อ่อนตัว เก็งกำไร GLOBAL TIPH TLI (28 ก.ย. 2565)

อ่อนตัว เก็งกำไร GLOBAL TIPH TLI (28 ก.ย. 2565)

คาดดัชนีฯ อ่อนตัว แนวต้าน 1,618/1,623 จุด แนวรับ 1,600/1,580 จุด แนะนำ เก็งกำไร GLOBAL TIPH TLI และแนะนำ เปิด Short SET50 Index Futures เพื่อ Hedging หลังจากทางเทคนิค เกิดสัญญาณขายเป็นรูปแบบขาลง Head & Shoulder โดยมีแนวรับเป้าหมายที่ 1,560 จุด

โมเมนตัมลบ คือ ตลาดหุ้นเกิดภาวะ Risk-Off หันไปถือครองเงินสดเพิ่ม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดวิกฤติการเงินรอบใหม่ อันเนื่องจากการแข็งค่าไม่หยุดของค่าเงิน USD และการพุ่งขึ้นของยิลด์พันธบัตรรัฐบาล 

ไฮไลท์วันนี้ คือ ผลประชุมกนง. คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% แต่ค่าเงินบาท/USD คาดยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง อิงสัญญาณ ปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดยังคงมีต่อเนื่องอีก 1.25% ในการประชุมเดือน พ.ย.-ธ.ค.; USA สุนทรพจน์ Fed Chicago Evans, Fed Atlanta Bostic (Non-Voters) Fed St. Louis Bullard (Voter); Japan BOJ Meeting Minutes

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC JMART TCAP JMT CENTEL BH BEM AOT EA PTG WHA KKP CPN MINT KTB BDMS

+ Daily Recommendations: GLOBAL (เข้ำสู่เทศกาลจับจ่ายใช้สอยวัสดุก่อสร้างใน 4Q22) TIPH TLI (รับ Bond Yields ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์แนวโน้ม Bond Yields ปรับตัวสูง: BBL KBANK SCB TIPH TLI

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น: CENTEL ERW AOT

+ หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อนค่า: DELTA SAPPE

 

ปัจจัยลบ

- ผลประชุมกนง.: เราคาดว่ากนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมวันที่ 28 ก.ย. +25bps เป็น 1.0% เพื่อรักษำ Spread real rate หลังเงินเฟ้อไทยปรับตัวสูงขึ้นในเดือน ส.ค. +7.86% (Vs +7.61% ในเดือน ก.ค.) ทำให้ Spread real rate ไทยเทียบสหรัฐฯ ติดลบเพิ่มขึ้นจาก -0.86% ในเดือน ก.ค. เป็น -1.11% ในเดือน ส.ค. ทั้งนี้ กนง. คาดเงินเฟ้อปี 2022-23E อยู่ที่ 6.2% และ 2.5% ขณะที่เงินเฟ้อ 8M22 +6.14% YoY (เป็นโมเมนตัมบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต แต่เป็นลบต่อกลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มที่มีภาระหนี้สูง High DE Ratio) 

 

 

- FX Risk: MS คาดค่าเงินบาท/USD ระยะสั้น มีแนวโน้มอ่อนค่าไปที่ 38.5 บาท อิงการเป็นหนึ่งในประเทศที่มีสเปรดระหว่างดอกเบี้ย กนง.และเฟด ที่กว้างมากสุดรอบ 2 ปี ใกล้เคียงกับไต้หวันและจีน และกระแสเงินทุนอาจไหลออกหรือชะลอการเข้ามาจาก Low Real Yields

 

ประเด็นสำคัญ

- Opportunity Day: TGE SE TPCH SKE SALEE MST MVP

- Thailand: ผลประชุมกนง. คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25%

- USA: Pending Home Sales เดือน ส.ค. คาด -1.4% MoM (Vs เดือน ก.ค. -1% MoM), Goods Trade Balance เดือน ส.ค. คาด -USD85bn. (Vs เดือน ก.ค. -USD89.06bn.)

- USA: สุนทรพจน์ Fed Chicago Evans, Fed Atlanta Bostic (Non-Voters), Fed St. Louis Bullard (Voter)

- Japan: BOJ Meeting Minutes

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยปิดลบเป็นวันที่ 3: ตลาดหุ้นไทยเปิตลาดที่ 1,627.30 จุด +6.05 จุด ก่อนปรับลดลงในลักษณะ Zig-Zag Down ทำจุดต่ำสุดที่ 1,610.32 จุด -10.93 จุด ในช่วงเที่ยงและปิดตลาดที่ 1,610.58 จุด -10.67 จุด วอลุ่มซื้อขาย 7.4 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ -3.24% ประกันภัยและประกันชีวิต -3.05% บริการรับเหมาก่อสร้าง -2.14% ธนาคาร -1.88% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -1.41% หุ้นบวก >4% UREKA CRC UKEM FVC ACC W PSTC AMA CI SAT หุ้นลบ >4% TLI KCE BYD PRINC TAKUNI KCC SICT DITTO TTA SABUY PLUS TEAMG U BE8 A5 SCM MAJOR

 

 

 

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ: DJIA -0.43% S&P500 -0.21% NASDAQ +0.25% หลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งรวมถึงนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้มีความเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงก็ตาม โดยหุ้น 7 ใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรม ในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (P&G -2.56%, คิมเบอร์ลีย์-คล้าค -1.34% และฟิลลิป มอร์ริส -3.45%) และกลุ่มสาธารณูปโภค (พีจีแอนด์อี -2.82%, ดุ๊ค เอนเนอร์จี -2.5% และเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น -1.06%) อย่างไรก็ตาม NASDAQ ฟื้นตัว จากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคฯ อาทิ เทสลา +2.51% หุ้นแอปเปิล +0.66% หุ้นอินวิเดีย +1.51% และหุ้นไมครอน เทคโนโลยี +3.48% ส่วนหุ้นยุโรปปิดลบต่อเนื่อง CAC40 -0.27% DAX -0.72% FTSE -0.52% โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางการ คุมเข้มนโยบายการเงินเชิงรุกของธนาคารกลางต่าง ๆ ขณะที่ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลง จากความวิตกเกี่ยวกับแผนเศรษฐกิจใหม่

+ ราคาน้ำมันดิบและทองคำปิดบวก: WTI +USD1.79 ปิดที่ USD78.50/บาร์เรล Brent +USD2.21 ปิดที่ USD86.27/บาร์เรล ราคาน้ำมันฟื้นตัว จากระดับต่ำสุดรอบ 9 เดือน จากความกังวลทางอุปทานลดลง โดยข้อมูลจาก BSEE เผยว่าการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโก 11% และ 8.56% หยุดการผลิต หลังจากพายุเฮอร์ริเคนเอียนมุ่งหน้าสู่อ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ ส่วนราคาทองคำ +USD2.80 ปิดที่ USD1,636.20/ออนซ์ จากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและสถานะทางเศรษฐกิจของอเมริกา กระตุ้นให้นักลงทุนหันถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ

 

ประเด็นสำคัญ

+ USA: ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 108 ในเดือน ก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 104.6 จากระดับ 103.6 ในเดือน ส.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคได้รับแรงหนุน จากแนวโน้มตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งและราคาพลังงานที่ปรับตัวลง

+ USA: นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า เขามีความกังวลว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไปในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ นอกจากนี้ นายอีแวนส์ กล่าวว่า เขายังคงมีความเชื่อมั่นอย่างระมัดระวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอย หากไม่มีปัจจัยอื่นที่สร้างความตื่นตระหนกต่อตลาด

+ Thailand: เวิลด์แบงก์ ปรับประมาณการเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศไทย จากเดิมที่ 2.9% เป็น 3.1% หลังภาคการบริโภค การท่องเที่ยว และการส่งออกฟื้นตัว แต่ยังคงได้รับผลกระทบจากการชะงักงันของห่วงโซ่อุปทำน (Supply Chain Disruption) ซึ่งประเทศไทยจะได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะสินค้ายานยนต์สำหรับปี 2023 ธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจไทยเติบโตที่ 4.1%

- Russia: บริษัท Nord Stream AG ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 และ 2 เปิดเผยว่า ระบบท่อส่งก๊าซ Nord Stream ใต้ทะเลบอลติกประสบความเสียหายถึง 3 จุด ภายในวันเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งนี้ มีการตรวจพบการรั่วไหลของก๊าซ 2 จุด ในท่อส่งก๊าซ Nord Stream 1 ขณะที่ท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 มีการรั่วไหล 1 จุด

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: BBL BLA TFG

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: GLOBAL TIPH TLI

Derivatives: แนะถือ Short S50U22 รอทำกำไรตามเป้า