เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมกับภาครัฐ เอกชน ผลักดันการตรวจสอบย้อนกลับตลอดห่วงโซ่อุปทาน

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด (CPP), บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) (BKP) และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ผนึกกำลังความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนขับเคลื่อนการตรวจสอบย้อนกลับใน สปป. ลาว สนับสนุนภาคการเกษตรของลาวให้พร้อมรับระเบียบการค้าและกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่าของอียู EUDR รวมถึงผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่สปป.ลาว ว่ามาจากแปลงปลูกที่ไม่บุกรุกพื้นที่ป่าและไม่มีการเผาแปลง ตามเป้าหมาย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ปี พ.ศ. 2593 หรือ Net Zero 2050 ของเครือเจริญโภคภัณฑ์

โดยสถาบันค้นคว้ากสิกรรม ป่าไม้ และพัฒนาชนบท (NAFRI) กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนจาก เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส และกรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด ร่วมประชุมหารือแลกเปลี่ยนความรู้เทคโนโลยีและกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับด้วยความโปร่งใส เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานในภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร ให้ตรวจสอบย้อนกลับได้ ปราศจากการบุกรุกป่าและเผาแปลง ร่วมแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในภูมิภาคนี้

ดร.โกศล ไสพะกัดสา รองหัวหน้า สถาบัน NAFRI นำคณะตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว กล่าวว่า การพูดคุยครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นการยกระดับการทำเกษตรของสปป.ลาว ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านความยั่งยืน รองรับระเบียบการค้าโลก ด้านสินค้าเกษตรที่ต้องมาจากพื้นที่ไม่บุกรุกป่า

ธนาชัย โกศลวัฒนาธนากร รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจพืชครบวงจร เขตประเทศลาว กล่าวว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ มีปณิธาน 3 ประโยชน์ คือ ประเทศชาติ ประชาชน ในทุกประเทศที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจต้องได้รับประโยชน์ และถึงจะเกิดประโยชน์ต่อบริษัทเป็นลำดับสุดท้าย การพูดคุยในครั้งนี้ ครอบคลุมวัตถุประสงค์ 3 ข้อ

1. ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ระบบตรวจสอบย้อนกลับของธุรกิจเกษตร ซึ่งเป็นต้นน้ำของการผลิตอาหาร
2. แลกเปลี่ยนความรู้ด้านกระบวนการและเทคโนโลยีที่จะสร้างความโปร่งใสในระบบตรวจสอบย้อนกลับ 
3. การติดตามการเผาแปลงด้วยจุดความร้อน (Hot Spot) จากภาพถ่ายดาวเทียม ร่วมจัดการปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง PM 2.5

ภาสกร สาตร์พันธ์ รองกรรมการผู้จัดการด้านความยั่งยืนบริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) และผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิสารสนเทศ ของกรุงเทพโปรดิ๊วส นำระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นตั้งแต่ปี 2559 มาให้ผู้เข้าร่วมการประชุมทดลองใช้งานระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การบันทึกข้อมูลตั้งแต่แหล่งเพาะปลูก ความร่วมมือกับคู่ค้าและผู้รวบรวม ในการบันทึกข้อมูลและตรวจสอบการเผาแปลงด้วยจุดความร้อนจากภาพถ่ายดาวเทียม แจ้งเตือนและติดตามเกษตรกรที่เผาแปลงเทคโนโลยีตรวจสอบการเผาแปลงผ่านห้องปฎิบัติการตรวจสอบย้อนกลับ จนถึงการจัดเก็บข้อมูลบน Blockchain โปร่งใสทุกขั้นตอนตลอดห่วงโซ่อุปทานข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่แหล่งเพาะปลูกจนถึงโรงงานอาหารสัตว์ซีพีเอฟ

พิไลลักษณ์ พิชัยวัตต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เข้าพบ บุนจัน กรมบุนยะสิด หัวหน้ากรมปลูกฝัง กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว นำเสนอรูปแบบโครงการเพื่อกำหนดเป้าหมาย กรอบระยะเวลา และการวางแผนสู่การปฏิบัติระบบตรวจสอบย้อนกลับ

ทั้งนี้ ภาครัฐของ สปป.ลาว ต้องการสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีจาก เครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อยกระดับสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของประเทศลาวให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลด้านความยั่งยืนและการผลิตที่โปร่งใส