ปปง.พบหลักฐานชัด จงใจเบี้ยวค่าหุ้น MORE สั่งอายัด 5.3 พันล. โยงใยอื้อ

ปปง.พบหลักฐานชัด จงใจเบี้ยวค่าหุ้น MORE สั่งอายัด 5.3 พันล. โยงใยอื้อ

ปปง. สั่งอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวพันหุ้น MORE รวม 34 รายการ มูลค่ากว่า 5.3 พันล้านบาท จากผู้เกี่ยวข้องรวม 25 ราย พบหลักฐานคำสั่งขายบางรายการใช้ IP Address เดียวกับเครื่องที่ “อภิมุข” ส่งคำสั่งซื้อหุ้น เผยหลักฐานชัดตั้งใจเบี้ยวจ่ายค่าหุ้น ด้าน ตลท. ปลด SP หุ้น MORE ราคาดิ่งฟลอร์ต่อเนื่องวันที่สาม

หลังจากสร้างความปั่นป่วนไปทั่วทั้งวงการตลาดทุน สำหรับกรณีหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ที่พบวอลุ่มปริศนากว่า 1,500 ล้านหุ้น ในช่วงเปิดตลาด(ATO) ที่ราคาหุ้นละ 2.90 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 4,400 ล้านบาท ต่อมาทราบว่า ผู้ส่งคำสั่งซื้อหุ้นดังกล่าว มีเพียงคนเดียว คือ นายอภิมุข บำรุงวงศ์ โดยเป็นการส่งคำสั่งซื้อหุ้นผ่านบริษัทหลักทรัพย์(โบรกเกอร์)​ ราว 11 แห่ง

ซึ่งในเวลาต่อมา นายอภิมุข ไม่สามารถชำระค่าซื้อหุ้นได้ ส่งผลให้ภาระการจ่ายเงินทั้งหมดตกอยู่กับโบรกเกอร์ที่เป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อหุ้นของ นายอภิมุข ขณะที่ฝั่งผู้ขายพบว่า มีผู้เกี่ยวข้องราว 24 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้ถูก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) อายัดทรัพย์สินไว้ทั้งหมดรวม 34 รายการ มูลค่าราว 5,376 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนของ ปปง. ซึ่งได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางลงวันที่ 20 พ.ย.2565 เรื่อง รายงานเหตุอันควรเชื่อว่ามีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ซึ่งเข้าข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน จึงได้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว

โดย โบรกเกอร์ที่ได้รับความเสียหาย ได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับ นายอภิมุข และบุคคลที่เกี่ยวข้อง กรณีถูก นายอภิมุข หลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือ ปกปิดความจริง หลอกลวงให้หลงเชื่อว่า นายอภิมุข จะชำระค่าซื้อหุ้น MORE และ MORE-R ซึ่งต่อมาโบรกเกอร์ได้อนุมัติให้มีการปล่อยสินเชื่อกับ นายอภิมุข และบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ปปง.พบหลักฐานชัด จงใจเบี้ยวค่าหุ้น MORE สั่งอายัด 5.3 พันล. โยงใยอื้อ

พบคำสั่งขายมาจาก IP Address เดียวกับผู้ซื้อ

กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากในวันเกิดเหตุ นายอภิมุข ได้มีการตั้งคำสั่งซื้อหุ้น MORE และ MORE-R จำนวนมาก และเป็นการตั้งคำสั่งล่วงหน้าก่อนตลาดหลักทรัพย์เปิดทำการเข้ามายังระบบ Automatic Order Matching (AOM) ไปยังบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นนายหน้าของ นายอภิมุข จำนวนหลายแห่ง ในราคาที่สูงกว่าราคาปิดตลาดของวันก่อนหน้า ทำให้มีมูลค่าการซื้อหุ้นด้วยวิธีการดังกล่าว แต่เมื่อครบกำหนดชำระค่าหลักทรัพย์ นายอภิมุข กลับไม่ได้ชำระค่าหุ้นดังกล่าว

