Krungsri ESG Awards ปีที่ 3 เปิดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ดันไทยสู่อนาคตยั่งยืน

Krungsri จัดงาน Krungsri ESG Awards ต่อเนื่องปีที่ 3 พร้อมเปิดเวที Minute of Changes ให้ผู้นำ SME ต้นแบบ ที่มีความโดดเด่นในการขับเคลื่อน ESG ดันไทยสู่อนาคตอย่างยั่งยืน
โอกาสครบรอบ 80 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจของ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในการให้บริการทางการเงินแก่ลูกค้าในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน ธนาคารได้ประกาศวิสัยทัศน์มุ่งสู่การเป็น "ธนาคารแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน" จัดงาน Krungsri ESG Awards ต่อเนื่องปีที่ 3 พร้อมเปิดเวที Minute of Changes ให้ผู้นำ SME ต้นแบบ ซึ่งมีความโดดเด่นในการขับเคลื่อน ESG อย่างเป็นรูปธรรมและเห็นผลจริง มาแสดงวิสัยทัศน์ และนำเสนอแผนเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ความยั่งยืนในการตัดสินรางวัลรอบสุดท้ายของโครงการ Krungsri ESG Awards ในปีนี้ ต่อคณะกรรมการ คอมเมนเตเตอร์ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ประกอบธุรกิจจากหลากหลายอุตสาหกรรม
นอกจากนั้น ภายในงานยังมีพิธีมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Krungsri ESG Academy เพื่อส่งเสริมแนวทางการดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งสะท้อนถึงบทบาทของกรุงศรีในฐานะพันธมิตรที่พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยในการปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว พร้อมตอกย้ำว่าแนวทาง ESG คือสิ่งจำเป็นเร่งด่วนในการรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและภัยพิบัติที่ใกล้ตัวมากขึ้น
หนุนผู้ประกอบการสู่ความยั่งยืน
ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) ไม่ใช่เพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญเพื่อรับมือกับความท้าทายของโลกยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ลูกค้า นักลงทุน และพันธมิตรทางธุรกิจให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น ดังนั้น SMEs ที่สามารถปรับตัวตามหลัก ESG ได้อย่างจริงจัง ไม่เพียงจะลดต้นทุนหรือความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ แต่ยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนใหม่ๆ ขยายตลาด และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว
"ผู้ประกอบการ SME ถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในระดับชุมชน และสังคม ดังนั้นโครงการ Krungsri ESG Awards และ ESG Academy จึงมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้ และศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการในการจัดทำแผนการเปลี่ยนผ่าน (Transition Plan) สู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนต้องอาศัยการลงมือทำอย่างจริงจัง และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องมี commitment จากฝ่ายบริหารถึงจะเกิดได้จริง"
โครงการนี้มุ่งสร้างบรรทัดฐานใหม่ของการทำธุรกิจสู่ความยั่งยืน และชื่นชมความมุ่งมั่นของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการทุกคน โดยเปรียบเทียบเส้นทางนี้ว่า เป็นเส้นทางที่ยาวไกล ไม่เพียงต้องอาศัยความมุ่งมั่น แต่ต้องอาศัยทั้งเจตนารมณ์ ทั้งความเสียสละอย่างจริงจัง ซึ่งธนาคารกรุงศรีพร้อมจะเคียงข้าง และให้กำลังใจท่านบนเส้นทางนี้เสมอ
ESG Academy สร้างแรงบันดาลใจ
