ปี 2025 องค์กรการกุศลทั่วโลกขาดแคลนเงินทุนหนัก หลังผู้บริจาคตัดงบประมาณ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา องค์กรระดับโลกหลายแห่งเผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในการบรรลุเป้าหมายการระดมทุน เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ วิกฤตการณ์ระดับโลก และการเปลี่ยนแปลงความสำคัญของผู้บริจาค ซึ่งส่งผลกระทบต่อการไหลของเงินทุน องค์กรที่สำคัญอย่าง รวมถึง UNICEF (กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ), UN World Food Programme (WFP) - โครงการอาหารโลก และ Save the Children ต่างก็ต้องเผชิญกับการขาดแคลนเงินทุน แม้ว่าความต้องการบริการของพวกเขาจะยังคงเร่งด่วน

การต่อสู้เพื่อระดมทุนสำหรับสาเหตุด้านมนุษยธรรมระดับโลกไม่ใช่แค่ปัญหาทางการเงิน แต่เป็นเรื่องของชีวิตและความตายของผู้คนนับล้าน ตามข้อมูลจาก Global Humanitarian Assistance ระบุว่า ในปี 2024 ได้มีการร้องขอเงินทุนสำหรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม 29.3 พันล้านดอลลาร์ แต่มีเงินทุนเพียง 61% ของเป้าหมายที่สามารถระดมได้

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugees : UNHCR) ระบุว่า ผู้คนมากกว่า 100 ล้านคน ทั่วโลกต้องพลัดถิ่นจากความขัดแย้ง ภัยพิบัติจากสภาพภูมิอากาศ และวิกฤตการณ์อื่นๆ ในปี 2024 ขณะที่เด็กกว่า 15 ล้านคน เสียชีวิตทุกปีจากสาเหตุที่สามารถป้องกันได้ ซึ่งจำนวนมากมาจากพื้นที่ที่ UNICEF และ Save the Children มีการดำเนินงานมากที่สุด

การต่อสู้ของ UNICEF ในการบรรลุเป้าหมายการระดมทุน

UNICEF ซึ่งเป็นองค์กรของสหประชาชาติที่มุ่งเน้นการพัฒนาและช่วยเหลือเด็กในระดับโลก ขึ้นอยู่กับการบริจาคจากรัฐบาล ผู้บริจาคส่วนบุคคล และพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่มุ่งปรับปรุงชีวิตเด็กๆ ทั่วโลก แม้จะมีความต้องการบริการของ UNICEF ที่เพิ่มขึ้น แต่ในปัจจุบันองค์กรนี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากในการบรรลุเป้าหมายการระดมทุนประจำปี

• เป้าหมายการระดมทุนประจำปี : เป้าหมายของ UNICEF สำหรับปี 2025 คือประมาณ 7 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นด้านสุขภาพเด็ก การศึกษา โภชนาการ และการช่วยเหลือฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม UNICEF รายงานว่าในปี 2024 มี การขาดแคลนเงินทุนถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ต่างๆ เช่น การย้ายถิ่นของผู้ลี้ภัยในซีเรีย ยูเครน และบางพื้นที่ในแอฟริกา
• ผลกระทบจากการขาดแคลนเงินทุน : ตามรายงานของ UNICEF การขาดแคลนเงินทุนเหล่านี้ทำให้โครงการสำคัญต่างๆ เช่น แคมเปญการฉีดวัคซีน การสร้างโรงเรียนใหม่ และโครงการโภชนาการในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามล่าช้าไป เงินทุนที่ขาดหายไปทำให้ความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ภายในปี 2030 อาจหยุดชะงัก
• การลดลงของการบริจาคจากผู้สนับสนุนหลัก : รายงานจาก UNICEF ในปี 2024 เปิดเผยว่า เงินบริจาคจากประเทศผู้สนับสนุนหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และ ญี่ปุ่น ลดลงเฉลี่ย 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความท้าทายทางเศรษฐกิจภายในประเทศ

