‘ซูเปอร์คอมพิวเตอร์’ ของ ‘อีลอน มัสก์’ ปล่อย ‘มลพิษ’ ทำลายสุขภาพประชาชน

“xAI” ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ของ “อีลอน มัสก์” ใช้ช่องว่างทางกฎหมายปล่อยมลพิษทำลายสุขภาพประชาชน โดยรัฐเอื้อประโยชน์ ลดเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อให้ได้รับใบอนุญาต

KEY

POINTS

บริษัทปัญญาประดิษฐ์ “xAI” ของ “อีลอน มัสก์” ปล่อยมลพิษทางอากาศ และเป็นผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเมมฟิส
พร้อมใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายในการติดตั้งกังหันก๊าซขับเคลื่อนด้วยก๊าซมีเทนหลายตัว และยื่นขอใบอนุญาตคุณภาพอากาศเพื่อใช้งานกังหัน 15 เครื่องอย่างถาวร
ศูนย์ข้อมูลของ xAI ได้รับพลังงาน 150 เมกะวัตต์ ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้ในบ้านเรือนประมาณ 100,000 หลัง และใช้น้ำในการผลิตประมาณ 3,785,412 ลิตรต่อวัน

“อีลอน มัสก์” มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ซื้อโรงงานเก่าในเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี และใช้เป็นที่ตั้งของบริษัทปัญญาประดิษฐ์ “xAI” พร้อมแปลงโฉมอาคารแห่งนี้ให้กลายเป็นสิ่งที่มัสก์เรียกว่า “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก” โดยตั้งชื่อว่า “Colossus” เคลมว่าเป็น “ระบบฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงพลังที่สุดในโลก”

นายกเทศมนตรีเมืองเมมฟิส พอล ยังสนับสนุนการมาของ xAI เพราะสร้างตำแหน่งงานที่มีรายได้สูงหลายร้อยตำแหน่ง คาดว่าในปีแรกจะสร้างเงินภาษี 30 ล้านดอลลาร์ พร้อมนำการลงทุนมาสู่พื้นที่ที่มีปัญหา การฝึกอบรมงานด้าน AI สำหรับเยาวชน และเงินทุนเพื่อปรับปรุงมลภาวะในอากาศภายในอาคาร เขาเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างการเปลี่ยนแปลง และช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์

แม้จะช่วยสร้างงานสร้างอาชีพในเมืองแห่งนี้ แต่สำหรับผู้คนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เช่น เมืองบ็อกซ์ทาวน์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่คนผิวดำส่วนใหญ่มีรายได้น้อย กำลังประสบปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์แห่งนี้

เมืองเมมฟิสเป็นที่ตั้งของโรงงานที่ก่อมลพิษ 17 แห่งแล้ว และตอนนี้กำลังเผชิญโครงการเอไออีก ซาราห์ แกลดนีย์ อาศัยอยู่ใกล้ xAI และป่วยเป็นโรคปอด กล่าวว่า “ไม่มีใครเคยคำนึงถึงสุขภาพจองพวกเขา และไม่มีใครสนใจความปลอดภัยในชุมชนของเรา”

นี่เป็นสถานการณ์ที่สหรัฐอาจต้องคุ้นเคย เมื่อรัฐบาลทรัมป์เข้าข้างบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ และลดระดับเกณฑ์การปกป้องสิ่งแวดล้อม เพื่อการแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์

ที่ตั้งของ xAI ในเมมฟิส
เครดิตภาพ: xAI

ลี เซลดิน ผู้บริหารสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมประกาศเมื่อเดือนมีนาคม ว่า เขายินดีที่จะลดมาตรฐานคุณภาพอากาศลง เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขออนุญาตการดำเนินการด้านพลังงาน ซึ่งทำให้ผู้ผลิตพลังงานบางรายใช้อาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายในการดำเนินธุรกิจ

คำกล่าวเหล่านี้สอดคล้องกับการผลักดันของมัสก์ และบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายอื่นๆ ที่จะนำไปสู่ยุคใหม่ของการประมวลผลแบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ด้วยการรันโปรแกรมเอไอที่ใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของฟิสิกส์ควอนตัมด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน แน่นอนว่าการดำเนินการเหล่านี้ใช้ปริมาณน้ำ และพลังงานมหาศาล ทำให้เกิดความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง

ปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลของ xAI ได้รับพลังงาน 150 เมกะวัตต์ จากบริษัทสาธารณูปโภคในท้องถิ่น Memphis Light, Gas and Water (MLGW) ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้ในบ้านเรือนประมาณ 100,000 หลัง และใช้น้ำในการผลิตประมาณ 3,785,412 ลิตรต่อวัน โดย MLGW ระบุว่าได้ศึกษาผลกระทบอย่างรอบคอบ พร้อมระบุว่ากำลังรออนุมัติให้ผลิตกำลังไฟฟ้าเพิ่มอีก 150 เมกะวัตต์

สมาชิกรัฐสภา จัสติน เพียร์สัน ซึ่งอาศัยอยู่ห่างออกไป 3 ไมล์ กังวลเป็นพิเศษเกี่ยวกับการใช้พลังงานของ xAI เนื่องจากโครงข่ายไฟฟ้าไม่เสถียรเพียงพออยู่แล้ว ทำให้ในช่วงหลังเกิดไฟฟ้าดับเป็นระยะๆ

เพียร์สัน และคนในชุมชนต้องการให้กรมอนามัยของเทศมณฑลเชลบี ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลด้านกฎระเบียบ กำหนดให้ xAI ต้องได้รับใบอนุญาตที่เหมาะสม และปฏิบัติตามการปกป้องคุณภาพอากาศที่กฎหมายของรัฐ และของรัฐบาลกลางกำหนด ชุมชนเข้าร่วมการฟังความคิดเห็นสาธารณะ และการประชุมสภาก่อนหน้านี้ ซึ่งกรมอนามัยประกาศว่าได้รับความคิดเห็นจากประชาชน 1,700 คน และจะใช้เวลาอีก 60 วันในการตรวจสอบใบอนุญาตให้เสร็จสิ้น

ศูนย์ข้อมูล xAI
เครดิตภาพ: Steve Jones, Flight by Southwings for SELC

แต่มัสก์ไม่หยุดเพียงแค่นี้ เขาประกาศว่า สร้างโรงงานแห่งที่สองของ xAI ในเมือง และกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Digital Delta” ซึ่งโรงงานใหม่ในเมมฟิสเป็นส่วนหนึ่งของแผนการก้าวเป็นผู้นำโลกเอไอของมัสก์ และใช้เป็นแหล่งพลังงานให้กับแชตบอตของ xAI ที่ชื่อว่า Grok ที่ตั้งใจจะแซงหน้า ChatGPT ให้ได้

ระหว่างที่รอ MLGW หาพลังงานเพิ่ม บริษัทได้พบช่องโหว่ในพระราชบัญญัติอากาศสะอาด โดยใช้ช่องโหว่นั้นในการติดตั้งกังหันก๊าซขับเคลื่อนด้วยก๊าซมีเทนหลายตัว และยื่นขอใบอนุญาตคุณภาพอากาศเพื่อใช้งานกังหัน 15 เครื่องอย่างถาวร

ในเดือนมีนาคม 2025 ศูนย์กฎหมายสิ่งแวดล้อมภาคใต้ (SELC) และนักบินอาสาสมัครได้ถ่ายภาพทางอากาศ ซึ่งแสดงให้เห็นกังหันก๊าซ 33 ตัวจากทั้งหมด 35 ตัวปล่อยความร้อนออกมาในปริมาณมาก โดยสามารถผลิตไฟฟ้าได้มากถึง 420 เมกะวัตต์ เท่ากับโรงไฟฟ้าขนาดกลางถึงขนาดใหญ่

แต่นายกเทศมนตรีให้ข้อมูลว่า บริษัทแจ้งเขาว่ากังหันก๊าซเพียง 15 ตัวเท่านั้น ที่ทำงานอยู่ และกังหันก๊าซที่เหลือ “ถูกเก็บไว้” ที่โรงงาน

กังหันก๊าซเหล่านี้ปล่อยไนโตรเจนออกไซด์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการหอบหืด เจ็บหน้าอก การทำงานของปอดลดลง และถึงขั้นเสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยกังหันก๊าซสามารถปล่อยมลพิษไนโตรเจนออกไซด์ได้มากถึง 2,000 ตันต่อปี

นอกจากนี้ กังหันยังปล่อยฟอร์มาลดีไฮด์ ซึ่งเป็นสารเคมีก่อมะเร็ง และอนุภาคมลพิษขนาดเล็กที่เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ xAI กลายเป็นผู้ก่อมลพิษรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเทศมณฑล

การวิเคราะห์ของ ProPublica องค์กรนักข่าวสืบสวนสอบสวน พบว่าความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งจากมลพิษทางอุตสาหกรรมในเมืองเมมฟิส สูงกว่าระดับความปลอดภัยที่สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐกำหนดถึง 4.1 เท่า ขณะที่เทศมณฑลเชลบีย์ได้เกรด F สำหรับมลพิษโอโซนจากสมาคมปอดแห่งอเมริกา และมีอัตราการเข้ารักษาในโรงพยาบาลของเด็กด้วยโรคหอบหืดสูงที่สุดในเทนเนสซี

