คดีเหล็กพลิก! 'สมอ.' ถอนอายัดเหล็ก SKY คืน 'ซินเคอหยวน' ปิดฉากปมร้อน สตง.ถล่ม

รายงานข่าวระบุว่า หลังจากที่ตกเป็นประเด็นร้อนแรงระดับชาติจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2568 ซึ่งมีศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา แต่กลับส่งผลให้ ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในประเทศไทยพังถล่มลงมาจนมีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ราย และมีการพุ่งเป้าไปที่ "เหล็กข้ออ้อย" ที่มีสัญลักษณ์ 'SKY' ของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด ว่าอาจไม่ได้มาตรฐานนั้น ล่าสุด สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้มีคำสั่ง "ถอนอายัด" และส่งมอบเหล็กดังกล่าวคืนแก่บริษัทผู้ผลิตแล้ว

ย้อนรอยความไม่ชอบมาพากล

ก่อนหน้านี้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในขณะนั้น ระบุ ว่าเหล็กข้ออ้อยยี่ห้อ 'SKY' ที่ใช้ในโครงการตึก สตง. เป็นเหล็กที่ "ไม่ได้มาตรฐาน" และกระทรวงอุตสาหกรรมเคยสั่งปิดโรงงานของบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล ชั่วคราวมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567

ต่อมา ในวันที่ 2 เม.ย. 2568 สมอ. ได้เข้าอายัดเหล็กข้ออ้อยของบริษัทฯ จำนวนรวมกว่า 41,635 เส้น มูลค่า 40 ล้านบาท เพื่อนำไปตรวจสอบมาตรฐาน

ผลสอบพลิก! 'ได้มาตรฐาน' ทั้งสองล็อต

แม้จะมีการอายัดและตั้งข้อสงสัยอย่างรุนแรง แต่ผลการตรวจสอบจาก สมอ. กลับออกมาในทิศทางตรงกันข้าม โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้

การตรวจสอบครั้งที่ 1 (เก็บตัวอย่าง 2 เม.ย. 2568) โดยผลการตรวจสอบพบว่าเหล็กตัวอย่าง 'เป็นไปตามมาตรฐาน' โดยทราบผลเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2568 และในอีกกว่า 4 เดือนต่อมา (15 ก.ย. 2568) สมอ. ได้ทำหนังสือเลขที่ กต16-13/68 เพื่อ ถอนอายัด และคืนเหล็กข้ออ้อยขนาด DB32 ชั้นคุณภาพ SD50T ความยาว 10 เมตร จำนวน 16,950 เส้น ให้แก่บริษัทฯ

การตรวจสอบครั้งที่ 2 (เก็บตัวอย่าง 15 ก.ย. 2568) โดยผลการตรวจสอบพบว่าเหล็กตัวอย่าง 'เป็นไปตามมาตรฐาน' โดยทราบผลเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2568 และในวันที่ 8 ต.ค. 2568 สมอ. ได้ทำหนังสือเลขที่ กต16-15/68 เพื่อถอนอายัด และคืนเหล็กข้ออ้อยส่วนที่เหลืออีก 24,685 เส้น ให้แก่บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด

ข้อสงสัยที่ยังต้องหาคำตอบ

การที่ สมอ. ทำการถอนอายัดเหล็กทั้งหมดและยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล "เป็นไปตามมาตรฐาน" นั้น ก่อให้เกิดคำถามสำคัญตามมาว่า ถ้าเหล็กได้มาตรฐาน แล้วสาเหตุที่ตึก สตง. แห่งใหม่พังถล่มลงมาคืออะไร? เป็นที่ทราบกันว่าตึก สตง. เป็นอาคารแห่งเดียวในประเทศไทยที่พังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ความล่าช้าในการคืนเหล็กโดยแม้ผลตรวจสอบเหล็กล็อตแรกจะออกมาว่าได้มาตรฐานตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2568 แต่ สมอ. กลับใช้เวลาถึงกว่า 4 เดือน จนถึงวันที่ 15 ก.ย. 2568 จึงถอนอายัดและคืนเหล็กส่วนแรก ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงกระบวนการและธรรมาภิบาลในการทำงาน

ฟ้อง "เอกนัฏ" และพวก 3.2 พันล้านบาท 

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2568 ซิน เคอ หยวน สตีล ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองระยอง กรณีกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีคำสั่งให้บริษัทหยุดประกอบกิจการโรงงานเหล็กทั้งหมด และมีคำสั่งอายัดสินค้าเหล็กของบริษัทฯ

โดยบริษัทฯ (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้องนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ กับพวกรวม 16 คน (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1–16) เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของกรมโรงงานอุตสาหกรรมดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้ศาลบังคับให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 16 คนร่วมกันชำระค่าเสียหายแก่บริษัทฯ เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 3,218,288,376.22 บาท แบ่งเป็น ค่าสูญเสียรายได้และค่าขาดประโยชน์จากการประกอบธุรกิจ 3,141 ล้านบาท และค่าจ้างพนักงานระหว่างหยุดกิจการ 77.28 ล้านบาท รวมถึงดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปีจากต้นเงินค่าเสียหายทั้งหมดจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่ง คุ้มครองชั่วคราว ระหว่างการพิจารณาคดี เพื่อทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทฯ สามารถกลับมาดำเนินกิจการโรงงานตามปกติได้ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

ขณะเดียวกัน ยังได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองระยองอีกคดีหนึ่ง โดยฟ้องสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการบีโอไอ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และนายนฤชา ฤชุพันธุ์ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3

พร้อมกันนี้ ซินเคอหยวน ยังได้ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของบีโอไอที่สั่งเพิกถอนสิทธิและประโยชน์การลงทุนของบริษัทเป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งยื่นคำร้องให้ศาลมีคำสั่ง ทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง เพื่อให้บริษัทฯ ยังคงมีสิทธิและประโยชน์ตามเดิมได้ต่อไปในระหว่างการพิจารณาคดี จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด

การดำเนินการถอนอายัดและส่งคืนเหล็กข้ออ้อยครั้งนี้ ถือเป็นการปิดฉากปมเรื่อง "เหล็กไม่ได้มาตรฐาน" ที่ถูกกล่าวหา แต่กลับเป็นการเปิดฉากให้มีการสืบสวนสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงของการพังทลายของตึก สตง. อย่างเข้มข้นยิ่งขึ้นต่อไป