ยูนิเซฟขอวิงวอน

แคทเธอรีน รัสเซลล์ ผู้อำนวยการบริหารยูนิเซฟ กล่าวว่า การตัดเงินทุนช่วยเหลือต่างประเทศในหลายประเทศส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสามารถของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติในการเข้าถึงเด็กจำนวนหลายล้านคนที่ต้องการความช่วยเหลือ

การตัดลดงบประมาณของหลายประเทศผู้บริจาคเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ในช่วงเวลาที่ความต้องการด้านมนุษยธรรมเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เด็กหลายล้านคนกำลังเผชิญกับผลกระทบของสงคราม พวกเขาต้องการวัคซีนป้องกันโรคร้ายแรง เช่น หัดและโปลิโอ และต้องได้รับการศึกษาและการดูแลสุขภาพ

แม้ว่ายูนิเซฟได้เพิ่มประสิทธิภาพและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในการดำเนินงาน เพื่อนำทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดไปช่วยเหลือเด็กให้ได้มากที่สุด แต่การปรับลดงบประมาณครั้งใหม่นี้ได้ก่อให้เกิดวิกฤตด้านเงินทุนช่วยเหลือทั่วโลก ซึ่งจะทำให้ชีวิตของเด็กอีกหลายล้านคนตกอยู่ในความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

ยูนิเซฟพึ่งพาเงินทุนจากการสนับสนุนโดยสมัครใจของรัฐบาล ภาคเอกชน และประชาชนทั่วโลก เงินทุนเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถช่วยชีวิตเด็กหลายล้านคน ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ และลดความเสี่ยงของความไม่สงบและความรุนแรง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ยูนิเซฟและพันธมิตรได้สร้างความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ โดยนับตั้งแต่ปี 2543 อัตราการเสียชีวิตของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปีทั่วโลกลดลงถึงร้อยละ 50 เด็กหลายล้านคนรอดชีวิต มีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแรง และมีอนาคตที่สดใส

"ยูนิเซฟขอวิงวอนให้ผู้บริจาคทุกภาคส่วนยังคงสนับสนุนโครงการช่วยเหลือเด็กทั่วโลกซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดต่อไป เพราะเราไม่สามารถทอดทิ้งพวกเขาได้ในเวลานี้"

WFP สู้หิวโหย แต่ได้รับเงินทุนจำกัด

UN World Food Programme (WFP) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์กรด้านมนุษยธรรมที่สำคัญ กำลังเผชิญกับความกดดันที่เพิ่มขึ้นในการบรรลุเป้าหมายการระดมทุนท่ามกลางวิกฤตการณ์ความหิวโหยที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเกิดจากสงคราม ภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ

• เป้าหมายการระดมทุนประจำปี : ในปี 2025 WFP ตั้งเป้าหมายที่จะระดมทุน 18 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนโครงการช่วยเหลืออาหารฉุกเฉิน แต่ในปี 2024 องค์กรนี้พบกับ การขาดแคลนเงินทุนถึง 2.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ประชาชนหลายล้านคนเสี่ยงต่อความไม่มั่นคงทางอาหาร
• วิกฤตการณ์ความหิวโหยทั่วโลก : WFP รายงานว่าในปี 2024 มี 346 ล้านคน ทั่วโลกที่ประสบกับปัญหาความหิวโหย ซึ่งตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในปี 2024 WFP ได้เข้าถึงผู้คนกว่า 128 ล้านคน ด้วยการช่วยเหลือด้านอาหาร แต่ก็ยังมีแค่ 50% ของเงินทุนที่จำเป็นในการดำเนินการ
• ปัญหาการระดมทุน : ส่วนใหญ่ของเงินทุนของ WFP มาจากการบริจาคจากรัฐบาลผู้สนับสนุน แต่การบริจาคเหล่านี้ไม่สามารถตามทันกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากวิกฤตต่างๆ รวมถึงความไม่มั่นคงทางการเมืองในบางประเทศที่กำลังได้รับความช่วยเหลือ

