Arincare ผนึก กลุ่มรพ.จุฬารัตน์ และ PTG ต่อยอดระบบนิเวศ Health Tech

Arincare ผนึก กลุ่มรพ.จุฬารัตน์ และ PTG ต่อยอดระบบนิเวศ Health Tech

อรินแคร์ (Arincare) ทุ่ม 135 ล้านบาท ปิดดีล Series B ผนึกกลุ่ม รพ.จุฬารัตน์ และ PTG ต่อยอดระบบนิเวศ Health Tech เตรียมเดินหน้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ ปักหมุดเดินเครื่องตั้งเป้า IPO ปี 69

อรินแคร์ (ARINCARE) สตาร์ตอัปผู้ให้บริการแพลตฟอร์มร้านขายยาออนไลน์สำหรับเภสัชกรและร้านขายยา ประกาศปิดดีล Series B มูลค่า 4,000,000 ดอลลาร์ (ราว 135 ล้านบาท) เพื่อต่อยอดระบบนิเวศ Health Tech ไทย

จับมือกับพันธมิตรอย่าง กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) และ บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) หวังเชื่อมต่อบริการดูแลสุขภาพผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในเป็นหนึ่งเดียว และเพิ่มโอกาสเพิ่มโอกาสเข้าถึงยาและบริการดูแลสุขภาพ 

ธีระ กนกกาญจนรัตน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อรินแคร์ จำกัด กล่าวว่า การร่วมระดมทุนปิดดีล Series B ได้ร่วมมือจาก 2 พาร์ทเนอร์ใหญ่ คือ กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) เป็นผู้ร่วมลงทุนหลัก และเงินทุนสนับสนุนจาก PTG เพิ่มแรงขับเคลื่อนสู่การเดินหน้ายกระดับและต่อยอดระบบนิเวศ Health Tech ไทยตามแผนงานที่ตั้งไว้ 

Arincare ผนึก กลุ่มรพ.จุฬารัตน์ และ PTG ต่อยอดระบบนิเวศ Health Tech

จากสถานการณ์โรคระบาด รวมไปถึงสังคมปัจจุบันเปลี่ยนยุคเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญเรื่องการดูแลสุขภาพตนเองและครอบครัวเพิ่มมากขึ้น บวกกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยุคดิจิทัล

ทางอรินแคร์จึงพัฒนาบริการแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์และเกิดประโยชน์สำหรับร้านขายยาและเภสัชกร รวมถึงผู้บริโภคอย่างมากที่สุด ซึ่งปี 2565 ที่ผ่านมา อรินแคร์มีการเติบโตมากกว่า 100% โดยได้ให้บริการใน 3 ประเภทคือ  

  1. MedEx Medicine Expres เป็นบริษัทยาและเวชภัณฑ์ โรงงานผู้ผลิต และผู้ค้าส่งชั้นนํา
  2. ARINCARE Pharmacy Management Platform เป็นผู้พัฒนาระบบจัดการยาให้กับเภสัชกร ร้านขายยาชุมชน คลินิคชุมชน
  3. Medcare คนไข้สามารถตรวจสอบได้ว่าได้รับยาอย่างถูกต้องและปลอดภัย 

ทั้งนี้ กลยุทธ์ปี 2566 จะมุ่งสร้าง Healthcare ecosystem ที่สมบูรณ์ ระหว่างโรงพยาบาลและหน่วยบริการสุขภาพท้องถิ่น เชื่อมโยงไปถึงเภสัชกรในร้านยาชุมชนบนเครือข่ายอรินแคร์ มากกว่า 3,000 ราย

มีทีมแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬารัตน์ หรือ CHG คอยดูแลสุขภาพคนในชุมชนได้อย่างครอบคลุมทั่วประเทศ เช่น ความรู้เรื่องการจ่ายยา อาการแพ้ยาต่าง ๆ และยังร่วมกับ PTG ให้บริการด้านสุขภาพให้กับคนไทยผ่าน MaxCard 

“ปัจจุบันไทยมีร้านขายยา 20,000 ร้านทั่วประเทศ โดย 80% เป็น SME และมีเพียง 20% เป็นของแฟรนไชส์หรือผู้ประกอบการรายใหญ่ ในปี 2562 มีมูลค่า 35,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 7% แต่มูลค่าตลาดที่เกี่ยวกับเทรนด์สุขภาพเติบโตอย่างมากหลังการระบาดของโควิด-19 และเชื่อว่าจะยังเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 13-17% ในปี 2565 มีมูลค่าราว 40,000 ล้านบาท” ธีระ กล่าว