ซาโตชิ คิซึกิ รองประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวถึง ความมุ่งมั่นของธนาคารกรุงศรีในการเสริมสร้างศักยภาพธุรกิจให้สามารถเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนได้จริงว่า ธนาคารพร้อมสนับสนุนทั้งด้านการเงิน และไม่ใช่การเงินผ่านโครงการต่างๆ ด้วยความทุ่มเทของผู้เข้าร่วมโครงการ ESG Academy ทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนการเปลี่ยนผ่านธุรกิจที่ผู้ประกอบการได้พัฒนาขึ้นมา ไม่ใช่เพียงแผนงานธรรมดา แต่เป็นข้อมูลเชิงลึก การวิเคราะห์อย่างเข้มข้น และผลงานที่เกิดจากความมุ่งมั่นในการสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน ภารกิจของโครงการนี้คือ การสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความพยายามด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง และกระตุ้นให้ธุรกิจทั้งหมดตระหนักถึงความเร่งด่วนของการปฏิบัติในเรื่องนี้
Krungsri ESG Award ปี 3
สำหรับเวที Krungsri ESG Award: Minute of Change ในปีนี้มี 8 SME ต้นแบบที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมนำเสนอแผนการเปลี่ยนผ่าน และแนวคิดธุรกิจอย่างเข้มข้น และน่าประทับใจ ภายในงานได้เผยให้เห็นถึงบริษัทต้นแบบที่ลงมือทำจริงตามแนวทาง ESG และสามารถสร้างผลลัพธ์ที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งยังได้รับข้อเสนอแนะอันทรงคุณค่า และแรงบันดาลใจจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งช่วยต่อยอดแนวคิดให้ผู้เข้าร่วมทุกคนเห็นแนวทางในการพัฒนาธุรกิจสู่ความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน
สำหรับรางวัล ESG Excellence Performance ในปีนี้ มอบให้แก่ 5 บริษัทต้นแบบที่แสดงศักยภาพโดดเด่น ได้แก่ บริษัท คิงสเตลล่า กรุ๊ป จำกัด บริษัท ท่าฉาง กรีน เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด บริษัท ลายวิจิตร จำกัด บริษัท ตั้งต้นดี เพื่อสังคม จำกัด และ บริษัท แสงเจริญแกรนด์ จำกัด
นอกจากนี้ ยังมีอีก 19 บริษัทที่ได้รับรางวัล Highly Commended ESG Performance และอีก 46 บริษัทที่ผ่านการอบรมหลักสูตร Krungsri ESG Academy พร้อมรับเกียรติบัตรในฐานะผู้ประกอบการที่มุ่งมั่นนำนโยบาย ESG ไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจอย่างจริงจัง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวของแนวทางธุรกิจยั่งยืนในกลุ่ม SME ไทยอย่างต่อเนื่อง และเข้มแข็งผ่านการร่วมผลักดันของกรุงศรี
ESG ไม่ใช่ต้นทุน แต่คือโอกาส
ภายในงานยังมีการสัมมนาในหัวข้อ Business Transition Talk โดย ปุณพจน์ ศิริอำพันธ์กุล ผู้บริหารสายงานลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ มันตินี อัครเสริญ ผู้บริหารสายงานการตลาดลูกค้าธุรกิจ มาร่วมถ่ายทอดแนวคิดสำคัญที่ว่า ESG ไม่ใช่ต้นทุน แต่คือการลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกับความผันผวนและไม่แน่นอนอย่างยิ่ง
ปุณพจน์ อธิบายถึงบทบาทของธนาคารกรุงศรีในฐานะพันธมิตร ESG แบบครบวงจร ที่พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ในทุกมิติ ว่าประกอบด้วย Knowledge - การจัด Krungsri ESG Academy เพื่อให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติที่จับต้องได้, Framework - การออกแบบกระบวนการวางแผนและประเมินผล ESG อย่างเป็นระบบ โดยแนะนำให้ใช้หลัก Plan-Do-Check-Act (PDCA) รวมถึงการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ และมีกรอบเวลา และ Funding - การสนับสนุนด้านการเงิน เช่น สินเชื่อพิเศษสำหรับธุรกิจที่ดำเนินงานตามแนวทาง ESG รวมถึงการจัดเวทีอย่าง Krungsri ESG Award เพื่อยกย่องและสร้างแรงบันดาลใจ
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจที่ยั่งยืน ธนาคารกรุงศรีฯ ก็มีกลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อ Krungsri SME Sustainability Loan for All ที่ตอบโจทย์ความต้องการหลากหลาย โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก:
