วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้น Rebound

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงต่อเนื่อง ต่ำสุดราว -35 จุด จากความกังวลสงครามอิสราเอล-ฮามาส หากสงคราม บานปลาย แต่มีแรงซื้อกลับช่วงเย็น ทำให้ดัชนีลดช่วงลบลง เหลือ -24 จุด แรงขายมากในหุ้นกลุ่มค้าปลีก ขนส่ง และพลังงาน เป็นต้น
ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,427.11 จุด -23.64 จุด -1.63% มูลค่าการซื้อขาย 56,232 ลบ. ต่างชาติ -2,900.17 ลบ. TFEX -7,787 สัญญา ตราสารหนี้ -2,910.21 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 314.25 จุด หรือ +0.93% ได้แรงหนุนจากมุมมองบวกเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส
+ ประธานาธิบดีวลาดีเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย จะสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำของอิสราเอลและชาติอาหรับเพื่อสกัดความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ไม่ให้ลุกลามขยายวงออกไป
+ นายนาสเซอร์ คานานนี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เปิดเผยว่า กลุ่มฮามาสพร้อมปล่อยตัวประกันที่มีอยู่เกือบ 200 คน ถ้าหากอิสราเอลยุติการโจมตีฉนวนกาซา
+ ครม.เห็นชอบขยายเวลาวันพำนักให้นักท่องเที่ยวรัสเซียชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน จากเดิม 30 วัน มีผล 1 พ.ย.66-30 เม.ย.67 เนื่องจากประเมินว่า นักท่องเที่ยวรัสเซียเป็นตลาดระยะไกลที่เดินทางเข้าไทยมากเป็นอันดับหนึ่งในช่วงปี 66 และมีอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ย 73,171 บาทต่อคนต่อทริปสูงกว่านักท่องเที่ยวระยะใกล้ที่มีระยะเวลาการพำนักน้อยกว่าและอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ย 50,000 บาทต่อคนต่อทริป
+ ครม.อนุมัติให้ศึกษาต่อโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) หรือโครงการแลนด์บริดจ์ เพื่อเชื่อมต่อโลจิสติกส์ของโลก เป็นการให้ความมั่นใจกับต่างชาติที่จะมาลงทุนในไทย
ปัจจัยลบ
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.03 ดอลลาร์ หรือ -1.2% ปิดที่ 86.66 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสื่อรายงานว่าสหรัฐเตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา และการที่นักลงทุนมองว่าความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสอาจจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในระยะสั้น
- สกุลเงินต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับตัวลดลงเกือบแตะจุดต่ำสุดในปีนี้ เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐพุ่งทะยานขึ้น โดยค่าเงินริงกิตของมาเลเซียและเงินบาทของไทยปรับตัวลดลงมากที่สุด ขณะที่รัฐบาลและกลุ่มธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากเงินอ่อนค่าที่มีต่อเศรษฐกิจประเทศ
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ขณะที่อัตราผลตอนแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ยังเป็นแรงกดดันตลาดหุ้นไทย คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,420-1,440จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้รับประโยชน์มาตรการลดค่าไฟฟ้าตามมติครม. : HMPRO GLOBAL DOHOME CPALL CPAXT CRC
• นโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท : HMPRO ILM COM7 CPALL CPAXT CRC TNP KK
• กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย : BBL KBANK SCB KTB
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BDMS CPALL TOP