นอกจากนี้ การซื้อขายหุ้นในลักษณะดังกล่าว อาจทำให้ประชาชนและนักลงทุนทั่วไปเข้าใจผิดว่าหุ้น MORE เป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงในการลงทุน โดยจากการสืบสวนของกองกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พบว่า นายอภิมุข และผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 24 ราย มีการตั้งคำสั่งซื้อขายในลักษณะที่เหมือนกัน โดยมีเงื่อนไขว่า ให้ซื้อขายในราคาที่มีการเปิดการซื้อขาย(At the Open (ATO) และยังพบว่าคำสั่งซื้อขายของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ นายอภิมุข มีหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ Internet Protocol Address (IP Address) ที่ตรงกับคำสั่งซื้อขายของ นายอภิมุข

หลักฐานโยง 24 รายส่อเกี่ยวข้อง

ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวไม่ได้มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ในลักษณะของการเป็นเครือญาติ แต่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ IP Address กลับอยู่ในสถานที่เดียวกัน ทั้งนี้ โดยมีบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกัน ได้แก่

1.นายเอกภัทร พรประภา มีความเกี่ยวข้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MORE และเป็นเพื่อนกับ นายอภิมุข

2.นายอธิภัทร พรประภา มีความเกี่ยวข้องเป็นพี่ชายของ นายเอกภัทร พรประภา และเป็นเพื่อนกับ นายอภิมุข

3.นาวสาวอรเก้า ไกยสิทธิ์ มีความเกี่ยวข้องเป็นเพื่อนกับ นายอภิมุข และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MORE

4.นายศิริศักดิ์ ปิยทัสสีกุล มีความเกี่ยวข้องเป็นเพื่อนกับ นายอภิมุข และเคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (DNA) ซึ่งเป็นชื่อเดิมของ MORE

5.นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา มีความเกี่ยวข้องโดยเคยเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DNA ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น MORE และเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฮลท์ เอ็มไพร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ HEMP และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ MORE

6.นายเกรียงศักดิ์ วงศ์โอสถพานิช มีควมเกี่ยวข้องเป็นเพื่อนกับ นายเอกภัทร พรประภา และ นายอภิมุข

7.นางสาวจิระวรรณ ไชยพงศ์ผาติ มีความเกี่ยวข้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ MORE ร่วมกับ นายอภิมุข

8.นายปริญญา ปริญญานุสสรณ์ มีความเกี่ยวข้องโดยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ MORE ร่วมกับ นายอภิมุข

9.นายมั่นคง เสถียรถิระกุล มีความเกี่ยวข้องโดยคำสั่งซื้อขายของ นายมั่นคง มี IP Address ที่ตรงกับคำสั่งซื้อขายของ นายอภิมุข และมีการตั้งคำสั่งซื้อขายโดยมีเงื่อนไขว่าให้ซื้อขายในราคา ATO

10.นายประยูร อัสสกาญจน์ มีความเกี่ยวข้องโดยเคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GSC ร่วมกับ นายวสันต์ จาวลา และ นายศิริศักดิ์ ปิยทัสสึกุล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MORE ร่วมกับ นายอภิมุข

11.นายวสันต์ จาวลา มีความเกี่ยวข้องโดยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ MORE ร่วมกับ นายอภิมุข

12.นายอิทธิวรรธน์ วรรณะเอี่ยมพิกุล มีการตั้งคำสั่งซื้อขายโดยมีเงื่อนไขว่าให้ซื้อขายในราคา ATO

13.นางอรพินธุ์ พรประภา มีความเกี่ยวข้องโดยเป็นมารดาของ นายเอกภัทร พรประภา และนายอธิภัทร พรประภา และคำสั่งซื้อขายของ นางอรพินธุ์ มี IP Address ที่ตรงกับคำสั่งซื้อขายของ นายอภิมุข

14. บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด มีการตั้งคำสั่งซื้อขายโดยมีเงื่อนไขว่าให้ซื้่อขายในราคา ATO

15.บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด มีความเกี่ยวข้องกับ บริษัท ตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด

