ตลาดซื้อ - ขายคาร์บอนเครดิต ดูดซับก๊าซด้วยกลไกธุรกิจ
ข้อมูลจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ระบุว่า โรดแมปของโลกกำลังมุ่งสู่การลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งก๊าซเรือนกระจกของโลกแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 การปล่อยปกติ และกลุ่ม 2 ตัวดูดก๊าซ
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันขณะนี้กลุ่มปล่อยก๊าซปกติมีมากกว่ากลุ่มดูดซับก๊าซ ซึ่งปัจจุบันโลกปล่อยก๊าซเรือนกระจกอยู่ประมาณ 5 หมื่นล้านตันต่อปี ยังเหลือที่ยังปล่อยได้อีกประมาณ 500 จิกะตัน[Gt] โดย 1 Gt = 1 000 000 000 000 กิโลกรัม [kg]
หากปล่อยมากกว่านี้อุณหภูมิโลกจะสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นไปตามเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น ดังนั้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็ต้องลดลง โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคพลังงานที่เป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระทบมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม การกักเก็บก๊าซเรือนกระจกควบคู่กันไปกับความพยายามปล่อยก๊าซ ซึ่งมีวิธีที่ง่ายที่สุดคือ การปลูกต้นไม้เพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ไทยมียุทธศาสตร์ในเรื่องนี้แล้วนั้น แต่หากไม่สามารถปลูกต้นไม้ได้ตามแผนก็ต้องใช้เทคโนโลยี/นวัตกรรมเพื่อช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ ในรูปแบบ Carbon Capture and Storage (CCS)
ถ้าสามารถสร้างอีโคซิสเต็มให้ 2 ฝั่งคือ ฝั่งที่จะต้องลดการปล่อยก๊าซก็จะต้องรับผิดชอบมากขึ้น โดยมีทั้งกฎหมาย กฎระเบียบ และอื่นๆ และการแลกเปลี่ยนความสำเร็จของการลดก๊าซเรือนกระจก ผ่านกลไกตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตเพื่อแลกเปลี่ยนกันระหว่างคนที่ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูงกับคนที่สามารถสร้างอีโคซิสเต็มเพื่อดูดซับคาร์บอนได้ในราคาถูก จะทำให้ตลาดซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต
เป็นอีกหนึ่งกลไกทางธุรกิจที่จะช่วยดูดซับความเสี่ยงจากปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนในอนาคตของโลกได้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์