ความเป็นเพื่อนและชีวิต | วรากรณ์ สามโกเศศ

ความเป็นเพื่อนและชีวิต | วรากรณ์ สามโกเศศ

“อาหารสมอง” ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่สองข้อเขียนของ "พศิน อินทรวงค์" คนหนุ่มแนวหน้าของสังคมเรา ที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับชีวิตชนิดที่คนสูงอายุกว่ามากๆ อ่านแล้วต้องพยักหน้า

“อาหารสมอง” วันนี้จานแรกเกี่ยวกับการเข้าใจผิด   ข้อหนึ่งคือการเข้าใจผิดว่า “ดีกับเขาแล้วเขาต้องดีกับเรา”  ความจริงก็คือ “เรามีหน้าที่ดีกับเขา   ส่วนเขาจะดีหรือไม่ดีกับเรา มันเป็นเรื่องของเขา”  

อีกจานหนึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติของความเป็นเพื่อนที่ดี  ข้อหนี่งก็คือ “เปลือกคือคนรู้จัก   กระพี้คือเพื่อน   แก่นคือเพื่อนแท้   หากเป็นทั้งหมดได้   นั่นคือคำว่ากัลยาณมิตร”  เมื่ออ่านสองข้อความนี้แล้วรู้สึกทึ่งในความคิด  แต่เมื่อทราบอายุของผู้เขียนแล้วยิ่งทึ่งยิ่งขึ้นเพราะมีอายุเพียง 43 ปีเท่านั้น

ผู้เขียนข้อความดังกล่าวคือ "พศิน อินทรวงค์"    ข้อความแรกอยู่ในข้อเขียนชื่อ “สิบความเข้าใจผิดที่ทำให้เราทุกข์ไปจนตาย”     ส่วนข้อความที่สองอยู่ในข้อเขียนชื่อ "คุณสมบัติของความเป็นเพื่อนที่ดี”  

คุณพศินเป็นนักแต่งเพลง    นักเขียน     นักคิดแนวธรรมะและปรัชญาเชิงปฎิบัติ   และนักพูดอีกด้วย  ผลงานนั้นมีหนังสือถึง 30 เล่ม เช่น “พระพุทธเจ้าสอนเศรษฐี”   “ปาฏิหาริย์แห่งการหยุดคิด”    “ปาฏิหาริย์แห่งความเงียบ”   “ตีตั๋วดูตัวตน”    “อำนาจพลังจิต”  ฯลฯ  นอกจากนี้ยังมีข้อเขียนสั้น ๆ อีกมากมาย  เช่น   “10 ข้อคิด ล้างพิษในใจ”  “วางใจอย่างไรจึงพัฒนาจิตได้เร็ว”    “ให้อภัยดีกับใจเธอเอง”   “ฝึกใจไม่อมทุกข์”   ฯลฯ

คุณพศินเป็นคนหนุ่มแนวหน้าของสังคมเรา ที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับชีวิตชนิดที่คนสูงอายุกว่ามากๆ  อ่านแล้วต้องพยักหน้า   จะเห็นคุณพศินในรายการต่าง ๆ ในโทรทัศน์ และโซเซียลมีเดียอยู่เสมอ เพราะเป็นวิทยากรชื่อดังและมีหนังสือขายดีมากหลายเล่ม  วันนี้ขอนำสองข้อเขียนข้างต้นมาเป็น “อาหารสมอง” เพื่อเผยแพร่
 

เรื่องการเข้าใจผิดข้างต้นนั้นมี 10 ข้อด้วยกัน เหลืออีก 9 ข้อ ดังต่อไปนี้ 
(1) เข้าใจผิดคิดว่าปัญหาคือสิ่งที่ต้องปฏิเสธ  ไม่เข้าใจว่า ปัญหาคือเรื่องธรรมดาที่ต้องเรียนรู้และยอมรับ 
(2) เข้าใจผิดว่า  ความสุขเป็นสิ่งที่ต้องแสวงหา  ไม่เข้าใจว่า ตราบใดที่ยังแสวงหา  ความสุขจะไม่มีวันเกิด 