Save the Children เงินทุนกว่า 90% มาจากภาครัฐ

Save the Children ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการคุ้มครองเด็ก การศึกษา และสุขภาพ ก็ยังคงประสบปัญหาในการบรรลุเป้าหมายการระดมทุนในปี 2025 ด้วยการตัดงบประมาณที่ส่งผลกระทบต่อโครงการที่สำคัญทั่วโลก

• เป้าหมายการระดมทุนประจำปี : Save the Children ตั้งเป้าหมายที่จะระดมทุน 3.2 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 แต่เป้าหมายนี้ดูเหมือนจะยากที่จะบรรลุ ในปี 2024 องค์กรรายงานว่าเกิด การขาดแคลนเงินทุนถึง 700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ไม่สามารถดำเนินโครงการช่วยเหลือในพื้นที่เช่น เยเมน ซีเรีย และเอธิโอเปียได้อย่างเต็มที่
• การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริจาค : Save the Children พบว่าผู้บริจาคเริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น แทนที่จะสนับสนุนการช่วยเหลือเด็กในพื้นที่ที่ประสบกับวิกฤตสงคราม ซึ่งทำให้บางโครงการของ Save the Children ขาดแคลนเงินทุน แม้ว่าจะมีความต้องการอย่างเร่งด่วนก็ตาม
• ความพึ่งพาการระดมทุน : เงินทุนกว่า 90% ของ Save the Children มาจากการบริจาคส่วนตัวและเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล แต่ในช่วงหลังๆ การบริจาคจากรัฐบาลมีความไม่แน่นอนมากขึ้น ซึ่งทำให้การวางแผนและการดำเนินโครงการระยะยาวเป็นเรื่องที่ยากขึ้น

มูลนิธิศุภนิมิตฯ ช่วยเหลือเด็ก ครอบครัว ชุมชน

มูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย (World Vision Foundation of Thailand) ที่ได้ดำเนินพันธกิจในไทยมาแล้วกว่า 50 ปี เป้าหมาย คือการเข้าช่วยเหลือเด็ก ครอบครัว ชุมชน โดยช่วยเหลือและพัฒนาทุกคนในพื้นที่ โดยอาศัยความร่วมมือกับองค์กรท้องถิ่นและชุมชนในพื้นที่กว่า 36 จังหวัดของประเทศ ก็เป็นองค์กรที่ผ่านความท้าทายมาเช่นกัน

โดย “รสลิน โกแวร์” ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2568 นี้ ศุภนิมิตฯยังคงเดินหน้าสานต่อพันธกิจในงานการพัฒนาเพื่อต่อยอดและปรับปรุงแนวทางในการดำเนินงานและติดตาม เพื่อให้สามารถเข้าถึงและช่วยเหลือเด็กเปราะบางยากไร้ที่สุดให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“สามสี่ปีที่ผ่านมา เป็นปีแห่งความท้าทายสำหรับโครงการอุปการะเด็กของศุภนิมิตฯ เพราะหลังจากโควิดระบาดและเศรษฐกิจถดถอยทำให้คนถอนการอุปการะเด็ก 3,000-4,000 กว่าคน ทำให้เราช่วยเด็กได้ไม่ถึง 1,000 คนต่อปี แต่ปี 2024 มีแนวโน้มดีขึ้น และตอนนี้มีเด็กในการอุปการะกว่า 39,000 คน

เพราะเราปรับตัวลุยในเรื่องของดิจิทัลมากขึ้น และทำโครงการที่ภาคธุรกิจสนใจมีส่วนร่วมช่วยเหลือมากขึ้น ปีนี้เราตั้งเป้าได้ทุนช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน สำหรับทุกโครงการรวม 500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการอุปการะเด็กและโครงการพัฒนาเด็กประมาณ 280 ล้านบาท”

ท่ามกลางความท้าทายที่เพิ่มขึ้น องค์กรเหล่านี้จะได้รับการสนับสนุนที่พวกเขาต้องการได้อย่างไร? ทุกความพยายามมีความสำคัญในการตอบสนองต่อความต้องการเร่งด่วนของเด็กและครอบครัวหลายล้านคนทั่วโลก