ออกแบบจากท้องถิ่น 'Bioregional' นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม-คุณภาพชีวิต
การออกแบบชีวภูมิภาค คือการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรม ภูมิทัศน์ และโครงสร้างพื้นฐานให้กลมกลืนกับวัสดุ วัฒนธรรม และความยั่งยืนของท้องถิ่น แนวคิดนี้กำลังเป็นที่จับตาในยุคที่โลกเผชิญวิกฤตสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
KEY
POINTS
- การออกแบบชีวภูมิภาคปรับสถาปัตยกรรม ภูมิทัศน์ และโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้องกับวัสดุระดับภูมิภาค วัฒนธรรมท้องถิ่น และความยั่งยืน
- การสร้างโดยคํานึงถึงชีวภูมิภาคกําลังได้รับความสนใจเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการหยุดชะงักของโลก
- การปรับขนาดการออกแบบชีวภูมิภาคจากแนวปฏิบัติเฉพาะไปสู่ระบบนิเวศที่แข็งแกร่งสร้างตลาดใหม่รวมถึงจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ ไม่นานมานี้ "การออกแบบชีวภูมิภาค" เป็นวิธีเดียวที่มนุษย์สร้างที่อยู่อาศัยของพวกเขา แต่โลกาภิวัตน์ของวัสดุอุตสาหกรรม เช่น คอนกรีต แก้ว และเหล็ก ได้เข้ามาแทนที่แนวปฏิบัติด้านการก่อสร้างแบบช่างฝีมือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความทันสมัยกลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและความก้าวหน้า
ทุกวันนี้ การออกแบบชีวภูมิภาคเป็นแนวทางเฉพาะ แต่กําลังเติบโตในการวางแผนและการออกแบบที่สอดคล้องกับการพัฒนาที่อยู่อาศัยของมนุษย์ เช่น สถาปัตยกรรม ภูมิทัศน์ และโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยวัสดุระดับภูมิภาค การใช้งานที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม และกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ
ในขณะที่แนวทางการออกแบบชีวภูมิภาคแบบดั้งเดิมได้อดทนในบางสถานที่เนื่องจากความจําเป็นหรือความมุ่งมั่นในศิลปะ เวอร์ชันร่วมสมัยมากขึ้นได้รับสกุลเงินเพื่อแก้ปัญหาการลดคาร์บอน และเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นวิธีปรับปรุงการพึ่งพาตนเองเนื่องจากความไม่มั่นคงของโลก
การขยายขนาดศิลปะการออกแบบชีวภูมิภาคที่เกือบจะสูญหายไป ขัดแย้งกัน จําเป็นต้องมีการแลกเปลี่ยนความรู้ระดับโลกของแนวปฏิบัติและนวัตกรรมแบบดั้งเดิมรวมกับแอปพลิเคชันและนโยบายในท้องถิ่น
บทเรียนเพื่อพัฒนาการออกแบบชีวภูมิภาค
1. ความรู้ระดับโลกคือกุญแจสําคัญ
แนวปฏิบัติในการสร้างชีวภูมิภาคขึ้นอยู่กับการแลกเปลี่ยนความรู้ระดับโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างชีวภูมิภาคที่มีสภาพภูมิอากาศและทรัพยากรวัสดุที่คล้ายคลึงกัน ตัวอย่างเช่น การถ่ายโอนกระบวนการพัฒนาระบบนิเวศไม้จํานวนมากจากยุโรปไปยังอเมริกาเหนือนั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา เนื่องจากประสิทธิภาพการผลิตและวัสดุยังคงเหมือนเดิม
2. แอปพลิเคชันระดับภูมิภาคต้องการนโยบายที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม การใช้งานระดับภูมิภาคต้องการนโยบายที่กําหนดเองและรหัสอาคารเพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพและความไว้วางใจในแนวทางปฏิบัติในการก่อสร้าง ตัวอย่างเช่น อาคารกรอบงานผ่านการทดสอบอัคคีภัย การระเบิด และแผ่นดินไหวอย่างเข้มงวดเพื่อได้รับการอนุมัติในปี 2559 ซึ่งแจ้งรหัสอาคารในภูมิภาคอื่น ๆ ของสหรัฐอเมริกา ยังไม่ได้สร้าง Framework เป็นตัวอย่างของต้นแบบโครงการที่สร้างเส้นทางการอนุมัติ