ความเป็นเพื่อนและชีวิต | วรากรณ์ สามโกเศศ

พศิน อินทรวงค์

(3) เข้าใจผิดว่า ความคิดควบคุมได้   ไม่เข้าใจว่า  ไม่มีใครควบคุมความคิดได้ เพราะความคิดคือ ธาตุปรุงแต่งตามธรรมชาติ
(4) เข้าใจผิดว่า  อีกนานกว่าจะตาย    ไม่เข้าใจว่า ความตายมาถึงได้ทุกเมื่อ  
(5) เข้าใจผิดว่า   ทำดีแล้วต้องได้ดี    ไม่เข้าใจว่า ทำดีไม่ได้อะไร นอกจากได้ละกิเลส  
(6) เข้าใจผิดว่า   ชีวิตต้องแสวงหาความมั่นคง   ไม่เข้าใจว่า ความมั่นคงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้  
(7) เข้าใจผิดว่า ต้องรักษาทุกสิ่งให้ดีที่สุด  ไม่เข้าใจว่า ดีที่สุดคือ ไม่มีอะไรให้ต้องรักษา
(8) เข้าใจผิดว่า ความสำเร็จคือสิ่งสูงสุด   ไม่เข้าใจว่า การยึดในความสำเร็จนั้นแหละทุกข์ขั้นสูงสุด
(9) เข้าใจผิดว่า ตนเองสำคัญที่สุด  ไม่เข้าใจว่า เรื่องสำคัญที่สุดคือการไม่มีตนเอง

ในข้อเขียนที่สองเรื่องเพื่อนที่ดีมี 10 ข้อด้วยกัน เหลืออีก 9 ข้อ ดังต่อไปนี้   
(1) แม้เป็นเพื่อนที่ดีแล้ว ย่อมเข้าใจตัวตนของผู้เป็นเพื่อน  จุดอ่อน จุดแข็ง ธรรมชาติตัวตนของเขา เราต่างเป็นคนธรรมดา  หาใช่เทวดามาจากไหน เว้นที่ว่างไว้ให้เพื่อนของเราได้เป็นตัวตนในแบบธรรมชาติ เพราะเพื่อนของเราคือ มนุษย์คนหนึ่ง ผิดบ้างพลาดบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาอย่างยิ่ง

ความเป็นเพื่อนและชีวิต | วรากรณ์ สามโกเศศ

(2) แม้เป็นเพื่อนที่ดีแล้ว ควรให้กำลังใจกันและกัน พูดในสิ่งที่เพื่อนมีกำลังใจจะไปต่อ มิใช่พูดแล้วเพื่อนทุกข์ท้อ หมดเรี่ยวแรง  ทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก   ทำเรื่องเล็กให้ไม่มีเรื่อง  ความฝันใหญ่ ๆ ให้กำลังใจเขา ใจเพื่อนเราใหญ่กว่าความฝัน  อย่าดับความฝันเพื่อน   เมื่อเพื่อนพูดคุยกับเราแล้ว  เขาสมควรได้รับกำลังใจกลับไป

(3) จงแนะนำ แต่อย่าออกคำสั่ง    คำแนะนำก็คือคำแนะนำ  ไม่จำเป็นต้องทำ หรือจะทำก็ได้ ส่วนคำสั่งนั้น แม้เขาไม่ทำ  ย่อมนำความโกรธ  ความร้อนมาสู่ใจ  แนะนำเพื่อนแล้ว จงปล่อยให้เขาเป็นตัวของตัวเอง  เราเพียงอยู่เคียงข้าง   ให้เขารู้ว่าโลกของเรายังต้อนรับเขาเสมอ

(4) ความเป็นเพื่อนคือสายลมผัดผ่าน   คือการเปิดพื้นที่ให้อิสระ   ไม่ตัดสิน ไม่บงการ   ไม่ชี้ถูกชี้ผิด  คือความเท่าทัน   ทัดเทียม   ไม่มีฐานะ   ไม่มีเพศ ไม่มีวัย  ไม่มีคำนำหน้า  ไม่แบ่งแยกชาติพันธุ์  

เราเพียงรู้ว่า   คน ๆ นี้คือเพื่อนของเรา   เพื่อนของเราอาจเป็นผู้รู้    แต่เขาก็เป็นเพียงเพื่อนของเรา   เพื่อนของเราอาจเป็นคนไม่เอาไหนในสายตาคนอื่น   แต่เขาก็ยังเป็นเพื่อนของเราอยู่  เป็นเพื่อนของเราที่เราพูดคุยหยอกล้อได้ด้วยความสบายใจ   ความเป็นเพื่อนคือความผ่อนคลาย  เอนกาย สบายใจ