‘ซูเปอร์คอมพิวเตอร์’ ของ ‘อีลอน มัสก์’ ปล่อย ‘มลพิษ’ ทำลายสุขภาพประชาชน ศูนย์ข้อมูล xAI ในเมมฟิส
เครดิตภาพ: Steve Jones, Flight by Southwings for SELC

ชุมชนที่อยู่อาศัยโดยรอบไม่พอใจกับการตั้งศูนย์ข้อมูลนี้ เนื่องจาก xAI ไม่มีใบอนุญาตเกี่ยวกับอากาศ บริษัทดูเหมือนจะใช้ช่องโหว่สำหรับกังหันลมชั่วคราวที่ใช้งานไม่ถึงหนึ่งปี แต่ SELC กล่าวว่า กังหันลมเหล่านี้มีขนาดใหญ่เกินไป และก่อมลพิษเกินกว่าจะผ่านเกณฑ์

อย่างไรก็ตาม มีกังหันลม 12 ตัวถูกรื้อถอนในเดือนพฤษภาคม และนายกเทศมนตรีกล่าวว่า กังหันลมที่เหลือจะถูกรื้อถอนในที่สุด แต่ไม่มีกำหนดเวลาที่ชัดเจน ขณะที่หอการค้าเกรทเตอร์เมมฟิส กล่าวว่า กังหันลมจะเป็นไปตาม มาตรฐานการปล่อยมลพิษชั้นนำของอุตสาหกรรม หลังจากติดตั้งระบบควบคุมมลพิษแล้ว

สำหรับสมาชิกสภาเพียร์สัน สถานการณ์นี้ช่างน่าตกใจ “มันเป็นโรงงานผลิตก๊าซจริง ๆ และตั้งอยู่กลางชุมชน มันไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตเลยเหรอ ผมว่ามันมีบางอย่างล้มเหลวอย่างรุนแรง และมีนัยสำคัญกับระบบการตรวจสอบ และถ่วงดุลของเรา”

เคชอน เพียร์สัน ผู้อำนวยการ Memphis Community Against Pollution กล่าวว่า เมมฟิสตะวันตกเฉียงใต้ต่อสู้เพื่อปกป้องอากาศ ดิน และน้ำที่สะอาดมาอย่างยาวนาน และประสบความสำเร็จมาหลายต่อหลายครั้ง อย่างเช่นในปี 2021 ชาวเมืองต่อต้านโครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันดิบระหว่างเมืองบ็อกซ์ทาวน์ และชุมชนอื่นๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ ส่วนในปี 2023 ชาวเมืองประท้วงให้ปิดโรงงานฆ่าเชื้อทางการแพทย์ ที่ปล่อยสารพิษที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง

“การต่อสู้กับ xAI ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่นี่เป็นการต่อสู้ครั้งล่าสุด ทุกคนทำเหมือนกับว่าเมมฟิสตะวันตกเฉียงใต้เป็นพื้นที่ต้องเสียสละอยู่เสมอ” เพียร์สัน กล่าว

นอกจากนี้ เพียร์สันยังตั้งข้อสังเกตว่าตำแหน่งงานดีๆ ในดาต้าเซนเตอร์มีอยู่แค่ไม่กี่ตำแหน่งเท่านั้น และงานส่วนใหญ่ท้องถิ่นมีแค่งานทำความสะอาดหรือรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ เขายังกังวลว่าเงินภาษีของ xAI จะไม่สามารถชดเชยปัญหาด้านสุขภาพได้

“นวัตกรรมผูกมัดคุณไว้กับเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ก๊าซมีเทนหรือถ่านหิน นั่นคือ การถดถอยใช่หรือไม่ นั่นไม่ใช่ความก้าวหน้า” เพียร์สัน กล่าว

รัฐบาลทรัมป์ และบริษัทเทคโนโลยีกำลังผลักดันให้สหรัฐเป็นเมืองหลวงของโลกด้านเอไอ อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลเกิดขึ้นทั่วสหรัฐ และจะยิ่งทำให้ความต้องการพลังงานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะยิ่งสร้างผลกระทบทางสภาพภูมิอากาศเพิ่มยิ่งขึ้น แต่สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐให้คำมั่นสัญญาว่าจะปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมต่อไป ขณะเดียวกันก็จะช่วยขับเคลื่อนให้สหรัฐกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

ที่มา: Bloomberg, CNN, NBC News, Techi