วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง SET อ่อนตัว S50M23 ครบกำหนด
ทางเทคนิค คาด SET Index ยังคงอยู่ในทิศทางขาลง แนวรับ 1,450/1,440 จุด แนวต้าน 1,474/1,480 จุด อิงการฟอร์มตัวของดัชนีฯ ยังคงอยู่ในทิศทางขาลงเห็นได้จากการสร้างจุดสูงสุด และจุดต่าสุด ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง (Lower High, Lower Low)
และอยู่ระหว่างทดสอบแนวรับของกรอบ Down Channel 1,450-1,555 จุด ขณะที่การรีบาวนด์ มีโอกาสเริ่มเกิดขึ้น อิงการเริ่มเข้าเขตขายมากเกินไป (Oversold) ของเครื่องมื่อทางเทคนิค RSI, Stochastic ส่วนสัญญาณขาขึ้นรอบใหม่ คาดว่าต้องรอจนกว่าจะเกิดรูปแบบ Reversal Pattern (V-Shape Recovery)
Events สาคัญวันนี้ คือ การครบกำหนดอายุของตราสารอนุพันธ์ SET50 Index Futures เดือน มิ.ย. (S50M23) เราคาดว่าดัชนีฯ วันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เพื่อรองรับการปิดโพสิชั่นสัญญา Short สุทธิของนักลงทุนต่างชาติ โดยโพสิชั่นล่าสุดของนักลงทุนต่างชาติ พบว่า เปิด Short สะสมใน 2Q23 กว่า 1 แสนสัญญา QTD (Figure 2) โดยเป็นการเปิด Short สะสมสูงถึง 90,591 สัญญา ในช่วงกลางเดือน มิ.ย. เป็นต้นมา (16-27 มิ.ย.) ประกอบกับระดับ OI สะสม ที่สูงกว่า 2.2 แสนสัญญา (ค่าเฉลี่ยปกติอยู่ต่ำกว่า 1 แสนสัญญา) สะท้อนโอกาสสูงที่นักลงทุนต่างชาติ จะปล่อยให้สัญญาส่วนใหญ่ หมดอายุลงในวันครบกำหนดวันนี้ (ดัชนี SET50 Index ยิ่งปิดลดลง จะส่งผลบวกต่อการเปิด Short Position)
ส่วนประเด็นเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ได้แก่ 1) US รายงาน 1Q23E GDP ครั้งสุดท้าย (Consensus คาดปรับขึ้นเป็น +1.4% QoQ จากเดิม +1.3% QoQ แต่ปรับลดลงเมื่อเทียบกับ 4Q22 GDP ที่ +2.6% QoQ) ทั้งนี้ เราคาดว่าตลาดจะให้ความสนใจต่อ US 2Q23E GDP มากกว่าการประกาศวันนี้ โดยปัจจุบันพบว่า มีการประมาณการที่แตกต่างกันอย่างมาก ระหว่าง Fed Atlanta ซึ่งมีความแม่นยำมากกว่า 90% (ล่าสุดคาดเติบโตสูง +1.8% QoQ) กับ Bloomberg Consensus (คาด +0.6% QoQ) (Figure 1) ทั้งนี้ Upside Risks ต่อ US 2Q23E GDP ที่ดีกว่าคาดดังกล่าว จะเป็นโมเมนตัมบวกต่อ การประกาศงบบจ.สหรัฐฯ 2Q23E (เริ่มต้นเดือน ก.ค.) โดย Factset คาด EPS เติบโต -6.4% YoY ซึ่งเป็นระดับการเติบโตของกำไรที่ต่ำสุด นับตั้งแต่ 2Q20 2) ประเด็นการเมือง การเลือกประธานสภาฯ สัปดาห์หน้า จะเป็นตัวชี้นำว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นแบบปัจจุบัน (พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำ) หรือเปลี่ยนเป็นแผนใหม่ (พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ) โดยจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย หากสามารถได้รัฐบาลที่เป็นที่ยอมรับ และไม่มีความรุนแรงนอกสภาเกิดขึ้น
กลยุทธ์ลงทุน การอ่อนตัวของราคาหุ้นบลูชิพขนาดใหญ่วันนี้ (เป็นผลจากการรองรับการปิดโพสิชั่น Short) เป็นโอกาสที่ดีในการเลือกซื้อเก็งกำไรหุ้นที่มีประเด็นบวกสนับสนุน อาทิ ผลกำไร 2Q23E ฯลฯ แนะนำ KTB BBL TTB
Strategic daily picks
KTB ปิด 19.00 บาท/แนวรับ 18.20 บาท แนวต้าน 19.60 บาท
Consensus คาดสินเชื่อจะกลับมาเติบโตได้ QoQ หลังหดตัวใน 1Q23 และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น และเป็นปัจจัยที่ทำให้คาดกำไรใน 2Q23 จะเติบโตขึ้น 27.1% YoY เป็น 1.06 หมื่นล้านบาท Consensus ประมาณการกำไรปี 2023 ที่ 3.71 หมื่นล้านบาท (+10.1% YoY)
BBL ปิด 155.50 บาท/แนวรับ 150.00 บาท แนวต้าน 164.00 บาท
Consensus คาดใน 2Q23 สินเชื่อจะหดตัวลง และ NPL จะเพิ่มขึ้น แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้น คาดจะทำให้รายได้ดอกเบี้ยยังเพิ่มขึ้นได้ และเมื่อรวมรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นและกำไรจากเงินทุนที่เพิ่มขึ้น คาดหนุนกำไรใน 2Q23 เพิ่มขึ้น เป็น 1.07 หมื่นล้านบาท (+53.9% YoY) Consensus ประมาณการกำไรปี 2023 ที่ 3.79 หมื่นล้านบาท (+29.6% YoY) จากรายได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น
TTB ปิด 1.53 บาท/แนวรับ 1.46 บาท แนวต้าน 1.64 บาท
Consensus คาดกำไร 2Q23 ที่ 4.16 พันล้านบาท (+21.0% YoY) แม้จะคาดว่าสินเชื่อจะหดตัวลง แต่การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้น หนุนให้รายได้ดอกเบี้ยสูงขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้กำไร 2Q23 เพิ่มขึ้น ขณะที่คาดสัดส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (1Q23 อยู่ที่ 2.7%) เพราะฐานสินเชื่อลดลง Consensus ประมาณการกำไรปี 2023 ที่ 1.61 หมื่นล้านบาท (+13.3% YoY)
