BGRIM งานเลี้ยงยังไม่เลิก..! (25 ม.ค. 2566)

ทิศทางกลยุทธ์ของ BGRIM ในปี 2566…?
BGRIM ยังตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตติดตั้งเชิงรุกเป็น 10GWh ภายในปี 2573 (จาก 4.7GWh ในปี 2567 และ 3.4GWh ในปี 2565) โดยโครงการพลังงานหมุนเวียน (RE) จะคิดเป็น 50% ของทั้งหมด (จาก 25% ในปี 2565) ทั้งนี้ ทำเลที่มีศักยภาพสูงได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย เกาหลีใต้ ไทย และ ตลาดอื่น ๆ (Figure1) โดยกำหนดงบลงทุน (capex) ไว้ที่ 7 หมื่นลบ. หรือ 9 พันลบ.ต่อปี (8 ปี) จนถึงปี 2573 บริษัทคาดว่า EBITDA ในปี 2573 จะอยู่ที่ปีละ 3.5 หมื่นล้านบาท (จาก 1.5 หมื่นล้านบาทในปี 2564) คิดเป็นอัตราการเติบโต 10% ต่อปี CAGR และคาดว่า EBITDA margin จะอยู่ที่ 35% โดยปัจจัยกระตุ้นการเติบโตจะมาจากโครงการ RE, ประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน, การนำเสนอ solutions ที่เกี่ยวกับด้านไฟฟ้าให้กับลูกค้าเพื่อเพิ่ม margin อย่างเช่น การบริหารจัดการพลังงาน และ distributed generation
แหล่งเงินทุนจะมาจากไหน …?
ผู้บริหารยืนยันว่าจะไม่มีการเพิ่มทุน แม้ว่าสัดส่วน net IBD/E จะอยู่ที่ 1.9x ใน 3Q65 (จากเป้าของบริษัทที่ 2.0x และ covenant ที่ 3.0x) โดยเงินทุนส่วนใหญ่จะมาจากกระแสเงินสด รองลงมาคือเงินสด และหุ้นกู้แบบ hybrid ทั้งนี้ BGRIM มีแผนจะออกหุ้นกู้ perp bond ในปี 2566 และขายสินทรัพย์ (asset monetization) ใน 2H66 เพราะบริษัทมีแผนจะใช้งบลงทุนส่วนใหญ่ในปี 2567 โดยประมาณ 60-80% ของโครงการกำลังที่ศึกษาอยู่ค่อนข้างแน่นอนแล้ว เพียงแค่รอการประกาศออกมาเท่านั้น ในขณะที่ประมาณ 90% เป็นโครงการ RE เรามองว่ารอบนี้ค่อนข้างท้าทายสำหรับ BGRIM ในการที่จะบรรลุแผนสร้างการเติบโตเชิงรุกเมื่อเทียบกับงบดุลค่ที่อนข้างตึงตัว ซึ่งเราคงต้องรอดูกันต่อไป
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรกำไรเพื่อสะท้อน 4 โครงการพลังลมในทะเลที่เกาหลีใต้
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรตั้งแต่ปี 2570F เป็นต้นไปอีก ~20% เพื่อสะท้อนถึงโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่ง 4 โครงการในเกาหลีใต้ (Jodo / Shinan / Cheonsa / Gunghung) โดยใช้สมมติฐานดังนี้ i) EIRR ~13% ii) D/E ที่ 75:25 iii) capacity factor ที่ 25% iv) อัตราค่าไฟฟ้าที่ KRW150/kWh และ v) อัตราดอกเบี้ยที่ 4% และอัตราภาษีที่ 0-10% ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะทำให้กำลังการผลิตของ BGRIM เพิ่มขึ้น 1031MW หรือ 560MWe คิดเป็น 20.4% ของกำลังการผลิต 2,748MWe เป็น 3,308MWe
Valuation & Action
เมื่อพูดถึงการเก็งกำไรจากปัจจัยภายนอก (ราคาน้ำมัน, อัตราแลกเปลี่ยน US$/THB, และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร) จากการศึกษาของเราพบว่าหุ้น BGRIM มีการเคลื่อนไหวโดดเด่นที่สุดในกลุ่มโรงไฟฟ้า ทั้งนี้จากผลประกอบการที่ฟื้นตัวในระดับปานกลางใน 4Q65 ก่อนที่จะพุ่งแรงในปี 2566 เราเชื่อว่าตลาดจะยังมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรขึ้นอีก และประเด็นสำคัญที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์จะช่วยเสริมความมั่นใจให้นักลงทุนทำให้มีการ re-rate หุ้น BGRIM ต่อ เรายังแนะนำซื้อ โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย DCF เป็น 46 บาท จากเดิมที่ 42.50 บาท
Risks
ปิดซ่อมบำรุงนอกแผน, ปัญหา cost overruns, และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย