อย่ารอเผชิญแรงกดดัน สูตร ‘โอสถสภา’ เคลื่อนความยั่งยืน

เวทีสัมมนา SUSTAINABILITY FORUM 2026 Shift Forward : Overcoming Challenges จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ เป็นการรวมธุรกิจชั้นนำของเมืองไทย มาบอกเล่าเรื่องราว วิสัยทัศน์การเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน

สำหรับหัวข้อ Responsibility by Design: A Foundation for Sustainable Growth มีนายสาโรจน์ อินทพันธุ์ Head of External Affairs and Sustainability Development บริษัท โอสถสภา จำกัด(มหาชน) ที่แบ่งปันมุมมอง และเส้นทาง 7 ปีที่ให้ความสำคัญในเรื่องการลดผลกระทบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม ผ่านผลิตภัณฑ์ต่างๆ

หากมองรากฐานของบริษัทโอสถสภา มีปรัชญาเต๊กเฮงหยู หรือความเจริญจากการช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นวิชั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนสู่องค์กร 134 ปี เพราะเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยวางกรอบให้บุคลากรตั้งแต่ผู้บริหาร พนักงานเดินไปสู่เป้าหมายร่วมกัน

ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน องค์ประกอบที่ค่อนข้างทำยากแต่เป็นหัวใจแห่งความสำเร็จ ได้แก่ พนักงาน ผู้บริหาร หรือ People ที่ต้องมองทิศทาง มีวิสัยทัศน์เดียวกัน เพื่อบูรณาการเข้ากับธุรกิจ เพราะต้องยอมรับว่าธุรกิจต้องมีการเติบโต จึงจะสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สิ่งแวดล้อมได้

“เราต้องเริ่มจากผู้บริหารรับรู้ เข้าใจแผนทำธุรจอย่างยั่งยืน เพื่อส่งต่อพนักงาน ซึ่งความยากคือวันแรก 7 ปีก่อนความเข้าใจของพนักงานคือการไปมอบสิ่งของช่วยเหลือชุมชนคือความยั่งยืน แต่วันนี้ทุกคนเริ่มรู้จักและเข้าใจแผนงานความยั่งยืน รวมถึงเป้าหมายด้วย”

ตัวอย่างแผนธุรกิจที่ตอบโจทย์ความยั่งยืนผ่านผลิตภัณฑ์ฮีโร่ คือเครื่องดื่มบำรุงกำลัง M-150 ที่ทีมวิจัยและพัฒนาสินค้า(R&D)ได้ปรับสูตรลดน้ำตาลจาก 11-12% เหลือเพียง 6% บรรลุเป้าหมายปี 2568 แล้ว มองก้าวจะปรับสูตรลดน้ำตาลเหลือ 5%

“ทุกคนทราบภาษีน้ำตาลจะทำให้ต้นทุนสูง ใส่น้ำตาลมาก จ่ายภาษีมาก แต่เราทำโดยไม่มองการบังคับใช้ภาษีความหวานเราทำเพราะเห็นคุณค่าการส่งต่อผลิตภัณฑ์ที่ดีถึงผู้บริโภค”

ด้านบรรจุภัณฑ์ เช่น ขวดแก้วมีการดีไซน์เพื่อลดน้ำหนักลง 15% แต่คุณภาพดังเดิม ตระหนักการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการเก็บขวดแก้วกลับเข้าสู่ระบบ จากจุดแข็งมีโรงงานผลิตขวดแก้ว โรงรับซื้อเศษแก้ว ฯ เรื่องนี้เป็นโจทย์ท้าทายอย่างยิ่ง

“การเปลี่ยนแปลงบริบทโลก เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม การที่เราเตรียมตัวก่อนมีกฎหมายบังคับ หรือเป็นแรงกดดัน จะทำให้เรามีต้นทุนที่ต่ำกว่า และการเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน เป็นสิ่งที่เราทำตามธรรมชาติ ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น”