วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ TTB ผลประกอบการ 1Q68: โตต่ำกว่าที่คาดไว้

กำไรสุทธิของ TTB ใน 1Q68 อยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท (-0.3% QoQ และ -4.5% YoY) ต่ำกว่า consensus 4% และ ต่ำกว่าประมาณการของเรา 10% เพราะสินเชื่อหดตัวแรง
และค่าใช้จ่ายสำรองฯ (credit cost) สูงเกินคาดกำไรที่ทรงตัว QoQ สะท้อนถึง NII ที่ลดลงอย่างมากซึ่งหักล้างกันไปกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง ส่วนกำไรที่ลดลง YoY เป็นเพราะ NII ลดลงอย่างมาก ทั้งนี้ กำไรสุทธิใน 1Q68 คิดเป็น 23% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา
สินเชื่อที่หดตัว และมาร์จิ้นลดฉุดให้ NII ลดลง
สินเชื่อหดตัวแรงขึ้น 2% QoQ และ 8% YoY จากการหดตัวอย่างต่อเนื่องของสินเชื่อ H/P และ การหดตัวอย่างหนักของสินเชื่อธุรกิจเนื่องจาก TMB พยายามจะลดการปล่อยกู้ในกลุ่มที่ความเสี่ยงสูง ทั้งนี้ สินเชื่อที่หดตัวแรงบวกกับมาร์จิ้นที่ลดลง 9bps QoQ และ YoY ทำให้ NII ลดลงอย่างมากถึง 4% QoQ และ 8% YoY ในขณะเดียวกัน รายได้ค่าธรรมเนียมยังคงลดลง 5% QoQ และ 4% YoY ซึ่งส่วนใหญ่มาจากค่าธรรมเนียม bancassurance
คุณภาพสินทรัพย์ยังค่อนข้างนิ่ง
NPL ขยับอยู่ในช่วงแคบ ๆ โดย NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% QoQ แต่ลดลง 0.6% YoY ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับที่ผ่านมาหลาย ๆ ไตรมาส ดังนั้น Credit cost จึงทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 1.5% ซึ่งแทบไม่เปลี่ยนแปลง และ สูงกว่าเป้าปี 2568 ของ TTB ที่ 1.25-1.35%
ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568F ลง 4% และ ปรับลดราคาเป้าหมายปี 2568F เหลือ 2.18 บาท (จาก 2.30 บาท)
เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568F/2569F ลงเนื่องจาก 1.) เราปรับลดสมมติฐานอัตราการขยายตัวของสินเชื่อลงเหลือ 0%/3% (จากเดิม 1%/3%) 2.) ปรับลดสมมติฐาน NIM ลงเหลือ 3.01%/2.95%(จากเดิม 3.12%/3.15%) นอกจากนั้น เรายังคงสมมติฐาน credit cost ปี 2568F/2569F เอาไว้เท่าเดิมที่1.30%/1.25% ทั้งนี้ เมื่อใช้ PBV ที่ 0.9x ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายปี 2568F ใหม่ที่ 2.18 บาท (ลดลงจากเดิมที่ 2.3 บาท) โดยเราคงคำแนะนำเป็นซื้อ TTB
Risks
รายได้โตลดลง, NPLs เพิ่มขึ้น และ ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น