• น้ำมันขึ้นจากสงคราม : PTTEP SPRC BCP ESSO
หุ้นรายงานพิเศษ
SYNTEC
(มุมมอง Neutral / Bloomberg Consensus - บาท)
•รายงานกำไร 2Q66 ที่ 18.4 ลบ. เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ QoQ และพลิกจากขาดทุนใน 2Q65 ที่ 184 ลบ. เนื่องจากมีการโอนกลับหนี้สงสัยจะสูญ 24.5 ลบ. โดยมีรายได้ก่อสร้าง 1.47 พันลบ. หดตัว 10%QoQ แต่เติบโต 85%YoY ตามงานก่อสร้างในมือ (Backlog) ที่เพิ่มขึ้นสู่ 10,000 ลบ. และมีรายได้จากการบริการอยู่ที่ 100 ลบ. +5%QoQ และ +1%YoY ตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว สอดคล้องกับอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวขึ้นจาก 1Q66 ที่ 1.62% สู่ 5.13% เนื่องจากงานก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ รายงานกำไร 1H66 ที่ 19 ลบ. พลิกจากขาดทุน 279 ลบ.ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
•ณ วันที่ 13 ก.ย. 66 บริษัทมี Backlog 1.0 หมื่นลบ. ซึ่งจะรับรู้รายได้ใน 2H66 ราว 3 พันลบ. และอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่อีกราว 2.3 หมื่นลบ. โดยคาดว่าจะได้งานอย่างน้อย 7-8 พันลบ. ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้ปี 66 ที่ 6.0 พันลบ. เติบโต 27%YoY และคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวที่ 5% แต่มีความเสี่ยงจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของภาครัฐ
•ความเห็น เรามีมุมมอง Neutral แม้ว่ารายได้จากการก่อสร้างจะกลับมาฟื้นตัวแต่ ความเสี่ยงจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของภาครัฐยังเป็นปัจจัยกดดันต่ออัตรากำไรขั้นต้นในระยะ 6-12 เดือน อีกทั้งงานก่อสร้างมีการแข่งขันสูง เราจึงแนะนำเพียง “ถือ”
หุ้นมีข่าว
(+) BIZ (Bloomberg consensus - บาท) โอกาสขายเครื่องฉายรังสีมะเร็งเพิ่ม หลังผู้ป่วยมะเร็งเติบโตต่อเนื่อง จัดทัพพร้อมประมูลงานปีหน้า จากงบประมาณโครงการเบิกจ่ายทางการแพทย์ เล็งผุดโมเดลปล่อยเช่าเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งให้กับโรงพยาบาล เพิ่มช่องทางรับทรัพย์ แย้มไตรมาส 4/2566 งบสดใส รับรู้งานโครงการต่อเนื่อง เผยตุนงานในมือกว่า 920 ล้านบาท ทยอยรับรู้มั่นใจรายได้ทั้งปีโต 10% คาดโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็ง แคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี โกยรายได้ 100 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) KTMS (Bloomberg consensus - บาท) ใส่เกียร์เปิดสาขาใหม่ไตรมาส 4/2566 อีก 5 แห่ง จากปัจจุบันให้บริการแล้ว 25 แห่ง ชี้ดีมานด์แน่น อัตราครองเตียงสูง 80% เชื่อรายได้ปี 2567 โตต่อ 30% ส่วนปีนี้มั่นใจมาตามนัดทะลุ 500 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียม อัพกำลัง 3 เท่าตัว แตะ 2.7 ล้านแกลลอน (ที่มา ทันหุ้น)
(+) JSP (Bloomberg consensus - บาท) ชี้อาหารเสริมสัตว์เลี้ยงเติบโตสูง 30% รับปัจจัยบวกช่วงโควิดคนเลี้ยงสัตว์เพียบ แย้มไตรมาส 4/2566 ยอดขายอาหารเสริมเติบโตต่อเนื่อง มั่นใจดันรายได้ชนเป้าแตะ 500 ล้านบาท วางโรดแมปก้าวสู่ผู้นำตลาดสุขภาพแบบครบวงจรภายใน 3-5 ปี (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BCP (Bloomberg consensus 43.50 บาท) ปิดดีลทำเทนเดอร์หุ้น ESSO จ่านวน 1,177,108,000 หุ้น หนุนถือครองสัดส่วน 76.34% พร้อมที่จะเดินหน้าขับเคลื่อนการด่าเนินงานต่างๆ เพื่อไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจร่วมกัน (ที่มา ทันหุ้น)







