โลกเดือด จึงต้องเปลี่ยน! ธ.กรุงเทพ ดันธุรกิจไทยสู่ Green Transition

เพื่อรับมือกระแสเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและกติกาการค้าโลกยุคใหม่ ธนาคารกรุงเทพจัดเวทีเสวนาใหญ่ “The Great Green Transition” เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เชิญผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำมาร่วมแบ่งปันมุมมอง กลยุทธ์ และประสบการณ์การขับเคลื่อนธุรกิจในยุคเปลี่ยนผ่านของสภาพภูมิอากาศและความท้าทายทางการค้า

เวทีนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงที่ภาคธุรกิจต้องเผชิญ แต่ยังเปิดพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้ การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ และการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสีเขีย

ธนาคารกรุงเทพมุ่งมั่นยืนเคียงข้างภาคธุรกิจในฐานะ “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกยุคใหม่ที่เน้นทั้งสิ่งแวดล้อมและความสามารถในการแข่งขัน

จากภาวะโลกร้อน สู่ภาวะโลกเดือด

ชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เหตุผลที่เราเรียกงานนี้ว่า The Great Green Transition เพราะโลกกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทุกมิติ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง

จากภาวะโลกร้อน (Global Warming) สู่ภาวะที่หนักหน่วงยิ่งกว่า คือ Global Boiling ซึ่งไม่ใช่เพียงคำเปรียบเปรย แต่เป็นความจริงที่สะท้อนผ่านอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่ทะลุเกณฑ์ความปลอดภัยในหลายภูมิภาค ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยครั้ง รุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลก

ปีที่ผ่านมา เราเห็นเหตุการณ์น้ำท่วม ดินถล่ม และพายุรุนแรงทั้งในประเทศไทย เช่น เชียงราย เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงในต่างประเทศ เช่น สเปน เยอรมนี เนเธอร์แลนด์ จีน และสหรัฐอเมริกา เหล่านี้กำลังกลายเป็น New Normal ที่โลกต้องเผชิญ และเป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกภาคส่วนหันมาทบทวนแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่สร้างภาระให้กับสิ่งแวดล้อม

มาตรการเชิงรุก CBAM

ชาติศิริ กล่าวด้วยว่า ทั่วโลกเริ่มตอบสนองต่อวิกฤตนี้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วที่ออกมาตรการเชิงรุก เช่น มาตรการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ที่จะเริ่มบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในต้นปีหน้า โดยเรียกเก็บค่าธรรมเนียมคาร์บอนจากสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย และไฟฟ้า ซึ่งมีแนวโน้มจะขยายครอบคลุมไปยังสินค้าอื่นๆ ในอนาคต

หลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แคนาดา และออสเตรเลีย ก็กำลังพิจารณาดำเนินมาตรการในแนวทางเดียวกัน สะท้อนให้เห็นว่า "กติกาการค้าโลกใหม่" กำลังถูกสร้างขึ้น และประเทศที่ไม่สามารถปรับตัวได้ทัน จะต้องเผชิญกับอุปสรรคเชิงโครงสร้างในการเข้าถึงตลาดโลก

ดังนั้น ภาคธุรกิจไทยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัวอย่างจริงจัง เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน และพร้อมรับมือกับกติกาโลกใหม่ หากล่าช้าหรือเพิกเฉย ต้นทุนในการปรับตัวจะสูงขึ้น และโอกาสในการขยายตลาดจะถูกจำกัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ห่วงโซ่อุปทานคาร์บอนต่ำ

ชาติศิริ กล่าวว่า หัวใจของ Green Transition คือการเข้าใจว่าธุรกิจของเราปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากน้อยเพียงใด จะเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานคาร์บอนต่ำอย่างไร จะลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต หรือ Decarbonization ได้อย่างไร และจะนำนวัตกรรมสีเขียวมาใช้เป็นแต้มต่อในการแข่งขันได้อย่างไร

แนวทางนี้ต้องดำเนินอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมทุกระบบ ทั้งด้านพลังงาน การขนส่ง การผลิต อาคารสำนักงาน และโรงงาน ให้สอดคล้องกับแนวทาง Green Building และที่สำคัญ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการเงิน ภาควิชาการ และประชาชน ในการร่วมกันสร้างระบบนิเวศทางเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน

ธนาคารกรุงเทพฯ ภายใต้โครงการ The Great Green Transition ได้จัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น “Transition Academy” เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ การสัมมนาเชิงวิชาการ การเผยแพร่ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย และการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัปด้านสิ่งแวดล้อม เช่น กิจกรรม “Green Innovation Solution Startuping” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัปเข้าถึงตลาดและแหล่งทุน แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ให้ภาคธุรกิจได้เรียนรู้และนำนวัตกรรมมาใช้จริงจัง ปีนี้มีผู้สมัครเข้าร่วมถึง 44 บริษัท โดยคัดเลือก 3 บริษัทที่โดดเด่นมาเสนอผลงานบนเวที และอีก 10 บริษัทร่วมแสดงผลงานบริเวณหน้างาน

นอกจากการเสริมสร้างองค์ความรู้แล้ว ธนาคารกรุงเทพฯ ยังพร้อมสนับสนุนลูกค้าด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่าน อาทิ

• สินเชื่อบัวหลวงกรีน สำหรับธุรกิจที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
• Transformation Loan สำหรับธุรกิจที่ต้องการยกระดับเข้าสู่ยุคดิจิทัล
• Green Solar Energy Loan สำหรับพลังงานสะอาด พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอนของการปรับตัว

“เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็น เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน ที่จะอยู่เคียงข้างผู้ประกอบการไทยในช่วงเวลาสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เรามั่นใจว่าโครงการ The Great Green Transition ที่ครอบคลุมทั้งการให้ความรู้ การพัฒนาทักษะ การสร้างเครือข่าย และการสนับสนุนทางการเงิน จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยให้ภาคธุรกิจไทยสามารถรับมือกับกติกาโลกใหม่ พร้อมสร้างโอกาสในการขยายตลาด เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ และผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions อย่างมั่นคงและยั่งยืน”

เปิดโลกธุรกิจสีเขียวกับ 5 วิทยากรชั้นนำ

เวทีเสวนาใหญ่ “The Great Green Transition” ยังได้มีผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิด 3 หัวข้อเสวนาเจาะลึก ได้แก่

“โลกเดือดกับผลกระทบต่อประเทศไทย” โดย ดร. พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

“นวัตกรรมกรีน: ทางรอดของธุรกิจไทย” โดย Tim McCaffery Global Investment Director, บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

เสวนาร่วม “The Great Green Transition: ธุรกิจต้องปรับตัวอย่างไร?” โดย พีรพงศ์ กรินชัย ผู้บริหารสูงสุด สายงานวิศวกรรมกลาง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน), กลอยตา ณ ถลาง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ งานบริหารความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ มงคล ตั้งศิริวิช ประธานบริษัทดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา บริษัท ชไนเดอร์ อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินรายการโดย ดร. กอบศักดิ์ ภูตระกูล