วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก BOND YIELD ลงต่อ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก BOND YIELD ลงต่อ

วันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway up ปรับตัวขึ้นสูงสุดราว +20 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ ขานรับคาดการณ์ว่า เฟด ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่มีแรงขายในช่วงบ่าย ทำให้ดัชนีลดช่วงบวกลง

โดยมีแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน ไอซีที และกลุ่มอาหาร เป็นต้น  นักลงทุนติดตามนายกฯ นัดประชุมความคืบหน้านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,419.76 จุด +15.77 จุด +1.12% มูลค่าการซื้อขาย 45,779 ลบ.ต่างชาติ -574.82 ลบ. TFEX +16,780 สัญญา ตราสารหนี้ +478.15 ลบ.

ปัจจัยบวก  

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 222.24 จุด หรือ +0.66% เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรงหลังการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าการจ้างงานในสหรัฐชะลอการขยายตัว และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งสนับสนุนความหวังที่ว่า FED จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
+ สหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีและต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 188,000 ตำแหน่ง สนับสนุนมุมมอง FED ยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น
+ เสาร์ที่ผ่านมานายกฯลงพื้นที่จ.ชลบุรีและจ.ระยองติดตามคืบหน้าโครงการใน EEC กำชับการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 ให้เป็นไปตามแผนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย
+ สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ศึกษาความเป็นไปได้โครงการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมบุคลากรด้านการบินและอวกาศอู่ตะเภาวงเงินประมาณ 1,200 ล้านบาทคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือนธ.ค.2566 โดยจะเริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างการศึกษาสารวจออกแบบฯ ในเดือน เม.ย.2567
+/-ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาเปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.2% ใน 4Q66 จากขยายตัว 2.2%, 2.1% และ 4.9% ใน Q1, 2 และ 3 ตามลำดับ

ปัจจัยลบ

 

 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 1.95 ดอลลาร์ หรือ -2.4% ปิดที่ 80.51 ดอลลาร์/บาร์เรล และปรับตัวลง 5.9% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่อาจได้รับผลกระทบจากสงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส และแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันโดยเฉพาะจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่

- กลุ่มเฮดจ์ฟันด์ลดซื้อสัญญาน้ำมันดิบสหรัฐลงมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี วิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ในตลาดน้ำมันอีกครั้ง ขณะที่อุปทานน้ำมันดิบยังไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส และการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
- อิสราเอล เปิดเผยว่าได้ตัดขาดพื้นที่ฉนวนกาซาตอนเหนือฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มติดอาวุธฮามาสเรียบร้อยแล้วแบ่งฉนวนกาซาออกเป็น 2 ส่วนคือฉนวนกาซาเหนือ และฉนวนกาซาใต้
- ฟิทช์ เรตติ้งส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหนี้ระยะยาวสกุลเงินต่างประเทศของอียิปต์ลงสู่อันดับ B- จากอันดับ B และแนวโน้มเป็น "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" จากความเสี่ยงด้านการเงินและหนี้สินของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานว่าเงินฝากออมทรัพย์ในธนาคารพาณิชย์ลดลงกว่า 1.1% สวนทางอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น เนื่องจากเม็ดเงินโยกเข้าสู่เงินฝากประจำ บอนด์ระยะสั้น กองทุน และทองคำ
- ส.อ.ท.กังวลงบประมาณรายจ่ายปี 67 ล่าช้าส่งผลให้เศรษฐกิจช่วง 1H67 หดตัว

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและไทยปรับตัวลงสู่ 4.57% และ 3.22% ตามลำดับ ทำให้ตลาดคลายกังวลเรื่องดอกเบี้ยสูงจะทำให้สภาพคล่องในตลาดลดลง นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอทั้งยอดจ้างงานนอกภาคเกษตรและดัชนี ISM ภาคบริการทำให้เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยกลางปี 67 มองกรอบดัชนี 1,415-1,445 จุด

 

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BDMS CPALL TOP
• น้ำมันขึ้นจากสงคราม : PTTEP SPRC BCP ESSO
• งบ 3Q23 ออกมาดีกว่าตลาดคาด : KBANK BBL KTB TTB
• คาดงบ 3Q23 ดี : XO SPA

หุ้นรายงานพิเศษ

AU - "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 12.10 บาท
"คาดกำไร 3Q66 โต YoY QoQ และจะเป็นจุดสูงสุดตั้งแต่ช่วง
หลังสถานการณ์โควิด-19"

 

