โคเวสโตร มุ่งพัฒนานวัตกรรม และการบรรลุเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนร่วมกัน

โคเวสโตร มุ่งพัฒนานวัตกรรม และการบรรลุเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนร่วมกัน

โคเวสโตร มุ่งพัฒนานวัตกรรมและขับเคลื่อนสู่การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน อันเป็นวิสัยทัศน์ที่สำคัญขององค์กรที่วางแนวทางการเติบโตทางเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับความยั่งยืน

การคิดและการกระทำที่ยั่งยืน ถือเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องโลกของเรา และช่วยในการพัฒนาพื้นฐานและคุณภาพชีวิตของคนนับล้าน ซึ่งความยั่งยืนเป็นองค์ประกอบหลักของภารกิจ และเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ของ โคเวสโตร รวมถึงเป็นการขับเคลื่อนเพื่อมุ่งสู่การหมุนเวียนอย่างเต็มรูปแบบตามหลัก เศรษฐกิจหมุนเวียน ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่สำคัญขององค์กร ซึ่งได้วางแนวทางการเติบโตทางเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับความยั่งยืน ด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม สามารถทำกำไรและลดผลกระทบต่อธรรมชาติได้ในขณะเดียวกัน

โคเวสโตรได้มีการวางแนวทางและกลยุทธ์ต่างๆ ในการดำเนินการและพัฒนาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นเพื่อก้าวสู่เส้นทางการหมุนเวียนอย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของลูกค้าทั้งในด้านภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนผู้บริโภค ในขณะเดียวกันก็มีเป้าหมายด้านความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศภายในปี 2578 ที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์จากการผลิต และจากพลังงานที่เราสรรหา ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายอย่างมาก 

ก้าวสำคัญในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางสภาพภูมิอากาศ

โคเวสโตร ต้องขอบคุณความสำเร็จในการดำเนินการที่เป็นเลิศของส่วนการผลิตทั่วโลกของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึงศูนย์การผลิตมาบตาพุดในประเทศไทย ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 54% แล้วในปี 2564 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2548 ซึ่งถือว่าบรรลุเป้าหมายก่อนกำหนดการเดิมถึง 4 ปี โดยมีการตั้งเป้าหมายใหม่ในการทำให้สภาพภูมิอากาศเป็นกลาง จากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 5.6 ล้านเมตริกตันในปี 2563 เราต้องการ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แบบสมบูรณ์ทุกปีและตั้งเป้าที่จะลดให้ได้ 60% (ให้เหลือ 2.2 ล้านเมตริกตัน) ภายในปี 2573 

โคเวสโตร มุ่งพัฒนานวัตกรรม และการบรรลุเป้าหมายเพื่อความยั่งยืนร่วมกัน

การจะบรรลุผลสำเร็จนี้ได้นั้น ต้องมีการวางเป้าหมายและแนวทางที่ชัดเจนและทำงานร่วมกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเป้าหมายที่โคเวสโตรมุ่งมั่นและแนวทางการดำเนินงานที่วางไว้ เช่น

1. การใช้วัตถุดิบปลอดฟอสซิล 100% ในระยะยาว โดยการใช้วัตถุดิบชีวมวลที่เพิ่มขึ้นสำหรับสีเคลือบรถยนต์และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น การรีไซเคิลเชิงกลสำหรับโพลีคาร์บอเนต การวิจัยและพัฒนาการรีไซเคิลเชิงเคมีสำหรับผลิตภัณฑ์โพลียูรีเทน การใช้ CO2 สำหรับการผลิตคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตโพลีคาร์บอเนตและโพลียูรีเทน

2. การใช้พลังงานสะอาด 100% จากแหล่งหมุนเวียนในระยะยาว โดยการเปลี่ยนไปใช้ พลังงานหมุนเวียน ในแหล่งผลิตทั่วโลก และใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมสำหรับความต้องการการผลิตไฟฟ้าส่วนใหญ่ เป็นต้น

3. การเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนให้มากขึ้น ในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ

