วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี BCH - กำไรต่ำสุดของปีได้ผ่านไปแล้ว
เราคาดกำไรธุรกิจหลัก 312 ลบ.ใน 2Q23 จะอยู่ที่ เพิ่มขึ้น 16% qoq จากรายได้เพิ่มขึ้น 5% และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 0.7% ดังนั้น กำไร1Q จึ้งต่ำสุดของปีนี้ ปัจจัยบวกกับราคาหุ้น
ได้แก่ กำไรที่แข็งแกร่งขึ้นใน 2H (62% ของกำไรปี FY23F) และความเสี่ยงจากผลอัตราแลกเปลี่ยน จะหมดไป (ขาดทุน 193 ลบ.ใน FY22) หลังจ่ายคืนเงินกู้สกุลไทยบาท นอกจากนี้ ยังมีอัพไซด์จากดีล M&A ราคาหุ้น BCH ลดลง 19% ในสามเดือนที่ผ่านมาสะท้อนผลประกอบการที่ผิดหวังใน 1Q แล้ว เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ
คาดกำไรธุรกิจหลัก 312 ลบ.ใน 2Q23
กำไรจะลดลง 75% yoy เพราะรายได้เกี่ยวกับโควิดลดลง แต่กำไรจะเพิ่มขึ้น 16% qoq เพราะรายได้เพิ่มขึ้น 5% และอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรใน 1Q ต่ำสุดของปีนี้ เนื่องจากกำไรใน 2H จะสูง ตามการระบาดของโรคที่มากขึ้นในช่วงที่อากาศชื้นขึ้น กำไรธุรกิจหลัก 2Q ปีนี้จะทำสถิติสูงสุดเทียบกับปี 2015-2019 (98-250 ลบ. ก่อนโควิดระบาด) เราคาดกำไรธุรกิจหลัก 581 ลบ.ใน 1H ลดลง 83% yoy เนื่องจาก รายได้ที่เกี่ยวกับโควิดลดลง และคิดเป็น 38% ของประมาณการกำไรปี FY23F ของเรา BCH จะประกาศผลการดำเนินงานวันที่ 15 ส.ค.
รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น
เราคาดรายได้จะเพิ่มขึ้น 5% qoq เป็น 2.8 พันลบ. เนื่องจาก (i) รายได้จาก SSO เพิ่มขึ้นหลังปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัว 10% เป็น 1,808 บาท/คน/ปี ตั้งแต่ 1 พ.ค. (ii) โควิดระบาดในเดือนเม.ย. และ (iii) รับรู้รายได้เต็มไตรมาสจากผู้ป่วยเมียนมาร์ที่ KH ศรีบุรินทร์ (จังหวัดเชียงราย) หลังจากเซ็น MOU กับรพ.ในเมียนมาร์ใน 1Q และเปิดพรมแดนในปลายเดือนก.พ. และ (iv) ศัลกรรมพลาสติกเกษมราษฎร์ by Bujeong เปิดบริการใหม่ (gastric balloon) ใน 2Q ทั้งหมดนี้ จะช่วยชดเชยรายได้ที่ลดลงจากผู้ป่วยตะวันออกกลางในช่วงเทศกาลรอมฎอน เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น 0.7% เป็น 28.3% จากค่าเหมาจ่ายรายหัวของ SSO
2H กำไรดีขึ้นและความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนหมดไป ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ
เนื่องจาก (i) โรคระบาดมากขึ้นตามฤดูกาล (ii) รับรู้รายได้เต็มไตรมาสใน 3Q จาก SSO ปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัว และรายได้จากการภาระเสี่ยง (iii) รายได้ตรวจสุขภาพของพนักงานในนิคมฯ ในจังหวัดนนทบุรี ตรวจสุขภาพเคลื่อนที่ของพนักงาน ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 0.1-0.2 ล้านคน และจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจากซาอุดิ อาระเบีย, ลิเบีย (IVF) และจีน (IVF) และ (iv) ลงทุนรพ.เปิดดำเนินการและมีกำไรแล้วใน 3Q (<1 พันลบ.) และ (v) ความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนจะหมดไป (ขาดทุน 193 ลบ.ปี FY22) หลังคืนเงินกู้สกุลบาท (480 ลบ.) ของ KH เวียงจันท์ ภายในก.ย.