•(+) คาดผลประกอบการงวด 3Q66 จะโตทั้ง YoY และ QoQ และจะเป็นจุดสูงสุดตั้งแต่ช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19 โดยปัจจัยสนับสนุนหลัก คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ จำนวนนักท่องเที่ยวช่วง 3Q66 โต 98%YoY 10%QoQ ประกอบกับการออกเมนูใหม่ “ขนมปังเปียกปูนกะทิโสด” ที่เริ่มวางขายตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้กระแสตอบรับดีมาก มียอดขายมาเป็นอันดับ 1 ช่วยสนับสนุน SSSG คาดโตราว 20%YoY ประกอบกับยอด Delivery และ Take home เติบโตดีเช่นกัน ส่วนจำนวนสาขา AfterYou ณ ปลาย 3Q66 มีทั้งสิ้น 59 สาขา (+15 สาขา YoY +4 สาขา QoQ) ทั้งนี้ งวด 2Q66 มีกำไร 43 ลบ. +26%YoY +26%QoQ (ตามคาด) ส่วน 6M66 มีกำไร 77 ลบ. +57%YoY คิดเป็น 41% ของประมาณการทั้งปี 66

•(+) ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อโมเมนตัมกำไร 2H66 คาดจะเติบโตดีรายไตรมาสทั้ง 3Q66 จากเหตุผลดังกล่าว ส่วน 4Q66 เป็นช่วง High Season พร้อมกับแผนขยายสาขาช่วงที่เหลือของปี โดยแบ่งเป็น 1) After You เปิดเพิ่ม 3-4 แห่ง และ 2) ร้านลูกก๊อ เปิดเพิ่ม 2-3 แห่ง ขณะที่ ความเสี่ยงจากเหตุการณ์ความไม่สงบใจกลางเมืองช่วงต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา แม้จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนลดลง แต่คาดกระทบจำกัดเนื่องจากสัดส่วนลูกค้าต่างชาติเริ่มมีการกระจายตัวมากขึ้น ประกอบกับนโยบายสนับสนุนนักท่องเที่ยวจากภาครัฐ (อาทิ Free Visa) ที่ทยอยออกมาเพิ่มเติม โดยเราคงประมาณการกำไรปี 66 ราว 190 ลบ. +60%YoY ราคาเหมาะสม 12.10 บาท มี Upside 27%

หุ้นมีข่าว

(+) RS (Bloomberg consensus 15.00 บาท) ชี้เม็ดเงินลงทุนสื่อในโค้งสุดท้ายปี 2566 ฟู สร้างรายได้เพิ่ม ชูธุรกิจ RS LiveWell - RS Pet All ขยายตัวดี ด้านกระแสตอบรับคอนเสิร์ตดีเกินคาด หนุนรับรู้รายได้สูงขึ้น พร้อมเร่งเครื่องรุกธุรกิจสปาต่อยอด มั่นใจรายได้ปี 2566 เข้าเป้า 4.4 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PRAPAT (Bloomberg consensus - บาท) ปักหมุดสยายปีกธุรกิจต่างแดน เตรียมกดปุ่มเปิดโชว์รูมและคลังสินค้าแห่งแรก บนเกาะ "ฟู้โกว๊ก" เวียดนาม กลางเดือนธันวาคม 2566 นี้ รุกขยายฐานลูกค้าใหม่กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร ตั้งเป้าปั้นรายได้แตะ 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 3 ปี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SEAFCO (Bloomberg consensus 4.25 บาท) แจ้งคว้างานใหม่เดือนตุลาคม 2566 จำนวน 7 โครงการ มูลค่ารวม 339 ล้านบาท ต่อยอดงานในมือ (Backlog) กว่า 1.6 พันล้านบาท มั่นใจภาครัฐเดินโครงการใหญ่ต่อเนื่อง หนุนธุรกิจเติบโต ด้านโบรกมองเด่น รับอานิสงส์รัฐ-เอกชนลุยลงทุน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EASTW (Bloomberg consensus - บาท) ตั้งเป้าปี 2567 ยอดขายน้ำโต 5% จากปีนี้คาดราว 230 ล้านลูกบาศก์เมตร เก็บเกี่ยวขายน้ำอุตสาหกรรมปลายไตรมาส 1 เซ็นลูกค้ารายใหญ่ วางงบลงทุน 3 พันล้านบาท สร้างท่อส่งน้าเพียบ รองรับการลงทุนอีอีซี พร้อมขยายธุรกิจเดิม แย้มกำลังหาโอกาสใหม่นอก EEC เสริมแกร่งระยะยาว (ที่มา ทันหุ้น)