เปิดอันดับ 'น้ำจืดสำรอง' ไทยมีน้อยกว่าหลายชาติ เพื่อนบ้านแซงหน้า

น้ำจืดถือเป็นหนึ่งในทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของโลก แต่การกระจายตัวกลับไม่เท่าเทียมกัน บางประเทศอุดมไปด้วยทะเลสาบ แม่น้ำ และธารน้ำแข็ง ขณะที่อีกหลายประเทศต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนน้ำอย่างรุนแรง ความไม่สมดุลนี้ส่งผลต่อทั้งการเกษตร การผลิตไฟฟ้า และความมั่นคงทางอาหารของผู้คนทั่วโลก

อ้างอิงข้อมูลจากธนาคารโลก ปี 2022 ปัจจุบันมีการประเมินว่า น้ำบนโลกมีเพียง 2.5% เท่านั้นที่เป็นน้ำจืด และส่วนใหญ่เก็บกักอยู่ในรูปของธารน้ำแข็ง น้ำแข็งขั้วโลก และน้ำใต้ดิน

ข้อมูลจากธนาคารโลกและ FAO Aquastats สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำอย่างชัดเจนของทรัพยากรน้ำจืดในภูมิภาคเอเชีย โดยจีนครองอันดับหนึ่งด้วยปริมาณน้ำจืดสำรองถึง 2,813 พันล้านลูกบาศก์เมตร ตามมาด้วยอินโดนีเซียและอินเดีย ที่มีทรัพยากรน้ำหมุนเวียนมหาศาลเช่นกัน สะท้อนถึงอิทธิพลของภูมิประเทศขนาดใหญ่และระบบแม่น้ำที่ซับซ้อน

ขณะที่ บังกลาเทศ เมียนมา และมาเลเซีย ยังคงมีน้ำจืดในระดับสูงจากฝนชุกและพื้นที่ชุ่มน้ำจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม หลายประเทศในภูมิภาคเดียวกัน เช่น ไทย ลาว และกัมพูชา มีปริมาณน้ำจืดสำรองน้อยกว่า แม้จะมีแม่น้ำโขงเป็นแหล่งหลักก็ตาม

ส่วนประเทศพัฒนาแล้วอย่าง ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ มีทรัพยากรน้ำจำกัดเนื่องจากพื้นที่ภูเขาและความหนาแน่นของประชากร ขณะที่ สิงคโปร์ มีน้ำจืดเพียง 1 พันล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการพึ่งพาการนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำและการนำเข้าน้ำจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมนี้จึงชี้ให้เห็นว่า แม้เอเชียจะมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่หลายแห่ง แต่การเข้าถึงและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจืดอย่างยั่งยืนยังเป็นความท้าทายสำคัญของภูมิภาค

จัดอันดับปริมาณน้ำจืดสำรองของประเทศในเอเชีย (หน่วย: พันล้านลูกบาศก์เมตร)

• จีน – 2,813
• อินโดนีเซีย – 2,019
• อินเดีย – 1,446
• บังกลาเทศ – 1,227
• เมียนมา – 1,003
• มาเลเซีย – 580
• ฟิลิปปินส์ 479
• เวียดนาม – 359
• ญี่ปุ่น 430
• ไทย – 225
• ลาว 190
• กัมพูชา 121
• เกาหลีเหนือ 67
• เกาหลีใต้ 65
• สิงคโปร์ 1