(5) เป็นเพื่อนกันแล้ว มิจำเป็นต้องเห็นเหมือนกันทุกอย่าง  ผลัดกันพูด ผลัดกันฟัง เป็นการถ่ายเทความรู้อย่างหนึ่ง เพื่อนรู้อะไรมาก็มาบอก เรารู้อะไรดี ๆ ก็ไปบอกเพื่อน   เราต่างชื่นชมดอกไม้ทั้งโลก   เพื่อนคือผู้นำดอกไม้ทั้งโลกมาฝากเรา

ความเป็นเพื่อนและชีวิต | วรากรณ์ สามโกเศศ

(6)  จุดความสว่างให้ตนเองก่อน  แล้วเดินไปใกล้ ๆ เพื่อน   เขาจะได้รับแสงไฟนั้น  เพียงเดินเข้าไป   แต่อย่าให้จุดแสงสว่างให้เขา  ให้เขาเป็นผู้จัดแสงนั้นเอง    หากเขาไม่จุด เราจงอยู่ใกล้ ๆ เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องเดินสู่ทางมืด   หากเขาจุดแสงสว่างของเราและเขา จะทำให้เราและเขา   ผู้เป็นเพื่อนกัน มีชีวิตที่สว่างไสวมากยิ่งขึ้น

(7) สิ่งใดที่เขาเคารพนั้นคือสิ่งที่เราสมควรให้เกียรติ   สิ่งใดที่เขารัก  นั้นคือสิ่งที่เราสมควรดูแล สิ่งใดที่ปรารถนา   นั่นคือสิ่งที่เราสมควรบอกเล่า ส่งข่าว   จงเป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ดีงามให้เพื่อนของเรา      จงเป็นสายลมเย็น    แสงดาว   และต้นหญ้าน่ารัก    ไม่ต้องเป็นสิ่งใหญ่โต   แต่จงเป็นสิ่งเล็ก ๆ เพราะสิ่งเล็ก ๆ อยู่ได้นานกว่า   เราอาจเป็นเพื่อนกับใครคนหนึ่งได้จนวันตาย

(8) ชีวิตหนึ่ง   เกิดมาคนเดียว   และตายไปคนเดียว    แต่ก่อนตาย   เราทุกคนสมควรได้รับเกียรติให้เป็นเพื่อนแท้ของคนบางคน   เรามิได้มีเพื่อนเพื่อความสุข  แต่เรามีเพื่อน เพราะต้องการให้ใครบางคนมีความสุข  ความสุขของเขาคือความสุขของเรา   และความทุกข์ของเขา จะมีเราเป็นผู้แบ่งปันเคียงข้าง   

ความเป็นเพื่อนคือสิ่งยิ่งใหญ่ไร้ตัวตน    เราไม่เคยยกย่องเพื่อน   เพราะเพื่อนมิใช่บิดา มารดา ทว่าเพื่อนทำให้โลกใบนี้น่าอยู่   เราวิ่งไปด้วยกัน   เตะลูกบอล และเล่นตุ๊กตาไปด้วยกัน  ฉันมีของเล่น   ฉันจะแบ่งให้เธอ  เพราะเราคือเพื่อนกัน

(9) เมื่ออ่านบทความนี้จบ   โปรดใช้เวลาสักเล็กน้อยแล้วนึกถึงเพื่อนของท่าน   นึกถึงความทรงจำงดงาม   นึกถึงคืนวันดี ๆ   ส่งข้อความไปทักทายบ้าง   ส่งข้อความไปขอบคุณเขาบ้าง  นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เอ่ยคำว่าคิดถึง   ไม่ได้รักหรอก   ก็ใครเล่าจะไปบอกรักเพื่อน   เพื่อนไม่ได้ยิ่งใหญ่ และต้องการอะไรขนาดนั้น    แค่บอกว่า..... เมื่อไหร่ว่าง   ไปกินข้าวกันบ้าง   ก็พอแล้ว

ถ้าเอาคำว่า”คู่ชีวิต” หรือ”คู่รัก” มาแทน “เพื่อน” ในที่นี้ก็จะได้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการมีชีวิตของทั้งสองที่มีความสุข  หวังว่าไม่จำเป็นต้องปฏิบัติข้อสุดท้ายเพราะเราอยู่ใกล้ชิดกันอยู่แล้ว.