โอเปกพลัส จะหยุดการเพิ่มกำลังการผลิตในปีหน้า หวั่นน้ำมันล้น

บลูมเบิร์ก รายงานว่า โอเปกพลัสจะระงับการเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงไตรมาสแรก หลังจากปรับเพิ่มกำลังการผลิตเล็กน้อยอีกครั้งในเดือนหน้า เนื่องจากกลุ่มกำลังพยายามรักษาสมดุลของความพยายามในการแย่งส่วนแบ่งตลาดคืนกับสัญญาณของภาวะน้ำมันล้นตลาด

สมาชิกหลักที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ได้ตกลงกันในระหว่างการประชุมทางวิดีโอเมื่อวันอาทิตย์ (2 พ.ย.68) ที่จะฟื้นฟูกำลังการผลิต 137,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนหน้า โดยให้สอดคล้องกับแผนเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน จากนั้นจะพักการผลิตตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมีนาคม

โดยปกติแล้ว ไตรมาสแรกจะเป็นช่วงที่ความต้องการน้ำมันอ่อนตัวลง และผู้แทนกล่าวว่าการตัดสินใจระงับการผลิตตั้งแต่เดือนมกราคม สะท้อนให้เห็นถึงการคาดการณ์ว่าความต้องการใช้น้ำมันจะชะลอตัวตามฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผู้ค้าน้ำมันมีความไม่แน่นอน มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้นำร่วมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพื่อการออก (โอเปก) และพันธมิตร ได้ก่อให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวโน้มอุปทานของมอสโก ในขณะเดียวกัน ผู้ค้าก็กำลังชี้ให้เห็นถึงภาวะน้ำมันล้นตลาดที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะยิ่งเพิ่มขึ้นในปีหน้า

การหยุดพัก “แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งจุดพลิกผันของสถานการณ์ แต่ผมคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่รอบคอบเมื่อพิจารณาถึงความไม่แน่นอนของภาพรวมอุปทานในไตรมาสแรก” เฮลิมา ครอฟต์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์ของ RBC Capital กล่าว

แม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรรัสเซียจะช่วยพยุงราคาน้ำมันหลังจากที่ราคาลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบห้าเดือน แต่ผู้แทนคนหนึ่งกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ยังเร็วเกินไปที่โอเปกพลัส จะประเมินผลกระทบโดยรวมต่อตลาดจากมาตรการเหล่านี้

การหยุดชะงักในช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคมจะเป็นการหยุดพักการเพิ่มกำลังการผลิตครั้งแรกของกลุ่ม นับตั้งแต่เริ่มฟื้นฟูกำลังการผลิตอย่างรวดเร็วในเดือนเมษายน จากที่ลดการผลิตไปก่อนหน้านั้น

“การที่โอเปกพลัส พักการเพิ่มการผลิตครั้งนี้ เป็นการพักที่คำนวณมาแล้ว” ฮอร์เก ลีออน นักวิเคราะห์จาก Rystad Energy AS ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านพลังงาน ซึ่งเคยทำงานให้กับสำนักเลขาธิการโอเปก กล่าว “มาตรการคว่ำบาตรผู้ผลิตน้ำมันของรัสเซียได้เพิ่มความไม่แน่นอนให้กับการคาดการณ์อุปทาน”

การหยุดพักในช่วงต้นปีหน้าจะทำให้ 8 ประเทศมีกำลังการผลิตสำรองประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันจากปริมาณการผลิตปัจจุบันที่ยังต้องฟื้นฟู ผู้แทนกล่าวว่ามีการสนับสนุนอย่างกว้างขวางต่อการตัดสินใจในวันอาทิตย์

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าลดลงประมาณ 13% ในปีนี้ ปิดต่ำกว่า 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในวันศุกร์ นอกจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียแล้ว ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการสงบศึกภาษีการค้าเป็นเวลาหนึ่งปีที่วอชิงตันและปักกิ่งบรรลุข้อตกลงกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย จะเสด็จฯ เยือนวอชิงตันในช่วงปลายเดือนนี้เพื่อพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้เรียกร้องให้โอเปกช่วยลดราคาน้ำมันหลายครั้ง

