อ่อนตัว หุ้นรายงานพิเศษ SVT (7 ต.ค. 2565)

อ่อนตัว หุ้นรายงานพิเศษ SVT (7 ต.ค. 2565)

วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนียังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสอดคล้องกับตลาดในภูมิภาค หลังกลุ่มโอเปคพลัสมีมติลดกำลังการผลิตในเดือนพฤศจิกายนราว 2 บาร์เรลต่อวัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นยืนเหนือระดับ 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หนุนให้กลุ่มพลังงานมีแรงซื้อต่อเนื่อง

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,589.18 จุด +8.91 จุด +0.56% มูลค่าการซื้อขาย 63,797 ลบ. ต่างชาติ +377.48 ลบ. TFEX +30,911 สัญญา ตราสารหนี้ +573.07 ลบ.

 

ปัจจัยบวก

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 69 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 88.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. 2565 ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับกลุ่มโอเปคพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี
+ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 29,000 ราย สู่ระดับ 219,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 203,000 ราย
+ รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียพร้อมที่จะจัดส่งก๊าซให้แก่ยุโรปผ่านทางท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 หากยุโรปยกเลิกมาตรการปิดกั้นต่อการส่งก๊าซ
+ ตลท. เปิดเผยว่า ในปี 66 หากการเมืองไทยมั่นคงและแน่นอนจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็ว รวมไปถึงการส่งออกและภาคการท่องเที่ยวที่มีการเติบโตดีขึ้นจะเป็นปัจจัยหลักในการสร้างกำลังซื้อและผลักดันให้เศรษฐกิจและตลาดทุนไทยในกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องไปต่อได้

 

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ร่วงลง 346.93 จุด หรือ -1.15% โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า การเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของอังกฤษลงสู่ระดับ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" โดยระบุว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของรัฐบาลมีความเสี่ยงที่จะทำให้ตัวเลขขาดดุลงบประมาณของอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น
 

- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศในเดือนก.ย.ร่วงลงมากที่สุดในรอบราว 14 ปี เนื่องจากทางการเกาหลีใต้ได้เทขายสกุลเงินดอลลาร์ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศ เพื่อชะลอการอ่อนค่าของสกุลเงินวอน
- โกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีนี้และปีหน้า โดยได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มโอเปคพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ย.
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. และให้น้ำหนักเพียง 29.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50%

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยนักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานยังช่วยพยุงตลาด หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,580-1597 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : GLOBAL DOHOME HMPRO TOA COTTO DCC TASCO
• ศบค. มีมติยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน : ERW CENTEL VRANDA ASAP SPA
• ตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. เติบโต : BRR KSL TFG GFPT ASIAN JUBILE
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL KBANK

 

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                                         SVT 2Q65 กำไรโต +29%YoY, +5%QoQ
                                                     “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” Bloomberg consensus - บาท

อ่อนตัว หุ้นรายงานพิเศษ SVT (7 ต.ค. 2565)

•รายได้ 2Q65 เท่ากับ 547 ลบ. +13%YoY, +1%QoQ และกำไร 23 ลบ. +29%YoY, +5%QoQ สาเหตุมาจากการเพิ่มตู้จำหน่ายสินค้าจาก 14,901 ตู้เป็น 15,068 ตู้ +8.5%QoQ สอดคล้องกับยอดขายตู้จำหน่ายสินค้าปรับตัวขึ้นจาก 3 ลบ. เป็น 6 ลบ. +100%QoQ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 32.2% เป็น 33.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

•ผู้บริหารมองรายได้ปี 65 เติบโตราว +15%YoY โดยในช่วง 1H65 เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิด -19 ทำให้บริษัทชะลอการผลิตตู้จำหน่ายสินค้าบางส่วน ขณะที่ปัจจุบันเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ทำให้บริษัทเร่งผลิตตู้จำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้นเพื่อกระจายไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพได้แก่ ชลบุรีและปทุมธานี โดยปัจจุบันมี 12 สาขาครอบคลุมพื้นที่ 29 จังหวัด คาดเพิ่มตู้จำหน่ายสินค้าจาก 15,000 ตู้ เป็น 16,000 ตู้ ภายในสิ้นปีนี้

•ฝ่ายวิจัยประเมินว่าผลประกอบการในช่วง 2H65 จะฟื้นตัวต่อเนื่อง สาเหตุมาจากรัฐเริ่มคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ อีกทั้งบริษัทเร่งกระจายตู้จำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเปิดใช้งาน application “SUN V” ที่มีแต้มสะสมแลกซื้อสินค้าช่วยหนุนรายได้เติบโต ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 100 ล้านบาท +50%YoY ปัจจุบันงวด 1H65 มีกำไร 45 ล้านบาท +15%YoY ทำได้ 45% จากเป้าหมาย ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงมา -33%YTD ทำให้หุ้นซื้อขายที่ P/E 36 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 29 เท่า เราจึงแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”

 

หุ้นมีข่าว

(+) NRF ( Bloomberg Consensus 7.20 บาท) ชูธุรกิจอาหารสัตว์มาแรงสร้างรายได้ทันทีปีนี้ 250 ล้านบาท ชูตลาดนับแสนล้าน คาดปี 2566 สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 3 ออเดอร์ทุกธุรกิจเติบโตดี รับอานิสงส์บาทอ่อนค่า ทั้งปีรายได้โตตามแผน เดินหน้าขยายสาขา alt.Eatery ชูบริษัทเข้าเมกะเทรนด์ลดโลกร้อน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SGP ( Bloomberg Consensus - บาท) เข้าซื้อ "ประสานสักแก๊ส" ใน สปป.ลาว ในราคา 15 ล้านบาท ลั่นสุดคุ้มได้ทั้งที่ดิน และใบอนุญาตการนำเข้าธุรกิจก๊าซ LPG เตรียมปรับปรุงให้บริการปีหน้า มองในอนาคตจะสามารถขยายไปยังธุรกิจอื่น น้ำมัน ไฟฟ้าในสปป.ลาว ได้เพิ่มอีก สบช่องโมเดลซื้อธุรกิจ เล็ง LPG ในกัมพูชา พร้อมวางลงทุนครบทุกประเทศในกลุ่ม CLMV บุกอินเดีย-ศรีลังกา-บังกลาเทศ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) ANAN (Bloomberg consensus 1.38 บาท) แบ็กล็อกแน่นกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท ทยอยโอนไตรมาส 4/2565 ราว 6 พันล้านบาท แถมมีสต็อกพร้อมขายอีกกว่า 5.1 หมื่นล้านบาท เสริมทัพ รองรับการเติบโตใน 3 ปีจากนี้ เล็งปรับตัวขยายสู่เซ็กเมนต์ลักชัวรี่โกยยอดขายแนวราบเพิ่ม พร้อมมองภาพรวมอสังหาฟื้นตัวได้ดี (ที่มา ทันหุ้น)

(+) MC (Bloomberg consensus 12.15 บาท) ตั้งเป้าผลงานปีบัญชี 2565/2566 มุ่งบริหารกำไรโตสองหลัก พร้อมตั้งเป้ายอดขายโต 10-20% วางงบลงทุน 500 ล้านบาท สร้างแวร์เฮาส์ หนุนการตลาด ลุยขยายสาขา แม็ค เอาต์เล็ต เพิ่มอีก 50 สาขา ส่งผลให้ในเดือนมิถุนายน 2566 จะมีเอาต์เล็ตทั้งหมด 172 สาขาทั่วประเทศ พร้อมมองหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ (ที่มา ทันหุ้น)