16. นายกัลพล ปริญญานุสสรณ์ มีความเกี่ยวข้องโดยเป็นพี่น้องกับ นายปริญญา ปริญญานุสสรณ์ และมีการตั้งคำสั่งซื้อขายโดยมีเงื่อนไขว่าให้ซื้อขายในราคา ATO

17.นายชิติพัทธ์ กล่อมจิตเจริญ มีการตั้งคำสั่งซื้อขยโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อขายในราคา ATO

18.นายสมนึก กยาวัฒนกิจ มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มบริษัท ตงฮั้ว โดยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด และมีการตั้งคำสั่งซื้อขายโดยมีเงื่อนไขว่าให้ซื้อขายในราคา ATO

19.นายอภิชาติ บำรุงวงศ์ มีความเกี่ยวข้องโดยเป็นพี่น้องกับ นายอภิมุข และมีการตั้งคำสั่งซื้อขายโดยมีเงื่อนไขให้ซื้อขายในราคา ATO

20.นายไพศาล เกษมศิรินาวิน มีการตั้งคำสั่งซื้อขายโดยมีเงื่อนไขว่าให้ซื้อขายในราคา ATO

21.นายธรรมนูญ เวชวิทยาขลัง

22.นายพิเชษฐ์ ผลสุวรรณชัย

23.นายภัทร ฉัตรเจริญสุข

24.นายธนยุทธ ฤกษ์รักษา

เผยตั้งใจไม่จ่ายค่าซื้อหุ้นแต่แรก

โดย นายอภิมุข และพวกมีพฤติกรรมในการหลอกลวงโบรกเกอร์อันได้รับความเสียหาย  ซึ่ง นายอภิมุข กับพวกมีความตั้งใจในการที่จะไม่ชำระราคาค่าหุ้นมาตั้งแต่แรก และกลุ่มบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องดังกล่าว เป็นกลุ่มบุคคลที่ได้รู้เห็นและร่วมกันวางแผนการดำเนินการมาตั้งแต่แรก โดยวางแผนร่วมกระทำการซื้อขายหุ้น MORE และจะได้รับเงินจากการขายหุ้น MORE โดยมีเจตนาเปิดบัญซื้อขายหลักทรัพย์กับโบรกเกอร์จำนวนหลายแห่ง เพื่อให้ได้วงเงินในการซื้อหุ้น MORE โดยไม่มีความสามารถในการชำระหนี้

นอกจากนี้ยังมีเจตนาหลีกเลี่ยงการทำรายการซื้อขายที่ต้องขออนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์ โดยการทำการซื้อขายดังกล่าว ทำได้ในลักษณะ Big Lot คือ ปริมาณซื้อขายตั้งแต่ 1 ล้านหุ้น หรือมูลค่าซื้อขาย ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป และกรณีขนาดของรายการเกิน 25% ของทุนจดทะเบียน หรือทำให้ผู้ซื้อถือครองหลักทรัพย์ถึง 25% 50% และ 75% ต้องรายงานให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบทันทีที่ทำรายการเสร็จ 

ขณะเดียวกันยังพบว่ามีเจตนาปกปิดข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถือหุ้นของตนเอง จากการกระทำดังกล่าว กล่าวคือ ผู้ซื้อหรือผู้ขายเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถ้าซื้อขาย NVDR จะทำให้เสียสิทธิในการโหวตในฐานะผู้ถือหุ้น รวมถึงเสียสิทธิประโยชน์อื่น เช่น การรับเงินปันผล หากมีการปิดสมุดทะเบียน และจะไม่ปรากฏชื่อในการปิดสมุดทะเบียน ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องไม่เห็นข้อมูลการถือหุ้นดังกล่าว เป็นการหลีกเลี่ยงการทำ Tender Offer ที่ต้องให้สิทธินักลงทุนทั่วไปขายหุ้นของ MORE ซึ่งเจตนาให้ผู้ลงทุนสูญเสียประโยชน์และมีความเสียหาย อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายอภิมุข กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว

