มูลนิธิผืนป่าในใจเรา สร้างแรงบันดาลใจอนุรักษ์ โชว์ไอเดียรักษ์โลกใน SX2025

มูลนิธิผืนป่าในใจเรา (Forest in Our Hearts Foundation) เป็นองค์กรที่มุ่งมั่นด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าไม้ เพื่อปลูกจิตสำนึกและความเข้าใจในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ในปีนี้มูลนิธิได้เข้าร่วมภารกิจอนุรักษ์ในงาน SUSTAINABILITY EXPO 2025 (SX2025) มหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน

บูทของมูลนิธิถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และลงมือทำ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสแนวคิดความยั่งยืนในชีวิตประจำวัน ผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น เวิร์กช็อปศิลปะจากธรรมชาติ การเพนต์กระเป๋าผ้าด้วยสีน้ำจากธรรมชาติ และการเรียนรู้เทคนิค Natural Printing จากดอกไม้และใบไม้จริง เพื่อสร้าง "ผืนป่าในใจเรา" ลงบนกระเป๋าผ้าที่สะท้อนวิถีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง

สินค้าสนับสนุนภารกิจ

ภายในบูธมีการจำหน่ายสินค้าเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน ได้แก่ พวงกุญแจ Upcycled ที่ทำจากเศษผ้าเหลือใช้ เป็นการสนับสนุนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนและลดปริมาณขยะ เมล็ดผักปลูกง่ายสำหรับชาวเมือง ที่เหมาะสมกับการปลูกในพื้นที่จำกัด ในเขตเมือง เพื่อส่งเสริมการพึ่งพาตนเองและการมีพื้นที่สีเขียวส่วนตัว

ทุกยอดการซื้อสินค้าและการบริจาค ในงาน SX2025 มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะนำไปสมทบทุนเพื่อขับเคลื่อน ภารกิจหลัก และการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งรวมถึงการขยายผลโครงการปลูกกล้าไม้ผสมเชื้อเห็ดไมคอร์ไรซา การจัดอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์ ตลอดจนการดำเนินงานเพื่ออนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การสนับสนุนของท่านจึงเป็นการลงทุนเพื่อความยั่งยืนทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจของประเทศไทย

สานต่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน

มูลนิธิผืนป่าในใจเรา (Forest in Our Hearts Foundation) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2563 ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นในการสร้างความอุดมสมบูรณ์และความยั่งยืนให้กับผืนป่าและสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย เป้าหมายสูงสุดของมูลนิธินั้นลึกซึ้งกว่าการปลูกต้นไม้ธรรมดา แต่เป็นการ "ปลูกป่าในใจคน" เพื่อสร้างรากฐานของการอนุรักษ์ที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงและต่อเนื่องจากจิตสำนึก

โดยในการดำเนินงานของมูลนิธิอาศัยกลไกสำคัญสามด้านที่ผนวกเข้าด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนภารกิจอย่างเป็นระบบ

1. การบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

มูลนิธิฯ ตระหนักดีว่าการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องอาศัยพลังของคนทั้งชาติ จึงวางบทบาทของตนเองให้เป็น ศูนย์กลางในการเชื่อมโยงพลังจาก 5 ภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคม และ ประชาชน ทั่วไป การผนึกกำลังเหล่านี้ช่วยให้เกิดการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งและครอบคลุม ทั้งในด้านนโยบาย การสนับสนุนทรัพยากร การวิจัย และการลงมือปฏิบัติจริงในพื้นที่

2. การประยุกต์ใช้นวัตกรรมและวิทยาศาสตร์เพื่อการฟื้นฟู

มูลนิธิฯ ให้ความสำคัญกับการใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของการฟื้นฟูผืนป่า ตัวอย่างที่โดดเด่นและเป็นหัวใจสำคัญของโครงการคือการนำ กล้าไม้ผสมเชื้อเห็ดไมคอร์ไรซา มาใช้ในการปลูกป่าไมคอร์ไรซาเป็นเชื้อราที่มีชีวิตร่วมกับรากพืช ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมน้ำและแร่ธาตุให้กับต้นไม้ ทำให้กล้าไม้แข็งแรงและเติบโตได้ดีขึ้นในพื้นที่เสื่อมโทรม

นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่า ให้กลับคืนมา แต่ยังเป็นช่องทางในการสร้าง รายได้ในระยะยาว ให้กับชุมชนที่ร่วมโครงการ เนื่องจากเชื้อเห็ดที่ผสมเข้าไปนั้นเป็นเห็ดที่สามารถบริโภคได้ เช่น เห็ดตะไคล เห็ดระโงก และเห็ดตับเต่า ชุมชนจึงได้รับผลผลิตเห็ดที่สร้างรายได้ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาป่า

3. การสร้างจิตสำนึกและการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ชุมชน

เพื่อสร้างการอนุรักษ์ที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง มูลนิธิฯ ได้ดำเนินการจัด กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ อย่างต่อเนื่อง เพื่อ ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าพื้นถิ่น อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ ความรู้เหล่านี้ถูกส่งต่อไปยัง เยาวชนและชุมชน ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ การให้ความรู้ที่ลงลึกทำให้ชาวบ้านและเยาวชนเข้าใจถึงคุณค่าของป่าและความสำคัญของระบบนิเวศในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งเป็น รากฐานสำคัญที่สุด ในการสร้างผู้ดูแลผืนป่าในระยะยาวตามแนวคิด "การปลูกป่าในใจคน" อย่างแท้จริง

 

 

ผู้เขียน: ศุภชัย วงษ์โนนงิ้ว นักศึกษาฝึกงาน กรุงเทพธุรกิจ