Arincare ผนึก กลุ่มรพ.จุฬารัตน์ และ PTG ต่อยอดระบบนิเวศ Health Tech

การร่วมกำลังครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวของการสร้างระบบนิเวศสาธารณสุขไทย เพราะนอกจากการปิดดีลด้านธุรกิจแล้ว ทุกฝ่ายยังมีเป้าหมายและความตั้งใจในทิศทางเดียวกัน คือ ให้ทุกคนในพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายในราคาที่สมเหตุสมผลมาอย่างต่อเนื่อง

และยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงระบบสาธารณสุข การดูแลรักษาสุขภาพ รวมถึงอุปกรณ์การแพทย์ และทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงยารักษาในราคาที่ยุติธรรม 

นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้ประกอบการเจ้าของร้านยา ทั้งร้านขายยาขนาดกลาง ถึงขนาดเล็ก ที่เป็น SME รวมทั้งเภสัชกร ได้มีเครื่องมือที่ช่วยบริหารธุรกิจและบริการผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และเชื่อมโยงการทำงานด้านการดูแลผู้ป่วยระหว่างแพทย์ และเภสัชกร ให้สอดรับกับเทรนด์ใหม่ในการมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน และพร้อมรับมือกับการแข่งขันทางธุรกิจ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว 

นพ.กำพล พลัสสินทร์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญในตอนนี้คือ การลดความแออัดของผู้ป่วยที่มาใช้งานโรงพยาบาล ทำให้เกิดการดูแลทางไกล รับยาทางไกลในกลุ่ม 16 โรค (ไอ จาม ปวดหัว ฯลฯ) ที่ผู้ป่วยสามารถเชื่อมั่นได้ว่าเป็นการรักษาที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับการเดินทางไปโรงพยาบาล

ดังนั้น การเกิดระบบนิเวศของอรินแคร์จึงเป็นประโยชน์กับระบบสาธารณะสุขไทย นำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยประมวลผลการวินิจฉัยให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อช่วยให้การดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลให้สามารถเข้าถึงการรักษาและรับยาได้สะดวกขึ้น

ลดปัญหาการใช้ใบสั่งยาที่คลาดเคลื่อน ใบสั่งยาปลอม การแอบนำไปใช้ซ้ำ รวมถึงสามารถติดตามตรวจสอบผลการดูแลรักษาผู้ป่วย ดูประวัติใบสั่งยา ข้อมูลยาที่ผู้ป่วยได้รับใช้งานง่ายและไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม

พิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (PTG) เผยว่า การร่วมลงทุนกับอรินแคร์ นับเป็นการเข้าลงทุนเชิงกลยุทธ์ในธุรกิจสตาร์ตอัปที่มีศักยภาพสูง โดยผ่าน MAX Ventures ผูกพันธมิตรทางธุรกิจ สร้างโอกาสเป็น New S-Curve 

ซึ่งจากภาพรวมตลาดในไทยหลายปีที่ผ่าน พบหนึ่งเทรนด์ธุรกิจที่มาแรงและเติบโตแบบก้าวกระโดด คือ Healthcare ปัจจุบันขึ้นแท่นอุตสาหกรรมอนาคตที่มีโอกาสสร้าง New S-curve ให้กับผู้ลงทุน

โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์การแพทย์ เวชภัณฑ์ และยา ขณะเดียวกันพบพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่เน้นให้ความสำคัญด้านสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดเทรนด์ใหม่ในการมีสุขภาพดีที่ยั่งยืนในยุคดิจิทัล 

ทำให้ PTG มองเห็นโอกาสแตกไลน์ต่อยอดธุรกิจและบริการ เสริมศักยภาพให้สถานี PT ทั่วประเทศ ที่จากเดิมมุ่งมั่นเป็นมากกว่าสถานีให้บริการน้ำมัน แต่คาดหวังเป็นสถานีบริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการรอบด้าน

ทั้งร้านค้า และร้านขายยาโดย NEXX Pharma ที่บริการทั้งจำหน่ายยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์การแพทย์ โดยเภสัชกรผู้มีประสบการณ์ วางแผนให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดี การร่วมกำลังครั้งนี้ นับเป็นการตอกย้ำการดำเนินงานของอรินแคร์ ภายใต้แนวคิด ‘Make Healthcare Affordable’ หรือ ทำให้บริการดูแลสุขภาพมีราคาที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน ให้เภสัชกรและร้านขายยาในชุมชนที่เป็นด่านหน้าสามารถดูแลผู้ป่วยได้รวดเร็วในราคาที่ประหยัด