อนึ่ง พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ได้รับคำร้องทุกข์ไว้เป็นคดีอาญาที่ 29-38/2565 ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับ การทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้ว ปรากฎหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า นายอภิมุข กับพวกมีพฤติการณ์แห่งการกระทำอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (18) แห่งพระราชบัญญัติ

ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน

หลักฐานพบกลุ่มอภิมุขได้ทรัพย์สิน34รายการ

นอกจากนี้ จากการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า นายอภิมุข กับพวกได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 34 รายการ และเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ เป็นสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE และ MORE-R อันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่าย 

หากมิได้มีการออกคำสั่งให้อายัตทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายอภิมุข กับพวกได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว

ทางเลขาธิการ ปปง. จึงมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราวจำนวน 34 รายการ รวมมูลค่า 5,376 ล้านบาท พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.2565

สำหรับบัญชีทรัพย์สินที่อายัดทั้ง 34 รายการ มีบุคคลดังต่อไปนี้

1.นายอภิมุข บำรุงวงศ์ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายอภิมุข ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) (AIRA) มูลค่า 405,644,346 ณ วันที่ 20 พ.ย.65

2.นายชิติพัทธ์ กล่อมจิตเจริญ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายชิติพันทธ์ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) (AIRA) มูลค่า 8,100,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

3.นายวสันต์ จาวลา เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายวสันต์ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล (ASL) มูลค่า 78,000,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

4.นายศิริศักดิ์ ปิยทัสสีกุล เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายศิริศักดิ์ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล (ASL) มูลค่า 369,800,014 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

5.นายสามารถ ฉั่วศิริพัฒนา เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายสามารถ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล (ASL) มูลค่า 195,000,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

6.นายวสันต์ จาวลา เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายวสันต์ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด (ASIA WEALTH) มูลค่า 55,100,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

7.นายประยูร อัสสกาญจน์ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายประยูร ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด (ASIA WEALTH) มูลค่า 145,000,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

8.นายธรรมนูญ เวชวิทยาขลัง เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายธรรมนูญ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด (ASIA WEALTH) มูลค่า 11,600,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

9.นายอภิชาติ บำรุงวงศ์ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายอภิชาติ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (BLS) มูลค่า 15,359,480 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

10.นายอธิภัทร พรประภา เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายอธิภัทร ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (BLS) มูลค่า 676,760,540 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

11.นายชิติพัทธ์ กล่อมจิตเจริญ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายชิติพัทธ์ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (BLS) มูลค่า 9,511,892 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

12.นายไพศาล เกษมศิรินาวิน เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายไพศาล ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (BLS) มูลค่า 6,120,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

13.นายธนยุทธ ฤกษ์รักษา เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายธนยุทธ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (BLS) มูลค่า 2,788,930 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

14.นางสาวจิระวรรณ ไชยพงศ์ผาติ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนางสาวจิระวรรณ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (DAOL) มูลค่า 183,029,978 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

15.นายสมนึก กยาวัฒนกิจ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายสมนึก ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (DBS) มูลค่า 2,900,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

16.บริษัทตงฮั้ว แคปปิตอล จำกัด เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของบริษัทตงฮั้ว ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (DBS) มูลค่า 102,587,100 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

17.นายปริญญา ปริญญานุสสรณ์ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายปริญญา ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (FINANSIA) มูลค่า 156,932,198 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

18.นายกัลพล ปริญญานุสสรณ์ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายกัลพล ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) (FINANSIA) มูลค่า 19,500,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

19.นางสาวอรเก้า ไกยสิทธิ์ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนางสาวอรเก้า ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ อินโน เสท์ เอกซ์ จำกัด (INVX) มูลค่า 432,914,420 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

20.นายเอกภัทร พรประภา เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายเอกภัทร ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ อินโน เสท์ เอกซ์ จำกัด (INVX) มูลค่า 1,808,720,107 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

