วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ สัญญาณที่น่าสนใจจากงบไตรมาส 1/67

กำไรที่ดีกว่าคาดโดยหลักมาจากการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มอาหาร (จากผลประกอบการที่ turnaround), โรงแรม (อานิสงค์จากท่องเที่ยว) และ กลุ่มสื่อสาร (จากการแข่งขันที่ลดลง และ synergy ของการควบรวมกิจการ) ส่วนกลุ่มที่ทำผลประกอบการได้น่าผิดหวัง คือ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ สัญญาณที่น่าสนใจ คือ 1) เราปรับประมาณการกำไรในปีนี้ และ ปีหน้าขึ้น 0.1% บ่งชี้ถึงโมเมนตัมที่ดีขึ้น 2) การปรับประมาณการกำไรของ concensus ที่ปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ไตรมาส ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดกลาง บรรจุภัณฑ์, สื่อสาร, การเงินและอาหาร ขณะที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ภาพรวมทรงตัว (พลังงาน -1.2%, ธนาคาร +1.3%) เรามองสัญญาณดังกล่าว มีโอกาสลุ้นการพลิกลับมาเป็นวัฏจักรการปรับประมาณการกำไรขาขึ้น (upgraded cycle) และจบการปรับประมาณการทางลง (downgraded cycle) 

ปรับเพิ่ม SET Target เป็น 1,585 จุดจากเดิม 1,570 จุด จาก EPS ที่เพิ่มขึ้น 0.1%  อิง forward P/E เฉลี่ย 5 ปีที่ 16 เท่า เรามอง EPS ของ SET มีอัพไซด์ในครึ่งปีหลังจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดหลายอย่างช่วงไตรมาส 4 ทั้งการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และ Digital wallet โดยมองความผันผวนช่วง 2 เดือนนี้เป็นโอกาสสะสม สำหรับกลยุทธ์เรายังมอง 1) หุ้นได้ประโยชน์จากการบริโภคภายในประเทศ และการฟื้นของรายจ่ายภาครัฐ 2) หุ้นได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า โดยเฉพาะอาหาร  โดย Top Pick ของเรามี 8 ตัว ได้แก่ ADVANC, CPALL, SCB, KBANK, BTG, TFG, KCE, HANA, SCGP 

 

หุ้นที่น่าสนใจในการเก็งกำไร 1) กลุ่มที่ผลประกอบการถูกปรับประมาณการขึ้น SCGP, PTTGC, KCE, CPF, BTG 2) ราคาซื้อขายต่ำ NAV หรือ PBV ได้แก่ PTTGC, SAMART, STA, SORKON, TTA, PSL 

ภาพรวมกลยุทธ์ อาจผันผวนจากรายงานการประชุมเฟดเมื่อคืน ขณะที่หุ้นไทยอาจผันผวนจากการติดตามการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี 40 สว.ร้องตรวจสอบคุณสมบัติรมว.กระทบต่อการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่ การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ยังขึ้นน้อยกว่าตลาด (laggards) ช่วงสั้นหุ้นอิงการฟื้นตัวของจีนเช่นบรรจุภัณฑ์ และปิโตรเคมีน่าสนใจ และควรกำหนดจุดตัดขาดทุนรวมถึงเป้าขายทำกำไร 

หุ้นแนะนำ: SCGP*, STA*, BBGI*, SORKON*

แนวรับ: 1,359-1,365 / แนวต้าน : 1,380 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ    

ยูโรอ่อนค่าเทียบดอลลาร์และปอนด์ - หลัง ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า หากข้อมูลบ่งชี้เงินเฟ้อชะลอตัว (อินโฟเควสท์)

ดอลล์แข็งค่า หลังรายงานประชุมเฟดส่งสัญญาณตรึงดบ.สูง - หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่ากรรมการเฟดมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อซึ่งทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน (อินโฟเควสท์)  

"เยลเลน" ยืนยันสหรัฐขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนครั้งใหม่ไม่กระทบราคาสินค้า – นางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐ ฯ เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลสหรัฐประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ารอบใหม่จากจีนนั้น จะช่วยปกป้องธุรกิจและแรงงานของสหรัฐฯ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า (อินโฟเควสท์)

 

 

 

"เผ่าภูมิ" มอบนโยบาย สคร. ลุยแก้รัฐวิสาหกิจขาดทุน-ปรับพอร์ตหุ้น-เร่งรัดลงทุน PPP - รมช.การคลัง ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) โดยให้ทบทวนบทบาทรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุน ปรับเกณฑ์ประเมินรัฐวิสาหกิจเพื่อคำนวณโบนัส ทบทวนหลักทรัพย์ของรัฐที่กระทรวงการคลังถือครอง เร่งรัด ผลักดันโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) และเน้นกระจายไปยังภูมิภาค (อินโฟเควสท์)

จับตาคลังเสนอครม.เก็บ VAT สินค้านำเข้าราคาถูก - กระทรวงการคลัง เสนอครม.ออกประกาศกฎกระทรวงในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กับสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท (Low-Value Goods) ซึ่งจะส่งผลให้มีการเรียกเก็บ VAT กับสินค้าที่สั่งซื้อทางแพลตฟอร์มออนไลน์จากต่างประเทศได้ตั้งแต่ 1 บาทแรก (อินโฟเควสท์)

SABUY - บริษัท สบายชัวร์ มาร์เก็ต จำกัด ในกลุ่มบมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) แจ้งปิดกิจการ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป (อินโฟเควสท์)

ประเด็นติดตาม:   24 พ.ค. JP Inflation Rate (Apr)/ 31 พ.ค. CN NBS Manifacturing PMI (May) 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)