3. ความหลากหลายในวัสดุ
ในขณะที่ไม้มวลเป็นวัสดุชีวภูมิภาคในเชิงพาณิชย์และวิศวกรรมมากที่สุด แต่วิถีที่คล้ายกันกําลังดําเนินอยู่กับหิน เช่นเดียวกับไม้จํานวนมาก ตอนนี้สิ่งนี้กําลังเกิดขึ้นผ่านการถ่ายทอดความรู้ระหว่างประเทศเกี่ยวกับทักษะการก่ออิฐแบบดั้งเดิม การทดลองในท้องถิ่นเพื่อพิสูจน์ความเป็นไปได้และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่ช่วยให้มีความก้าวหน้าต่อไป
รูปแบบนี้จะดําเนินต่อไปกับวัสดุชีวภาพอื่น ๆ ในขณะที่ผลักดันไปสู่วิธีการก่อสร้างที่มีผลกระทบต่ำ
คิดค้นทักษะงานฝีมือใหม่
เบลเยียมพัฒนานวัตกรรม อิฐคาร์บอนต่ำ โดยไม่เผา แต่ใช้การบ่มด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ลดพลังงานและมลพิษอย่างมาก ปัจจุบันกำลังขยายการผลิตเพื่อใช้ในโครงการใหญ่ เช่น รถไฟฟ้าใต้ดินบรัสเซลส์ และได้รับความร่วมมือจากอุตสาหกรรมเดิม ถือเป็นก้าวสำคัญสู่วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตัวขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและกําลังคน
มหาวิทยาลัยที่มีคาร์บอนบวกแห่งแรกของโลกคือสถาบันการเกษตรอนุรักษ์รวันดา วิทยาเขตขนาด 3,400 เอเคอร์ที่สร้างขึ้นโดย MASS Design Group บริษัทสถาปัตยกรรมที่ไม่แสวงหาผลกําไรแห่งนี้เป็นผู้บุกเบิกแนวทางการพัฒนากําลังคนและเศรษฐกิจในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางสังคมโดยใช้การออกแบบชีวภูมิภาค
อาคารทั้งหมดในวิทยาเขตสร้างขึ้นโดยใช้วัสดุคาร์บอนต่ำ รวมถึงฐานรากหิน กําแพงดิน และไม้ เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของงบประมาณ 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐของโครงการถูกใช้ไปภายในระยะ 500 ไมล์จากวิทยาเขต
MASS ได้ฝึกอบรมคนงาน 300 คน (16% เป็นผู้หญิง) ในวิธีการก่อสร้างที่ยั่งยืนเพื่อส่งมอบโครงการสิ่งนี้กลายเป็นโอกาสสําหรับการทดลองและการพัฒนาตลาดท้องถิ่นสําหรับทักษะที่ได้มาใหม่เหล่านี้ การทํางานกับวัสดุ เช่น ดินเผาและไม้
นอกเหนือจากการใช้วัสดุที่มาจากภูมิภาคแล้ว วิทยาเขตยังฟื้นฟูระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพด้วยสายพันธุ์พื้นเมืองและพื้นที่ชุ่มน้ํา โครงการนี้สร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นของความรู้ด้านการก่อสร้างที่ยั่งยืนในชีวภูมิภาค และได้จุดประกายความคิดใหม่เกี่ยวกับวิธีการสร้างด้วยวัสดุชีวภาพในท้องถิ่นและคนงานในท้องถิ่นที่มีทักษะใหม่
พลังของไบโอฟีเลีย
หัวข้อที่ชัดเจนตลอดแนวทางการออกแบบชีวภูมิภาคคือพลังของ biophilia - ความสัมพันธ์โดยกําเนิดของมนุษย์กับวัสดุธรรมชาติและวิธีที่ขับเคลื่อนการใช้รูปแบบ biomorphic ในสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
ในขณะที่แรงดึงดูดของเราที่มีต่อธรรมชาติเป็นที่เข้าใจอย่างสังหรณ์ใจ การวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับประสาทวิทยาทางปัญญาและจิตวิทยาสิ่งแวดล้อมแสดงให้เห็นว่าสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นสามารถส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ที่ดีทางร่างกายและอารมณ์ของเราอย่างไรให้ดีขึ้นหรือแย่ลง
เป็นสิ่งสําคัญที่รวบรวมเจตจํานงทางเทคนิค สังคม และวัฒนธรรมเพื่ออัปเดตกฎระเบียบ เศรษฐกิจ และกรอบงานเพื่อให้เราสามารถรวมวัสดุธรรมชาติเพื่อตอบสนองช่วงเวลาปัจจุบัน
ที่มา : Strategies for City Builders