World Economic Forum 2025 กระตุ้นนานาประเทศ ใช้นวัตกรรมเพื่อปกป้องโลก

World Economic Forum 2025 กระตุ้นนานาประเทศ ใช้นวัตกรรมเพื่อปกป้องโลก

การประชุมสภาเศรษฐกิจโลก 2025 มีวาระ Safeguarding the Planet เป็นหนึ่งในหัวข้อหลัก ในปีนี้จะขยายความพยายามในการลดการปล่อยคาร์บอนให้น้อยลง โดยการลงทุนในวิถีทางที่เป็นประโยชน์ต่อธรรมชาติ และการสร้างความยั่งยืนให้กับระบบทรัพยากร

KEY

POINTS

  • World Economic Forum 2025 มีวาระ Safeguarding the Planet (การปกป้องโลก) เป็นหนึ่งในหัวข้อหลัก
  • ปีนี้ขยายความพยายามในการปล่อยคาร์บอนให้น้อยลง ลงทุนในวิถีทางที่เป็นประโยชน์ต่อธรรมชาติ และการสร้างความยั่งยืนให้กับระบบทรัพยากร
  • เทคโนโลยีที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบันสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 66% ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก

ผู้นำระดับสูงจากภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม รวมถึงนักคิดด้านวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมชั้นนำเข้าร่วมประชุมระดับโลกประจำปีของการประชุมประจำปีของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum : WEF) ครั้งที่ 55 ระหว่างวันที่ 20-24 มกราคม 2025 ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการร่วมมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบสนองต่อบริบทที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ ภายใต้หัวข้อ Collaboration for the Intelligent Age (ความร่วมมือเพื่อยุคแห่งปัญญา) โดยมีวาระอภิปรายดังนี้

  • Rebuilding Trust (การสร้างความไว้วางใจใหม่) การหาวิธีใหม่ๆ ในการร่วมมือกันแก้ปัญหา ทั้งในระดับนานาชาติและสังคม
  • Reimagining Growth (การพิจารณาใหม่) การระบุแหล่งที่มาของการเติบโตใหม่ในเศรษฐกิจโลก
  • Investing in People (การลงทุนในคน) ภาครัฐและเอกชนทำงานร่วมกันเพื่อการพัฒนาทุนมนุษย์และการสร้างงานที่ดี
  • Safeguarding the Planet (การปกป้องโลก) กระตุ้นการดำเนินการด้านพลังงาน สภาพอากาศ และธรรมชาติผ่านการเป็นพันธมิตรเชิงนวัตกรรม
  • Industries in the Intelligent Age (อุตสาหกรรมในยุคที่ชาญฉลาด) การปรับสมดุลระหว่างเป้าหมายระยะสั้นกับความจำเป็นระยะยาวในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม

Safeguarding the Planet

สำหรับวาระ "Safeguarding the Planet" เน้นการกระตุ้นการดำเนินการด้านพลังงาน สภาพอากาศ และธรรมชาติผ่านการเป็นพันธมิตรเชิงนวัตกรรม ปีนี้ปัจจัยสำคัญที่จะหารือคือวิธีขยายความพยายามในการปล่อยคาร์บอนให้น้อยลง ลงทุนในวิถีทางที่เป็นประโยชน์ต่อธรรมชาติ และการสร้างความยั่งยืนให้กับระบบทรัพยากร

นายเคลาส์ ชวาบ ผู้ก่อตั้งและประธานโครงการ WEF กล่าวว่า การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 จะต้องการความพยายามร่วมกันจากทุกภาคส่วน เราจะสำรวจว่าเทคโนโลยีล่าสุดและพันธมิตรเชิงกลยุทธ์สามารถขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านทั่วโลกไปยังพลังงานสะอาดและวิธีปฏิบัติที่ยั่งยืนได้อย่างไร

ความร่วมมือและการเจรจาจะช่วยให้การลงทุนและการใช้เทคโนโลยีสะอาดเพื่อสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นได้นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศและธรรมชาติทั่วโลก ตลอดจนเพื่อจัดการกับ “ปัญหาทางพลังงาน” ที่ต้องจัดหาพลังงานในราคาที่เอื้อมถึง ปลอดภัย และยั่งยืน

ดาวอส กับการส่งเสริมความยั่งยืน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความยั่งยืนได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อวาระการประชุม Davos ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และความไม่เท่าเทียมกันทางสังคม

คำศัพท์ต่างๆ เช่น การเปลี่ยนผ่านพลังงานสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียน และการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ เป็นเรื่องธรรมดาในการอภิปรายของการประชุมสุดยอด และจุดเน้นของการประชุมนั้นสอดคล้องอย่างใกล้ชิดกับแนวทางที่สหประชาชาติ (United Nations) กำหนด เช่น เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs)

มีความคิดริเริ่มมากมายที่เปิดตัวที่เมืองดาวอส เพื่อเร่งความพยายามระดับโลกในการแสวงหาความยั่งยืน ตั้งแต่ข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) ไปจนถึงความก้าวหน้าในกรอบการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน และ ESG

การประชุมประจำปีนี้ที่ดาวอสยังทำหน้าที่เป็นการจัดแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัยด้วย ทั้งนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ พลังงานหมุนเวียน และเกษตรกรรมที่ยั่งยืน โดยเทคโนโลยีจำนวนมากมักจะเปิดตัวในฟอรัมนี้ ด้วยเหตุนี้ Davos จึงทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างวิทยาศาสตร์และนโยบาย

เทคโนโลยีช่วยลดก๊าซเรือนกระจก 66%

ตามข้อมูลของสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ เทคโนโลยีที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบันสามารถช่วยให้เราลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 66% ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก หากเราต้องการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจากสองปีก่อน เราก็ยังเหลืองานอีกมากที่ต้องทำ

ทั้งการขยายขอบเขตของความทะเยอทะยาน การบริหารงาน ความร่วมมือ และเงินทุนเป็นสิ่งจำเป็นในการเร่งความพยายามในการลดการปล่อยคาร์บอนเพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์

ต้องลงทุนเพิ่ม 7 เท่า เพื่อพลังงานสะอาด

ข้อมูลในบทความซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประชุมประจำปีของ WEF ระบุว่า ภูมิทัศน์พลังงานหมุนเวียนมีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างภูมิภาคต่างๆ แม้ว่าจะมีความก้าวหน้าในหลายพื้นที่ แต่ยังคงมีช่องว่างใหญ่ในด้านการเงินสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

ตามรายงานของ IEA จากงบประมาณ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐที่ได้รับการจัดสรรสำหรับพลังงานสะอาด มีเพียงประมาณ 15% เท่านั้นที่ถูกลงทุนใน Global South (ยกเว้นจีน) จำนวนเปอร์เซ็นต์นี้จำเป็นต้องเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าหรือ 7 เท่าภายในปี 2030 ซึ่งเท่ากับการลงทุนมากกว่า 1.7 ล้านล้านเหรียญสหรัฐต่อปีในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา

 

 

อ้างอิง : WEF