'อินเดียเมืองสะอาด' สร้างเมืองน่าอยู่ ลดมลพิษ เพื่อโลกที่ดีกว่า

ศูนย์กลางเมืองในอินเดียอยู่ในระดับแนวหน้าของวิกฤตสภาพภูมิอากาศ เมืองต่างๆ ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ทั่วโลกเกือบ 70% โดย 37% มาจากสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น การขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็วทําให้ระบบนิเวศตึงเครียด

การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น และทวีความรุนแรงขึ้นกับผลกระทบของเกาะความร้อนในเมือง อย่างไรก็ตาม อินเดียยังคงมีโอกาสมากมายเพื่อให้แน่ใจว่าเมืองต่างๆ มีความยืดหยุ่น ด้วย 70% ของโครงสร้างพื้นฐานในเมืองที่จําเป็นภายในปี 2047 ที่ยังไม่ได้สร้าง มีขอบเขตมหาศาลสําหรับกลยุทธ์ที่คํานึงถึงสภาพอากาศที่จะรวมเข้ากับการพัฒนาเมือง

ความท้าทายของคาร์บอนในเมืองต่างๆ ของอินเดีย

ประชากรในเมืองของอินเดียคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 377 ล้านคนในปี 2554 เป็น 590 ล้านคนภายในปี 2573 ซึ่งผลักดันความต้องการที่อยู่อาศัยและโครงสร้างพื้นฐานอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน บูมการก่อสร้างที่เกิดขึ้นมีผลคูณในการเพิ่มคาร์บอนที่เป็นตัวเป็นตนและคาร์บอนในการดําเนินงาน

วงจรชีวิตของวัสดุก่อสร้างรวมถึงการสกัด การแปรรูป การขนส่ง การติดตั้ง และการรื้อถอน การปล่อยมลพิษที่เกิดขึ้นในระหว่างขั้นตอนเหล่านี้เรียกว่าคาร์บอนที่เป็นตัวเป็นตน เป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ต้องใช้วัสดุที่ใช้ทรัพยากรมากจํานวนมาก

คาร์บอนในการดําเนินงานหมายถึงการใช้พลังงานในอาคาร ซึ่งรวมถึงเครื่องทําความร้อน ความเย็น แสงสว่าง และเครื่องใช้ไฟฟ้าและสาธารณูปโภค ในเมือง อาคารมีส่วนรับผิดชอบต่อการปล่อยมลพิษส่วนใหญ่ที่เกิดจากการใช้พลังงาน

เมื่อการกลายเป็นเมืองเร่งขึ้น การจัดการกับทั้งคาร์บอนที่เป็นตัวเป็นตนและการดําเนินงานสามารถกลายเป็นเครื่องมือในการรับรองเมืองที่น่าอยู่ ยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศ และประหยัดพลังงาน

กลยุทธ์สําคัญสําหรับการลดคาร์บอนในสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น

การออกแบบและการวางผังเมืองเป็นปัจจัยสําคัญในการลดการปล่อยมลพิษและเพิ่มความยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศที่รุนแรง การเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว การปรับปรุงผังเมือง และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ที่ดิน สามารถช่วยลดอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นและความต้องการพลังงานได้

ตัวอย่างเช่น ทางเดินสีเขียว พื้นที่ในเมืองที่มีต้นไม้ สวนสาธารณะ และสวนแนวตั้ง สามารถลดอุณหภูมิในท้องถิ่น ปรับปรุงคุณภาพอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพ ในทํานองเดียวกัน การส่งเสริมถนนที่เข้าถึงได้ซึ่งสนับสนุนการปั่นจักรยานและให้ความปลอดภัยแก่คนเดินเท้าสามารถลดการพึ่งพายานพาหนะส่วนตัว และโดยการขยายลดการปล่อยมลพิษ

หลักการออกแบบอาคารสีเขียว การใช้การวางแนวอาคารและเทคนิคสถาปัตยกรรมแบบพาสซีฟ การใช้อุปกรณ์แบ่งปันอย่างมีประสิทธิภาพ กระจกพิเศษสําหรับหน้าต่างและอาคาร การใช้วัสดุมุงหลังคาสะท้อนแสงสูงหรือคลุมหลังคาด้วยสวนระเบียงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพอื่น ๆ ในการลดอุณหภูมิในเมืองและลดความต้องการพลังงานทําความเย็น มีส่วนช่วยในการประหยัดพลังงานอย่างมีนัยสําคัญ

