ฟิทช์เรทติ้งส์แนะอุตสาหกรรมไทยฟื้นตัวต่อเนื่องและเน้น ESG มากขึ้น
งานสัมมนา “Thailand Corporate Credit Outlook & ASEAN ESG Conference” ที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) นักวิเคราะห์ของฟิทช์กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมไทยจะปรับตัวดีขึ้นในปี 66 จากการฟื้นตัวของเศรฐกิจ และแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่น้อยลง
เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายจัดอันดับเครดิตภาคธุรกิจอุตสาหกรรมของ ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า อุปสงค์ภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นและการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว น่าจะทำให้บริษัทที่ฟิทช์ได้มีการจัดอันดับเครดิต ในอุตสาหกรรมอาหาร และเครื่องดื่ม, โทรคมนาคม, สายการบิน และโรงแรม มีกำไรที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและสาธารณูปโภค ซึ่งได้รับผลกระทบจากราคาเชื้อเพลิงที่อยู่ในระดับสูงในปี 2565 น่าจะมีกำไรที่ดีขึ้น จากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของกำไรของบริษัทในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ยังคงมีความท้าทายจาก อุปสงค์ที่อ่อนแอจากการเติบโตของเศรฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ราคาวัตถุดิบและราคาพลังงานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และกำลังผลิตใหม่ ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างราคาขายผลิตภัณฑ์และวัตถุติบปรับตัวลดลง ฟิทช์คาดว่ากำไรของบริษัทในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ จะปรับตัวลดลงจากระดับสูงในปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากคาดว่าราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจะปรับตัวลดลง ถึงแม้ว่าจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่ กระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนที่ลดลง น่าจะช่วยลดผลกระทบต่ออัตราส่วนหนี้สินของบริษัทน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหล่านี้
Nneka Chike-Obi หัวหน้าฝ่าย ESG Rating and Research เอเชียแปซิฟิกของ Sustainable Fitch กล่าวในการนำเสนอเรื่อง ASEAN ESG Market Trends and Developments ว่าประเทศไทย และภูมิภาคเอเชีย เผชิญความท้าทายเกี่ยวกับความยั่งยืน โดยเฉพาะความจำเป็นในการปรับตัวเข้าสู่เศรฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยที่ยังคงรักษาความมันคงทางเศรฐกิจ และรักษาสิ่งแวดล้อม การจัดหาแหล่งเงินทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Finance) โดยเฉพาะตลาดตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainable Bond Market)
