วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (24 ก.ค. 66)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา 

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นกว่า 2% หลังตลาดกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัวจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคและประเทศพันธมิตร รวมถึง ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากรัสเซียมีการเข้าโจมตีคลังเก็บธัญพืชของยูเครน เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และมีการฝึกซ้อมยึดเรือสินค้าในทะเลดำ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาอาหารและอุปทานของพลังงานทดแทน อาทิเช่น เอทานอล

+ ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐ ปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ก.ค. ปรับลดลง 6 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 669 แท่น ซึ่งนับเป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ มี.ค. 65

+ รัฐบาลจีนมีการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการสนับสนุนให้มีการซื้อรถยนต์ในประเทศ โดยเน้นการส่งเสริมที่รถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) หรือรถยนต์ไฟฟ้า โดยในช่วงครึ่งปีแรก ยอดขายรถยนต์ของจีนเพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า ซึ่งนับเป็นการเติบโตที่ช้าลง ทั้งนี้ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 37% จากปีก่อนหน้า ขณะที่ยอดขายรถยนต์ ICE ปรับลดลง 8% จากปีก่อนหน้า

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน รวมถึงอุปสงค์จากอินโดนีเซียที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

 

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ราคาคาดจะได้รับแรงกดดันจากการส่งออกของจีนและญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้น