• การผลิตไม่เป็นไปตามเป้า

การเพิ่มการผลิตจริงของโอเปกพลัส นั้นต่ำกว่าปริมาณที่โฆษณาไว้มาก เนื่องจากสมาชิกบางรายชดเชยการผลิตเกินในอดีตและบางรายประสบปัญหาในการเพิ่มการผลิต ทำให้ผลกระทบต่อตลาดมีจำกัด

แม้จะมีคำเตือนจากทั่วทั้งอุตสาหกรรมเกี่ยวกับราคาที่ตกต่ำนั้น โอเปกพลัสกล่าวซ้ำหลายครั้งว่าการตัดสินใจฟื้นฟูการผลิตในปีนี้ เป็นผลมาจาก “ปัจจัยพื้นฐานตลาดที่แข็งแกร่ง” และระดับน้ำมันคงคลังที่ต่ำ ความแข็งแกร่งของราคาน้ำมันเกือบตลอดทั้งปี ขณะที่กลุ่มสามารถฟื้นฟูอุปทานน้ำมันดิบที่ 2.2 ล้านบาร์เรลได้เร็วกว่ากำหนดหนึ่งปี ก็เป็นเครื่องยืนยันจุดยืนของกลุ่มได้บางส่วน

อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณเพิ่มมากขึ้นว่า ด้วยอุปสงค์ในจีนซึ่งเป็นประเทศผู้บริโภครายใหญ่ที่ชะลอตัวลง และอุปทานน้ำมันในทวีปอเมริกาที่เฟื่องฟู ตลาดโลกกำลังเข้าสู่ภาวะอุปทานล้นตลาด บริษัทการค้าชั้นนำอย่าง Trafigura Group ระบุว่า ภาวะอุปทานล้นตลาดได้มาถึงแล้ว โดยอ้างถึงกองเรือบรรทุกน้ำมันทั่วโลกขนส่งน้ำมันมากขึ้น

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ประจำกรุงปารีสคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกอาจสูงกว่าอุปสงค์ในไตรมาสนี้มากกว่า 3 ล้านบาร์เรลต่อวัน และจะพุ่งสูงขึ้นจนล้นตลาดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในปีหน้า อย่างน้อยก็บนกระดาษ

คาดน้ำมันอาจต่ำกว่า 60 ดอลลาร์/บาร์เรล

ด้านธนาคาร JPMorgan Chase & Coและ Goldman Sachs Group Inc คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะลดลงอีกต่ำกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ภาวะตลาดที่ตกต่ำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตน้ำมัน เช่น บริษัทขุดเจาะน้ำมันหินดินดานของสหรัฐฯ แม้ว่าสหรัฐฯ จะยังคงเป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้ แต่คาดการณ์ว่าจะชะงักงันในปี 2569 และผู้บริหารด้านน้ำมันเชลล์ได้เตือนว่าเมื่อการลงทุนลดลง อุตสาหกรรมน้ำมันเชลล์กำลังเข้าสู่ "จุดเปลี่ยน"

การที่ซาอุดีอาระเบียถอนตัวจากความพยายามหลายปีในการพยุงราคาน้ำมันดิบก็ส่งผลกระทบต่อซาอุดีอาระเบียเอง การขาดดุลงบประมาณของประเทศเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาสที่สาม และถูกบังคับให้ลดการใช้จ่ายในโครงการปฏิรูปเศรษฐกิจบางโครงการ รวมถึงนีออมเมืองแห่งอนาคต

กลุ่มพันธมิตรโอเปกพลัส ซึ่งประกอบด้วย 22 ประเทศ มีกำหนดประชุมกันในวันที่ 30 พฤศจิกายน เพื่อทบทวนระดับการผลิตสำหรับปี 2569