย หรือเวลาจะเปลี่ยนอะไรอาจจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตของผู้คนและเทคโนโลยี และ 2. เจ้าของร้านขายยาส่วนใหญ่จะเป็นเภสัชกร ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการดูแลคนไข้ แต่อาจจะตามเทรนด์ หรือมีองค์ความรู้ทางด้านธุรกิจ การตลาดไม่ดีพอ

นายธีระ กล่าวว่า อรินแคร์ ไม่ใช่แพลตฟอร์มที่มุ่งจะให้บริการจัดการร้านขายยาและเพิ่มยอดร้านขายยา แต่ทุกๆ เดือน จะมีการอบรม จัดสัมมนาเชิงธุรกิจ และเทรนนิ่งทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ให้แก่ร้านขายยา และผู้มาใช้บริการแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และการใช้ชีวิตของผู้คนที่พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ร้านขายยาต้องปรับตัวให้ทัน

“เป้าหมายหลักๆ ของ Arincare คือ การทำให้เรื่องสุขภาพเข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของคนไทย เพราะต้องยอมรับว่าคนไทยพึ่งพาภาครัฐด้านสาธารณสุขจำนวนมาก หากทำให้ร้านขายยามีคุณภาพ มาตรฐาน มีแพลตฟอร์มที่ช่วยให้ร้านขายยาเข้าถึงผู้คนได้ง่ายขึ้น จะเป็นการลดช่องว่าง ทำให้ผู้คนมีร้านขายยาที่ดี มีเภสัชกรที่ให้คำปรึกษาในการดูแลสุขภาพ ผู้คนก็จะมีสุขภาพที่ดีขึ้น”นายธีระ กล่าว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะทำให้ร้านขายยาอยู่รอด และมีความพร้อมในการแข่งขันได้นั้น ร้ายขายยาต้องมีการบริหารจัดการภายในที่ดี ทั้งระบบการทำงาน การดูแลสินค้า ผลิตภัณฑ์ยาต่างๆ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด ซึ่งร้านขายยา ถือเป็นกลุ่มค้าปลีกที่ต้องมีการดูแลผู้บริโภค ติดตามว่าคนไข้จะเข้าถึงการสื่อสารช่องทางไหน เขามีการหาข้อมูลหรือสั่งซื้อยาอย่างไรได้บ้าน ต้องตามเทรนด์ตามกระแสที่ขึ้นให้ทัน