'กุนซือสมศักดิ์'บางรายเห็นแย้งมติแพทยสภา ปมลงโทษแพทย์รักษาทักษิณ

เมื่อวันที่  26 พ.ค.2568  นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข   กล่าวภายหลังการประชุมครั้งที่ 2 ของคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 กรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ที่รักษานายทักษิณ ชินวัตร ที่รักษาตัว ชั้น 14 ใน รพ.ตำรวจว่า คณะกรรมการฯได้รับมอบหมายให้พิจารณาเอกสารเกี่ยวกับกรณีที่แพทยสภามีความเห็นลงโทษแพทย์ ก่อนนำเสนอต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษในวันที่ 27 พ.ค.นี้ ส่วนท่านจะวินิจฉัยเห็นด้วยกับมติแพทยสภาหรือวีโต้เป็นการพิจารณาของสภานายกพิเศษ

การพิจารณาของคณะกรรมการชุดนี้อาศัยเนื้อหาข้อเท็จจริงประกอบกับข้อกฎหมาย ซึ่งส่งผลให้มีความเห็นแตกต่างกันไปในแต่ละท่าน บางความเห็นมีความคล้ายคลึงกับมติของแพทยสภา ขณะที่บางความเห็นก็แตกต่างออกไป ซึ่งในประเด็นข้อกฎหมาย หากกฎหมายบังคับไว้ชัดเจนก็ไม่สามารถขัดแย้งได้ แต่ในประเด็นข้อเท็จจริงหรือการตีความข้อกฎหมายบางอย่างก็อาจมีความเห็นต่างกันได้ ซึ่งส่งผลใหเความเห็นของคณะกรรมการในวันนี้จึงมีทั้งส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับมติของแพทยสภา

นายกองตรี ธนกฤต ย้ำว่า บทบาทของคณะกรรมการชุดนี้ คือ การให้ความเห็นและชี้ให้เห็นสิ่งที่ได้พบเจอในการพิจารณาเอกสารของมติแพทยสภา ไม่ใช่การลงมติหรือชี้ขาดว่าควรลงโทษหรือไม่ อย่างไร ความเห็นที่คณะกรรมการจะนำส่งต่อสภานายกพิเศษ จะเป็นความเห็นรายบุคคลของกรรมการแต่ละท่าน และจะกล่าวถึงผู้ถูกกล่าวหาเป็นรายบุคคลด้วย เมื่อส่งมอบเอกสารความเห็นให้สภานายกพิเศษแล้ว  คณะกรรมการชุดนี้ก็จะถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจ

“อำนาจการตัดสินใจว่าจะเห็นด้วยหรือวีโต้มติแพทยสภาอยู่ที่สภานายกพิเศษ แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งสภานายกพิเศษมีอำนาจในการตัดสินใจโดยไม่จำเป็นต้องใช้ความเห็นทั้งหมดของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นนี้ก็ได้ และสามารถพิจารณาความเห็นจากแหล่งอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมประกอบการวินิจฉัยได้”นายกองตรี ธนกฤตกล่าว 

เมื่อถามว่าเอกสารที่แพทยสภาไม่ได้ให้เป็นเหตุผลสำคัญที่จะส่งผลต่อความเห็นของคณะกรรมการชุดนี้หรือไม่ นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า เปรียบเสมือนว่ามี 10 ขั้นตอน เมื่อข้าวโพดหายไปเม็ดหนึ่ง ทั้งที่ควรมีให้ครบจึงขอไป รวมถึง รายชื่อของอนุกรรมการกลั่นกรองก่อนที่จะเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภาชุดใหญ่ด้วย อย่างไรก็ตาม จากที่ดูแพทยสภา ทำครบ 7 ขั้นตอนในการพิจารณาเรื่องจริยธรรมแพทย์ เพียงแต่เห็นว่ามีเอกสารบางส่วนหายไป

“เมื่อแพทยสภาบอกว่าให้มาครบแล้ว เมื่อท่านยืนยันก็ไม่เป็นไร เราไปโต้แย้งไม่ได้ แต่วันนี้เรายังคุยกันประเด็นนี้ และดูข้อกฎหมาย ซึ่งมีประเด็นนี้อยู่ว่าเมื่อแพทยสภาตั้งกรรมการก็ควรมีรายงานแล้วส่วนนี้เป็นเอกสารสำคัญในการลงมติด้วย”นายกองตรี ธนกฤตกล่าว

ถามว่าคณะกรรมการชุดนี้ พิจารณาจากข้อมูลชุดเดียวกับแพทยสภา แต่ได้ความเห็นที่แตกต่างกัน แปลว่ามองว่าการลงโทษของแพทยสภาไม่เหมาะสมหรือไม่  นายกองตรี ธนกฤต กล่าวว่า  บางเรื่องก็อาจจะให้ความเห็นต้องโดนเฆี่ยนแรงๆก็ได้ แต่บางเรื่องแค่ดีดมะกอกยังไม่ได้เลย สุดท้ายอยู่ที่นายสมศักดิ์ เพราะกฎหมายไม่ได้อนุญาตให้กรรมการชุดนี้ไปโหวตไม่ได้ มีอำนาจเพียงเสนอความเห็นแล้วส่งให้นายสมศักดิ์ ไปวินิจฉัย