21.นางอรพินธุ์ พรประภา เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนางอรพินธุ์ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ อินโน เสท์ เอกซ์ จำกัด (INVX) มูลค่า 122,939,700 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

22.นายเกรียงศักดิ์ วงศ์โอสถพานิช เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายเกรียงศักดิ์ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ อินโน เสท์ เอกซ์ จำกัด (INVX) มูลค่า 7,404,000บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

23.นายมั่นคง เสถียรถิระกุล เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายมั่นคง ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (Ksec) มูลค่า 146,279,945 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

24.นายพิเชษฐ์ ผลสุวรรณ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายพิเชษฐ์ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (Ksec) มูลค่า 5,220,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

25.นายเกรียงศักดิ์ วงศ์โอสถพานิช เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายเกรียงศักดิ์ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (Ksec) มูลค่า185,500,250 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

26.นายมั่นคง เสถียรถิระกุล เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายมั่นคง ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KGI) มูลค่า 151, 800 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

27.นายอิทธิวรรธณ์ วรรณะเอี่ยมพิกุล เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายอิทธิวรรธณ์ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) (KINGFORD) มูลค่า 131,940,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

28.นายภัทร ฉัตรเจริญสุข เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายภัทร ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) (KINGFORD) มูลค่า 2,693,196 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

29.บริษัท ตงฮั้ว มีเดีย แล็บ จำกัด เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของบริษัท ตงฮั้ว ฯ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (YUANTA) มูลค่า 27,777,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

30.นายสมนึก กยาวัฒนกิจ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายสมนึก ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด (YUANTA) มูลค่า 14,500,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

31.นายอภิมุข บำรุงวงศ์ เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายอภิมุข ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ จีเอ็ม โอ-แซต คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (Z) มูลค่า 39,000,000 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

32.นายวสันต์ จาวลา เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายวสันต์ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ จีเอ็ม โอ-แซต คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (Z) มูลค่า 26,639,145 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

33.นายธรรมนูญ เวชวิทยาขลัง เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายธรรมนูญ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LHS) มูลค่า 13,200,066 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

34.นายธนยุทธ ฤกษ์รักษา เงินหรือหลักทรัพย์ที่ซื้อต่อเนื่องจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น MORE หรือ MORE –R ในวันที่ 10 พ.ย.65 ของนายธนยุทธ ในบัญชีใดๆ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) (PI) มูลค่า 7,283,856 บาท ณ วันที่ 20 พ.ย.65

ตลท.ปลดSPหุ้นดิ่งฟลอร์อีกรอบ

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)​ ได้ปลดเครื่องหมายพักการซื้อขาย(SP) หุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน)​ หรือ MORE ในวานนี้(21พ.ย.)​ หลังจากได้ขึ้นเครื่องหมายดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย.2565 โดยทันทีที่เปิดการซื้อขายราคาหุ้น MORE ร่วงลงจนติดฟลอร์อีกรอบ และมาปิดตลาดที่ระดับ 0.96 บาท ลดลง 0.41 บาท คิดเป็น 29.93% มูลค่าการซื้อขายรวม 8.5 ล้านบาท 

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า การปลด SP ในครั้งนี้ ตลท. มั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบแน่นอน เนื่องจากได้ประเมินผลกระทบในด้านต่างๆ แล้ว

สำหรับผลกระทบต่อฐานะการเงินของโบรกเกอร์นั้น เบื้องต้นยังไม่สามารถบอกได้ว่าความเสียหายจะเป็นเท่าไร แต่เท่าที่ประเมินกับทางโบรกเกอร์ต่างๆ ตลท. ไม่เห็นความเสียหายที่จะทำให้โบรกเกอร์ไม่สามารถปฎิบัติงานต่อได้ และเท่าที่ ตลท. ได้ทำ Simulation โดยรันที่ราคาฟลอร์ เพื่อดูว่า NCR ของแต่ละโบรกเกอร์รอรับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เท่าที่ดูพบว่าฐานะโบรกเกอร์ยังแข็งแกร่งเพียงพอ