- Krungsri SME Sustainability Businesses : สำหรับธุรกิจที่เป็นผู้ผลิตหรือให้บริการโซลูชันด้านความยั่งยืนโดยเฉพาะ เช่น ธุรกิจพลังงานสะอาด ยานยนต์ไฟฟ้า หรือรีไซเคิล เพื่อใช้เป็นเงินทุนขยายกิจการ
- Krungsri SME for PPA : สำหรับธุรกิจที่ลงทุนผลิต และขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบ Solar Farm หรือ PPA ให้กับองค์กรขนาดใหญ่
- Krungsri SME Transition Loan : สำหรับธุรกิจทั่วไปที่ต้องการลงทุนปรับปรุงเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน เช่น การติดตั้งระบบบำบัดน้ำเสีย หรือปรับปรุงอาคาร
- Krungsri SME Solar Rooftop : สำหรับธุรกิจที่ต้องการลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟเพื่อใช้พลังงานทางเลือก และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน
ผลิตภัณฑ์สินเชื่อเหล่านี้มาพร้อมกับวงเงิน และระยะเวลาผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น โดยมีระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 8 ปี อัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ ต่ำสุด 4.5% ใน 2 ปีแรก เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการเริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ คำแนะนำเร่งด่วนสำหรับผู้ประกอบการคือ อย่ารอช้าในการลงมือทำ และให้ปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพราะในโลกธุรกิจปัจจุบัน เวลาคือ สิ่งสำคัญมาก
- มันตินี เน้นย้ำว่า การขับเคลื่อน ESG อย่างแท้จริง ต้องเริ่มจากผู้นำองค์กรที่มีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่น ซึ่ง ESG มีประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมในแต่ละมิติ ได้แก่ ด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental - E): ESG สามารถช่วยลดต้นทุนที่จับต้องได้ เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ และต้นทุนพลังงานอื่นๆ
- ด้านสังคม (Social - S): การดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน ช่วยสร้างแบรนด์ที่มีคุณค่าและความเชื่อมั่นในระยะยาว พร้อมลดความเสี่ยงทางกฎหมายและประเด็นด้านภาพลักษณ์
- ด้านธรรมาภิบาล (Governance - G): ระบบธรรมาภิบาลที่ดีเป็นรากฐานของการเติบโตอย่างยั่งยืน ช่วยลดความเสี่ยงจากการทุจริต และเป็นสิ่งที่นักลงทุนมองหา
การดำเนินจึงโครงการ Krungsri ESG Awards และ Krungsri ESG Academy จึงมุ่งส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจทุกมิติ ESG อย่างรอบด้าน และเห็นผลจริง
- Krungsri ESG Awards : มีเป้าหมายเพื่อยกย่องธุรกิจที่เป็นแบบอย่างในการขับเคลื่อน ESG เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ตระหนักถึงความสำคัญ และนำแนวคิดนี้ไปปรับใช้
- Krungsri ESG Academy: มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งความรู้และศูนย์รวมการอบรมที่เข้มข้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถจัดทำแผนการเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนที่ใช้งานได้จริง
การขับเคลื่อนโดยกรุงศรีผ่านโครงการ Krungsri ESG Awards และ Krungsri ESG Academy สะท้อนให้เห็นว่าการสร้างความยั่งยืนไม่ใช่แค่การลงมือทำเพียงลำพัง แต่ต้องอาศัยความร่วมมือ ความมุ่งมั่น และการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ซึ่งธนาคารกรุงศรีได้แสดงบทบาทอย่างชัดเจนในการเป็นผู้ขับเคลื่อนและสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง และยั่งยืนในอนาคต
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