  • ด้านพลังงาน : การผลิตใบพัดโรเตอร์ลมขนาดใหญ่ด้วยเรซินโพลียูรีเทนที่มีประสิทธิภาพ 
  • ด้านการเดินทางและการขนส่ง : ส่วนประกอบโพลีคาร์บอเนตน้ำหนักเบาช่วยประหยัดเชื้อเพลิงและการปล่อยมลพิษ
  • ด้านการก่อสร้าง : ฉนวนอาคารที่มีประสิทธิภาพสูงจากวัสดุโฟมโพลียูรีเทน
  • ผลิตภัณฑ์ฉลาก CQ : เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีวัตถุดิบทดแทนอย่างน้อย 25% ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่มีการใช้วัตถุดิบชีวมวลและรีไซเคิลมากมาย

การส่งเสริมสนับสนุนเป้าหมายและลูกค้าอย่างเต็มที่ในประเทศไทย

โคเวสโตร ในประเทศไทยก็ได้มีความพยายามในการดำเนินการในหลากหลายรูปแบบ ไม่เพียงแค่เพื่อช่วยสนับสนุนให้เป้าหมายของบริษัทประสบผลสำเร็จเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของตลาดและลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งมีเป้าหมายร่วมกัน รวมถึงการดำเนินงานตามแนวทาง เศรษฐกิจหมุนเวียน ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจและมีการขับเคลื่อนจากหลายภาคส่วนในปัจจุบัน โดยโคเวสโตรได้มีส่วนร่วมในหลากหลายมิติผ่านโครงการต่างๆ ที่ประสบผลสำเร็จไปแล้ว และที่กำลังดำเนินงานอยู่ที่ศูนย์การผลิตโคเวสโตรที่มาบตาพุด อาทิ

  • การได้รับการรับรองมาตรฐาน ISCC PLUS ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลด้านความยั่งยืนทางชีวมวลและพลังงานชีวมวล ด้วยมาตรฐานนี้บริษัทฯ สามารถผลิตและส่งมอบโพลีคาร์บอเนตคุณภาพสูงให้กับลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรวมถึงวัสดุคอมปาวด์และฟิล์มโพลีคาร์บอเนตที่ผลิตจากวัตถุดิบทางเลือกที่มีคุณภาพในระดับเดียวกับวัตถุดิบจากฟอสซิล
  • การเพิ่มขีดความสามารถและกำลังการผลิตของสายการผลิตวัสดุคอมปาวด์ที่โรงงานมาบตาพุด การเพิ่มความสามารถในการผลิตโพลีคาร์บอเนตรีไซเคิลแบบเชิงกลได้ และภายใต้โปรแกรมการขยายกำลังการผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนี้ ได้มีการเปิดโรงงานผลิตโพลีคาร์บอเนตรีไซเคิลแบบเชิงกล (Mechanical Recycling: MCR) แห่งแรกของบริษัทในเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เน้นการใช้งานภาคธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งปัจจุบันเราสามารถผลิตวัสดุโพลีคาร์บอเนตที่มาจากวัสดุรีไซเคิลถึง 90% สามารถ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลงถึง 70% เมื่อเทียบกับการผลิตพลาสติกบริสุทธิ์ที่ทำจากฟอสซิล
  • คอนเซปท์อาคารอัจริยะและประหยัดพลังงานในการก่อสร้างสายการผลิตใหม่ของโรงงานผลิตฟิล์มชนิดพิเศษ (Specialty Films) เช่น การใช้ระบบ BAS (Building Automation System) ที่มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ การติดตั้ง Energy recovery wheel ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของระบบปรับอากาศ HVAC ได้ดี หรือการนำน้ำที่เกิดจากระบบปรับอากาศ หมุนเวียนกลับไปใช้เป็นน้ำสำหรับระบบคูลลิ่งทาวเวอร์ เป็นต้น
  • การใช้ พลังงานสะอาด จากพลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าใช้ในโรงงาน ที่จะติดตั้งแล้วเสร็จและเริ่มใช้งานในช่วงต้นปี 2568 เป็นต้น

โคเวสโตร ยังคงมุ่งมั่นในการร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่คุณค่า เพื่อพัฒนานวัตกรรมและกระบวนการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายความยั่งยืนร่วมกัน และเพื่อสร้างสรรค์โลกนี้ให้สดใสยิ่งขึ้น