แนวทางการก่อสร้างคาร์บอนต่ำ

วัสดุก่อสร้างเป็นแหล่งสําคัญของการปล่อยคาร์บอนที่เป็นตัวเป็นตน การเปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ยั่งยืนซึ่งควรมีแหล่งที่มาในท้องถิ่นและกลยุทธ์การออกแบบแบบพาสซีฟสามารถลดรอยเท้าคาร์บอนของอาคารได้อย่างมาก

การใช้คอนกรีตที่รีไซเคิลจากขยะก่อสร้างช่วยลดความต้องการวัตถุดิบบริสุทธิ์ในขณะที่ลดการปล่อยมลพิษจากการผลิตคอนกรีต นอกจากนี้ วัสดุทางเลือกที่ทําจากคอนกรีตรีไซเคิล เช่น บล็อก เครื่องปูผิวทาง หน่วยสําเร็จรูป คุณสมบัติฮาร์ดสเคปที่ไม่ใช่โครงสร้างอื่น ๆ และบล็อกคอนกรีตมวลเบา (AAC) ยังเสนอตัวเลือกที่มีน้ําหนักเบาและประหยัดพลังงานพร้อมการปล่อยคาร์บอนที่เป็นตัวเป็นตนที่ต่ำกว่า

กลยุทธ์การออกแบบแบบพาสซีฟ ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศตามธรรมชาติ แสงกลางวัน และฉนวนกันความร้อน สามารถลดความต้องการพลังงานได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น วิทยาเขตมหาวิทยาลัย CEPT ในอาเมดาบัดใช้เทคนิคการระบายความร้อนแบบพาสซีฟ เช่น การแรเงา การระบายอากาศข้าม และมวลความร้อน เพื่อรักษาอุณหภูมิในร่มที่สะดวกสบายโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องปรับอากาศมากเกินไป

อาคารค้ำจุนเมือง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสําคัญที่จะต้องลดการปล่อยมลพิษ ที่นี่ อาคารสีเขียวมีบทบาทสําคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ํา และลดการสร้างขยะ

สร้างที่ดีขึ้นด้วยนโยบายและการทํางานร่วมกัน

นอกจากระบบการให้คะแนนดาวแล้ว อินเดียยังดําเนินขั้นตอนนโยบายหลายประการเพื่อผลักดันการลดคาร์บอนในเมือง รหัสอาคารอนุรักษ์พลังงาน (ECBC) กําหนดมาตรฐานประสิทธิภาพการใช้พลังงานสําหรับอาคารพาณิชย์ ในขณะที่โครงการริเริ่ม เช่น ภารกิจเมืองอัจฉริยะ ส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนและนวัตกรรมดิจิทัล

อย่างไรก็ตาม เพื่อเร่งความคืบหน้า จําเป็นต้องมีการดําเนินการอย่างกว้างขวาง ผู้กําหนดนโยบายของอินเดียควรบังคับใช้รหัสประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่บังคับใช้สําหรับอาคารใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่แค่อาคารเชิงพาณิชย์เท่านั้น นโยบายควรจัดลําดับความสําคัญของการแก้ปัญหาตามธรรมชาติในการวางผังเมือง การบูรณาการมาตรการการปรับตัวต่อสภาพอากาศเข้ากับกฎหมายการแบ่งเขตและการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน การขยายสิ่งจูงใจทางการเงินสําหรับนักพัฒนาและเจ้าของบ้านที่ใช้เทคนิคการก่อสร้างที่ยั่งยืนสามารถส่งเสริมการยอมรับในขนาดใหญ่ได้

อินเดียยังสามารถเรียนรู้จากแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดระดับโลกได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น โครงการรับรองเครื่องหมายสีเขียวของสิงคโปร์ให้สิ่งจูงใจเงินสดและตัวเลือกทางการเงินสําหรับอาคารสีเขียว ซึ่งกระตุ้นให้นักพัฒนาให้ความสําคัญกับความยั่งยืน

การจัดแนวสิ่งจูงใจ การเสริมสร้างกฎระเบียบ และส่งเสริมความร่วมมือของอุตสาหกรรมล้วนมีความสําคัญในการสร้างใจกลางเมืองที่ยั่งยืนและยืดหยุ่น การเปลี่ยนแปลงไปสู่สภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นด้วยคาร์บอนต่ำเป็นโอกาสในการสร้างเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีสุขภาพดี และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ประชาชนเจริญเติบโตและรักษาความปลอดภัยและสุขภาพของคนรุ่นอนาคต

ที่มา : Godrej Enterprises